ผู้คนมองไปที่หลินเมิ่งหวันด้วยความสงสัย
ในชั่วพริบตาเดียว เสียงเพลงที่ดังก้องกังวานก็เข้ามาในหู ผู้คนต่างใจสั่น
สีหน้าของหนานมู่ชิงซีดขาวและนิ้วมือก็ดีด ได้ยินเพียงเสียง “เจิ้ง” ทันใดนั้นสายฉินใต้นิ้วมือก็ขาด!
อะไรกัน?
หลินเมิ่งหวันกำลังทำอะไร? !
หนานมู่ชิงลุกขึ้นด้วยความตื่นตระหนก หันไปมองหลินเมิ่งหวัน และพบกับสายตาที่ภาคภูมิใจของหลินเมิ่งหวัน
สีหน้าของนางซีดขาวและกำหมัดแน่น และแทบอยากจะเข้าไปฉีกหน้าของหลินเมิ่งหวันเป็นชิ้นๆ !
หลินเมิ่งหวัน นางหญิงชั่ว!
นางต้องจงใจอย่างแน่นอน!
ไม่ใช่แค่หนานมู่ชิงที่ได้รับผลกระทบ ทันทีที่เพลงบรรเลงของหลินเมิ่งหวันดังขึ้น สีหน้าของผู้ที่กำลังบรรเลงดนตรีทั้งเจ็ดคนก็เปลี่ยนไปอย่างมาก และเสียงดนตรีก็ผิดเพี้ยนไปหมด
ผู้ที่มีจิตใจแข็งแกร่ง สงบสติอารมณ์ให้มั่นคงจะบรรเลงดนตรีต่อไปได้ แต่คนส่วนใหญ่ อย่างเช่นหนานมู่ชิงจะถูกโจมตีจนแตกพ่ายไปเสียก่อน
ไม่มีเหตุผลอื่นใด เป็นเพราะเสียงบรรเลงของหลินเมิ่งหวันรุนแรงเกินไป!
“โอ้สวรรค์ นาง นาง นาง......นางหยิบปี่มอญ? ! ”
ผู้คนด้านล่างเวทีอุทานอย่างไม่อยากเชื่อสายตาและหูของตนเอง
สีหน้าของหลินเมิ่งหวันไม่เปลี่ยน และยังคงเป่าต่อไป
ถูกต้อง เครื่องดนตรีที่นางใช้ในการแข่งขันวันนี้คือปี่มอญ
เมื่อปี่มอญออกโรง ใครจะกล้าต่อกร?
พลังทะลุทะลวงของปี่มอญ ไม่มีเครื่องมืออื่นใดเทียบได้
เพียงแต่สตรีสูงศักดิ์ในเมืองหลวงโอ้อวดตัวเอง เมื่อเรียนดนตรีก็จะเลือกกู่ฉินกับกู่เจิ้งเป็นอันดับแรก หากไม่ได้ผลก็จะเรียนขลุ่ยและปี่ แม้แต่ซอสองสายก็น้อยคนที่จะไปเรียน ยิ่งไม่ต้องพูดถึงปี่มอญเลย
อีกอย่างในงานเลี้ยงอื่นๆ ก็ไม่มีปี่มอญจะปรากฏ
ด้วยเหตุนี้ ผู้คนจึงคิดไม่ถึงว่าหลินเมิ่งหวันจะเลือกใช้ปี่มอญเพื่อแข่งขัน
หลินเมิ่งหวันจงใจรอให้ทุกคนเริ่มบรรเลงดนตรีก่อน แล้วตนเองค่อยเริ่มบรรเลง และแน่นอนว่าทำให้ผู้คนคาดไม่ถึง
แต่หลินเมิ่งหวันไม่คิดเลยว่าหนานมู่ชิงจะตื่นตระหนกจนทำสายฉินขาด
ที่แท้สิ่งที่นางพูดกับหนานมู่ชิงก็ส่งผลกระทบอย่างมากต่อหนานมู่ชิง
หลังจากการบรรเลงของหลินเมิ่งหวัน หญิงสาวหลายคนที่จิตใจมั่นคงและยืนกรานที่จะบรรเลงดนตรีก็สีหน้าซีดขาว เหงื่อออกมาก และมักจะดีดผิดเพี้ยน
เป็นเพราะภายใต้เสียงของปี่มอญ จึงเป็นเรื่องยากที่พวกนางจะจำโน้ตดนตรีของตัวเองได้อย่างแม่นยำ หลายคนหยุดบรรเลงด้วยความหงุดหงิดใจ และมองไปที่หลินเมิ่งหวันด้วยความขุ่นเคือง
พวกนางรู้ว่าหนานมู่ชิงจะเข้าร่วมการแข่งขัน จึงไม่ได้คิดที่จะชนะ เพียงแค่ต้องการมีหน้ามีตาในเทศกาลดอกไม้ และเพื่อความสะดวกในการพูดคุยเกี่ยวกับการเกี่ยวดองของตนเอง
แต่เมื่อหลินเมิ่งหวันก่อกวนเช่นนี้ พวกนางก็เหลือแต่ความอับอายขายหน้า!
หลี่เล่อหย่าไม่ถนัดเล่นดนตรี จึงไม่ได้สมัคร เมื่อเห็นว่าในตอนนี้หลินเมิ่งหวันได้เปรียบ ในใจของนางก็เป็นกังวล จึงลุกขึ้นและกล่าวว่า “หลินเมิ่งหวัน เจ้ามาก่อความวุ่นวาย! เครื่องดนตรีชนิดนี้จะนำออกมาเล่นได้อย่างไร!”
คำพูดของนางดึงผู้คนกลับมาจากความตกตะลึง
มีผู้ชมจำนวนไม่น้อยที่ชื่นชมหนานมู่ชิง และวันนี้ก็มาเพื่อดูหนานมู่ชิง จึงตั้งใจมาดูการแข่งขันเป็นพิเศษ
ในตอนนี้เมื่อเห็นสีหน้าที่ทรุดโทรมของหนานมู่ชิง บรรดาผู้ที่ชื่นชมนางก็รู้สึกสงสาร
อีกอย่างเมื่อครู่ครอบครัวของหญิงสาวที่เข้าร่วมเหล่านั้นก็ร้อนใจเช่นกัน ตอนนี้มีหลี่เล่อหย่านำข้นมาก่อน แน่นอนว่ามีคนเป็นเดือดเป็นร้อนในทันที
“คุณหนูหลี่พูดถูก! เครื่องดนตรีชนิดนี้จะนำออกมาเล่นได้อย่างไร? ช่างหยาบคายสิ้นดี ยากที่จะสง่างาม รีบไล่นางลงมา......”
“ใช่ เสียงฉินอันไพเราะของคุณหนูหนานถูกนางขัดจังหวะ นางมีเจตนาไม่ดี!”
“หลินเมิ่งหวันลงจากเวที ลงจากเวที! ลงจากเวที! นี่เป็นการโกง! ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ภพนี้ตราบภิรมย์รัก