ภพนี้ตราบภิรมย์รัก นิยาย บท 22

ค่ำคืนอันสงบถูกทำลายด้วยเสียงตะโกนอย่างตกใจของหลี่อี๋เหนียง ท่ามกลางอุโบสถวุ่นวายยุ่งเหยิง

จนกระทั่งหลังเที่ยงคืน จวนหลินถึงกลับสู่ความสงบ

หลินเมิ่งหวันกลับหลับสบายทั้งคืน

จนกระทั่งเพิ่งตื่นนอน หลินเมิ่งหวันก็เห็นเจินจูยกกะละมังทองแดงเข้ามา เบ้ปากขมวดคิ้ว ด้วยสีหน้าไม่พอใจ

“เกิดเรื่องอะไรขึ้น?”

หลินเมิ่งหวันถือหวีทำจากไม้ หวีผมอันดำสลวยของตัวเองเบาๆ เอียงหน้ามองเจินจู

เจินจูวางกะละมังทองแดงไว้บนโต๊ะเครื่องแป้ง มองดูหลินเมิ่งหวันขมวดคิ้วพูด “คุณหนูรอง หลี่อี๋เหนียงกับคุณหนูใหญ่ต่างก็ถูกปล่อยตัวออกมาแล้ว”

ถูกปล่อยออกมาแล้ว?

หลินเมิ่งหวันขมวดคิ้ว มุมปากโก่งขึ้นเล็กน้อย

“หลินเป้ยเหยาไม่สบาย?”

เจินจูเบิกตาโตอย่างคาดไม่ถึง “คุณหนูรอง ท่านรู้ได้อย่างไร?”

คิดถึงยาเม็ดที่หลินเมิ่งหวันทำเมื่อคืน หัวใจของเจินจูกระตุก

“หรือว่าคุณหนูให้นาง.....โอ้โห.......”

คงไม่ใช่หลินเมิ่งหวันวางยาพิษให้หลินเป้ยเหยานะ?

หลินเมิ่งหวันถือหวีไม้ เคาะหัวของเจินจูเบาๆทีหนึ่ง

“คิดเพ้อเจ้ออะไร? คุณหนูของเจ้าเป็นคนเช่นนี้หรือ?”

“มิเช่นนั้นคุณหนูรู้ได้อย่างไร?”

เจินจูกุมหัวไว้ มองดูหลินเมิ่งหวันอย่างสงสัย

หลินเมิ่งหวันยิ้มพูด “แต่ไหนแต่ไรมาหลินเป้ยเหยาก็อ่อนแอทำอะไรไม่เป็น ไม่สบายก็เป็นเรื่องปกติไม่ใช่หรือ?”

“หลินเป้ยเหยาไม่สบาย แน่นอนว่าต้องไปรักษา หลี่อี๋เหนียงเป็นแม่ให้กำเนิดนาง แน่นอนว่าต้องดูแลนางด้วยตัวเอง การขอนี้ก็เหมาะสม ท่านพ่อและท่านย่าไม่ใจดำขัดขวางอยู่แล้ว”

“เช่นนี้แล้ว การลงโทษของพวกเขาสองคน แน่นอนว่าต้องสิ้นสุดลง”

“ข้าน้อยรู้อยู่แล้วว่าพวกเขาต้องเจ้าล้งแน่นอน”

เจินจูพูดอย่างโมโห หลินเมิ่งหวันกลับยิ้มเล็กน้อย

“ก็อาจไม่ได้เจ้าล้งทั้งหมดหรอก”

จากการรู้จักในตัวหลินเป้ยเหยาสำหรับหลินเมิ่งหวัน หลินเป้ยเหยาจะแสดงก็ต้องแสดงทั้งชุด อยากจากหลุดพ้น แน่นอนว่าต้องไม่สบายจริง”

แต่ว่า ไม่สบายนานแค่ไหน ก็ไม่ใช่สิ่งที่หลินเป้ยเหยาควบคุมได้เองแล้ว

วุ่นวายกันอยู่พักหนึ่ง การลงโทษเมื่อวาน แน่นอนว่าก็เป็นเรื่องไม่แล้วแล้วกันไป ช่างเป็นแผนการทรมานตัวเองที่ดีนัก

“อย่าสนใจพวกเขาเลย แต่งกายทำผมให้ข้า ข้าจะออกจากจวน”

เจินจูรีบพยักหน้า รับหวีไม้จากมือของหลินเมิ่งหวัน

ไม่นาน เฝ่ยชุ่ยยกถาดอาหารเดินเข้ามา

“คุณหนูรอง ข้าน้อยไปรายงานฮูหยินแล้ว และเตรียมรถม้าเรียบร้อยแล้ว”

เพิ่งพูดจบ ร่างหนึ่งก็พุ่งมาข้างหน้าของเฝ่ยชุ่ย”

วินาทีต่อมา พัดพับด้ามหนึ่งก็ยกคางเฝ่ยชุ่ยขึ้นมาเบาๆ

“แม่สาวน้อย ต้องเรียกคุณชายซิ”

น้ำเสียงหยอกล้อเข้าหูของเฝ่ยชุ่ย คนตรงหน้าผมดำสวมหมวก คิ้วโก่งตาสดใส

คนๆนี้ใบหน้าประณีต แต่ก็ไม่ลดความองอาจผึ่งผาย สวมใส่ชุดสีขาวดุจพระจันทร์ทั้งกาย สภาพช่างเหมือนดั่งคุณชายคนหนึ่ง

เฝ่ยชุ่ยเจ้า้มร้อนทันที มองดูหลินเมิ่งหวันที่แต่งกายเป็นผู้ชายตรงหน้า หัวใจกลับเต้นเร็วขึ้นอย่างควบคุมไม่ได้

แต่อารมณ์นางก็กลับมามั่นคงอย่างรวดเร็ว ยกถาดอาหารขึ้นสูงอีกเล็กน้อย

“ได้ คุณชายรีบทานอาหารเถิด รถม้ารออยู่ด้านนอกแล้ว”

หลินเมิ่งหวันมุมปากยิ้มขึ้น เก็บพัดด้วยท่าทางอันถนัด

เฝ่ยชุ่ยกำลังจะโลกใจ หลินเมิ่งหวันกลับใช้นิ้วปัดจมูกของเฝ่ยชุ่ยเบาๆไปทีหนึ่ง ระหว่างหมุนตัวก็ขยิบตาใส่เจินจูไปทีหนึ่ง

“แม่นางทั้งสองกินข้าวเป็นเพื่อนกับคุณชายคนนี้”

“คุณหนู”​

เฝ่ยชุ่ยหน้าแดงพูดอย่างโมโห “เดี๋ยวคุณหนูออกจากจวนจะเล่นไปเลื่อยไม่ได้แล้วนะ ครั้งที่แล้วคุณหนูทำให้คุณหนูบ้านหลี่หยวนไหว้วิ่งตามทั้งทาง เกือบวิ่งตามมาถึงจวน คุณหนูคงไม่ลืมหรอกนะ?”

หลินเมิ่งหวันตะลึง เรื่องในอดีตที่ฝุ่นเกาะเต็มผุดขึ้นมาในสมอง

เสมือน.......

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ภพนี้ตราบภิรมย์รัก