ภพนี้ตราบภิรมย์รัก นิยาย บท 29

จิ่งอ๋องเตี้ยนเซี่ย?

เสียงร้องโอดโอยในห้องหยุดชะงักทันที ทุกคนต่างก็มองฉู่โม่หยวนและหลินเมิ่งหวันอย่างตะลึง

ฉู่โม่หยวนสีหน้ามืดมน หลินเมิ่งหวันกลับกอดแขนเขาไว้สีหน้ายิ้มแย้ม

หลินเมิ่งหวันเงยหน้ามองฉู่โม่หยวนพูดว่า “ผู้ไม่รู้ย่อมไม่ผิด ถึงแม้คุณชายเหลียงจะลบหลู่ท่าน แต่ว่าเขาไม่ว่าข้าน้อยมาพบท่าน ความตั้งใจก็เป็นเรื่องดี จิ่งอ๋องเตี้ยนเซี่ย ท่านก็อย่ากล่าวโทษเข้าเลย”

น้ำเสียงของหลินเมิ่งหวันอ่อนโยนมาก แต่เข้าหูของทุกคนอย่างชัดเจน

นางส่งสายตาให้กับฉู่โม่หยวน อยากให้ฉู่โม่หยวนยอมรับฐานะของตัวเองตามคำพูดของนาง

ถึงแม้ฉู่โม่หยวนสามารถสู้ชนะคนได้ แต่ว่าเหลียงโม่เฉียงเมื่อครู่ตะโกนว่าจะจับคนคบชู้ คนมากมายได้ยินกันแล้ว

หลินเมิ่งหวันรู้ เรื่องนี้หากไม่อธิบายให้ชัดเจน ความบริสุทธิ์ของนางต้องถูกทำลายแน่นอน

คำครหานั้นเหมือนดั่งมีดปืนไม้กระบอง สามารถฆ่าคนได้

ชาติที่แล้วหลินเมิ่งหวันไม่เคยมีพฤติกรรมเกินเลยใดๆกับหลี่จิ่นซูเลย แต่เพียงเพราะว่านางชอบหลี่จิ่นซู อยากยกเลิกการสัญญาหมั้นหมายกับฉู่โม่หยวน ก็มีคนใส่ร้ายป้ายสีนาง บอกว่านางเอาผู้ชายคนไหนเป็นสามีก็ได้ เป็นผู้หญิงสำส่อน แม้กระทั่งมีคนพูดว่านางเสียตัวให้หลี่จิ่นซูตั้งนานแล้ว มีลูกกันแบบลับๆ

จนสุดท้าย คำครหาสารพัดที่ยิ่งเลยเถิด ชื่อเสียงหลินเมิ่งหวันเสียหายย่อยยับ ใครๆก็รุมร้าย สิ่งที่เข้าหูล้วนเป็นคำเสียดสี แม้แต่ครอบครัวนางก็ได้รับผลกระทบไปด้วย

เกิดใหม่อีกชาติ หลินเมิ่งหวันไม่มีวันให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นซ้ำอีก

ฉู่โม่หยวนมองความคาดหวังในสายตานางออก ยังไม่ได้เปิดปากพูด เหลียงโม่เฉียงที่ถูกผู้ติดตามพยุงตัวขึ้นอย่างไม่ง่ายเลยก็ด่าขึ้นมากอีก

“หลินเมิ่งหวันเจ้าเลิกแสดงได้แล้ว จิ่งอ๋องเตี้ยนเซี่ยจะปรากฏตัวในสถานที่แบบนี้ได้อย่างไร? เจ้ามันนางแพศยาที่สำส่อน วันนี้ข้าต้องจับเจ้าไปส่งทางการแน่นอน ต้องให้ฮ่องเต้ลงโทษเจ้าอย่างหนัก”

“อ้าก.......”

ฉู่โม่หยวนลงมือกะทันหัน หยิบเจ้า้วเหล้าบนโต๊ะขึ้นมาโยนไปที่ท้องของเหลียงโม่เฉียงอย่างแรง

เหลียงโม่เฉียงร้องครวญคลานออกมา ม้วนร่างกายเหมือนกุ้ง คนรับใช้ก็พยุงตัวเขาไม่อยู่

“ใครก่อเรื่องวุ่นวายที่นี่!”

น้ำเสียงเคร่งครัดดังขึ้น ตามมาด้วยเสียงฝีเท้าอันเสียงดัง กลุ่มคนที่แต่งกายทหารเดินเข้ามา

ผู้เป็นหัวหน้าสวมเสื้อแพรเต็มยศ ท่าทางสง่า นั่นก็คือจิงจ้าวอิ่ง

“ใต้เท้า มีคนอ้างตัวเป็นจิ้งอ๋องเตี้ยนเซี่ย!”

คนรับใช้ของเหลียงโม่เฉียงเห็นจิงจ้าวอิ่ง เสมือนคนจมน้ำได้คว้าท่อนไม้ รีบตะโกนเสียงดังทันที

เขาคุกเขาลงพื้นโดยตรง “ใต้เท้า เขาไม่เพียงแค่อ้างตัวเป็นจิ่งอ๋องเตี้ยนเซี่ย ยังทำร้ายคุณชายของข้าน้อยบาดเจ็บ ขอให้ใต้เท้าให้ความเป็นธรรมพวกเราด้วย!”

คนรับใช้คำพูดจริงจัง เพียงแค่คำพูดเขาเพิ่งจบลง ก็เห็นจิงจ้าวอิ่งสีหน้าเปลี่ยนไปอย่างมาก

“ข้าน้อยคำนับจิ่งอ๋องเตี้ยนเซี่ย!”

จิงจ้าวอิ่งคำนับต่อฉู่โม่หยวนอย่างเคารพ ก้มหน้าไม่กล้าแม้แต่หายใจเสียงดัง

“เขาเป็นจิ่งอ๋องเตี้ยนเซี่ยจริง?!”

คนในห้องต่างก็อึ้งไปทันที เหลียงโม่เฉียงที่เพิ่งถูกพยุงขึ้นมาก็ยิ่งสีหน้าหม่นหมอง กระทั่งหายใจแทบไม่ทัน จากนั้นก็เป็นลมไปโดยตรง

ฉู่โม่หยวนพูดเสียงเย็นชา “ออกไปให้หมด”

“ขอรับ!”

จิงจ้าวอิ่งขานรับ ไม่กล้าล่าช้าแม้แต่น้อย สั่งให้ลูกน้องตัวเองลากตัวพวกเหลียงโม่เฉียงออกจากห้องไป

เสียงวุ่นวายล้วนถูกกั้นไว้นอกประตูทั้งหมด

หลินเมิ่งหวันถอนใจยาว “โชคดีที่จิงจ้าวอิ่งมาแล้ว มิเช่นนั้นเกรงว่าข้าชะล้างมลทินไม่สะอาดแล้ว.......อวู๊........”

คำพูดยังพูดไม่จบ ก็กลายเป็นเสียงคลาน

รู้สึกถึงความอ่อนนุ่มที่ริมฝีปาก หลินเมิ่งหวันเบิกตากว้างทันที

กลิ่นไม้หอมอบอวลอยู่ในจมูกของนาง แขนอันแข็งเจ้าร่งที่มีเรี่ยวแรงล้อมร่างกายหลินเมิ่งหวันไว้แน่น

นางไม่สามารถหายใจได้ ไม่อาจคิดอะไรได้ กำลังตะลึงให้ฝ่ายชายตรงหน้าเป็นผู้ควบคุม

ริมฝีปากประสานกัน ความสัมผัสอันอ่อนโยนเร่าร้อนทำให้ฉู่โม่หยวนเลือดลมกระฉูด ไฟที่อัดอั้นในใจลุกโชนขึ้นมา ดวงตาทั้งคู่ที่เต็มไปด้วยความอดทนนั้นก็เต็มไปด้วยความต้องการอย่างรุนแรงที่ไม่อาจอดกลั้นได้แล้ว

หลินเมิ่งหวันหัวใจเต้นแรงดั่งเสียงฟ้าร้อง ตื่นเต้นจนร่างกายเกร็งแข็ง

นางสามารถรู้สึกได้ถึง มือใหญ่ข้างนั้นที่กั้นด้วยผ้าบางๆ นำพาความเร่าร้อนมา

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ภพนี้ตราบภิรมย์รัก