ภพนี้ตราบภิรมย์รัก นิยาย บท 58

หลี่อี๋เหนียงกล่าวด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลว่า “ฮูหยินใหญ่ ดึกมากแล้ว ท่านกลับไปพักผ่อนก่อนดีไหมเจ้าคะ ทางด้านของคุณหนูรอง มีข้าคอยดูแลก็พอแล้วเจ้าค่ะ”

หลินซ่างซูได้ยินถึงกับชะงักงัน ขมวดคิ้วถามว่า“เป้ยเหยายังป่วยอยู่ เจ้าจะอยู่ที่นี่ดูแลเมิ่งหวันได้อย่างไร?”

หลี่อี๋เหนียงรีบกล่าวว่า“เป้ยเหยาได้ยินว่าจู่ๆคุณหนูรองก็เป็นลม จึงเกิดความเป็นห่วง เนื่องจากตนเองป่วยอยู่ ไม่สะดวกที่จะมาเยี่ยมเยียนคุณหนูรองด้วยตนเอง เลยให้ข้ามาดูเจ้าค่ะ”  

นางหลุบสายตาที่อ่อนโยนมองหลินซ่างซู กล่าวว่า“ตอนที่ข้ามาเป้ยเหยา กำชับข้าดิบดีว่าให้ดูแลคุณหนูรองดีๆ เป้ยเหยาบอกว่าช่วงไม่กี่วันนี้ได้ดื่มยา ร่างกายดีขึ้นมากแล้ว เพียงแค่พักผ่อนให้เพียงพอก็พอแล้ว อีกอย่างบ่าวรับใช้ข้างกายนางทำงานดี ไม่จำเป็นต้องใช้ข้าดูแลตลอดเวลาเจ้าค่ะ”

“พวกเจ้าเป็นห่วงเมิ่งหวันตั้งแต่ไหนแต่ไรมา”หลินซ่างซูพูดจากใจจริง ภายในใจรู้สึกอิ่มเอมปลื้มใจ

“เป็นสิ่งที่ข้าสมควรทำเจ้าค่ะ”หลี่อี๋เหนียงรีบเอ่ยพูดขึ้น ทว่ามองไปทางหลินเมิ่งหวัน แล้วยกมือเช็ดซับน้ำตาบริเวณหางตา “เพียงแค่สงสารเมิ่งหวัน ไม่มีท่านแม่ตั้งแต่เด็ก ช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้……”

หลินฮูหยินใหญ่เหลือบสายตาเย็นชามองไป กล่าวว่า“หากต้องการที่จะมาเสแสร้งไสหัวกลับไปสวนดอกบัวเสีย อย่ามาขวางหูขวางตาข้าอยู่ที่นี่”

หลี่อี๋เหนียงอึ้งสะอึกลำบากใจ ดวงตาแดงก่ำ มองไปทางหลินซ่างซูด้วยความเศร้าสร้อย

หลินซ่างซูขมวดคิ้วเป็นปมกล่าวว่า“ท่านแม่……”

“เจ้าก็ไสหัวไปด้วย”หลินฮูหยินใหญ่กล่าวด้วยความไม่สบอารมณ์ “ไม่กี่วันก่อนหน้านี้เจ้าไม่แยกแยะผิดถูกใส่ร้ายป้ายสีเมิ่งหวัน ตอนนี้พานางมาแสร้งเป็นคนดีอะไรกัน? หากไม่ใช่ว่าเจ้าทำให้เมิ่งหวันโมโห จู่ๆนางจะป่วยอย่างนี้ได้อย่างไร?”

หลินซ่างซูสะอึกอึ้ง เรื่องนี้มาโทษเขาได้อย่างไร?คำพูดนี้ของหลินฮูหยินใหญ่มันช่างไม่มีเหตุผลจริงๆ

แต่ไม่รอให้หลินซ่างซูเอ่ยปาก หลินฮูหยินใหญ่ก็มองไปทางหลี่อี๋เหนียงด้วยความโมโห กล่าวว่า“เจ้าไม่จำเป็นต้องมาเสแสร้งแกล้งอ่อนโยนอยู่ที่นี่ ยายแก่ๆอย่างข้าใช้ชีวิตมาหลายปี ยังจะดูความคิดของเจ้าไม่ออกหรือ? เมื่อสมัยนั้นหากหากไม่ใช่ว่าเจ้าทำเรื่องชั่วไร้ยางอาย ก่วนหว่านจะสุขภาพย่ำแย่ได้อย่างไร? เมิ่งหวันจะไม่มีแม่ได้อย่างไร?”

“เมื่อก่อนเมิ่งหวันไม่รู้เรื่องรู้ราว เชื่อคำพูดไพเราะไร้ความจริงใจของเจ้า แต่เจ้าวางใจเถอะ เพียงแค่ข้ายังมีชีวิตอยู่วันหนึ่ง เจ้าอย่าคิดว่าจะได้กลายเป็นฮูหยินเอก! เก็บเอาความคิดที่เอนเอียงไม่ถูกต้องของเจ้าไว้เถอะ อย่ามาบังคับให้ข้าขับไล่เจ้าออกจากจวนไปเลย!”

หลินฮูหยินใหญ่โมโหเป็นอย่างมาก ทรวงอกกระเพื่อมขึ้นอย่างแรง แม่นมหลี่ที่อยู่ข้างกายจึงรีบเข้ามาประคองเพื่อให้หลินฮูหยินใหญ่หายใจได้คล่องขึ้น

สายตาของหลี่อี๋เหนียง ฉายแววปรากฎความชิงชัง แต่ทว่ากลับกำผ้าเช็ดหน้าที่อยู่ในมือแน่น ก้มศีรษะกล่าวว่า“ข้าไม่ได้……”

“ไสหัวออกไป!”หลินฮูหยินใหญ่ตะคอกด้วยความเดือดดาล มองดูหลินเมิ่งหวันที่เป็นลมสลบไสลไม่ได้สติแล้วรู้สึกเจ็บปวดใจอย่างมาก

สีหน้าของหลินซ่างซูดูไม่ได้ แต่คำพูดของหลินฮูหยินใหญ่นั้น ก็ทำให้เขาคิดนึกถึงเรื่องน่ารังเกียจที่ผ่านมาเหล่านั้นได้

เขาสูดหายใจเข้าลึกๆ คำนับหลินฮูหยินใหญ่แล้วกล่าวว่า“ท่านแม่อย่าโมโหเลย ตอนนี้ดึกมากแล้ว ท่านเป็นห่วงเมิ่งหวันก็ต้องดูแลสุขภาพตัวเองด้วย เมิ่งหวันอยู่ที่นี่มีคนรับใช้ปรนนิบัติดูแล หมอก็อยู่ในจวนดูแล ท่านรีบกลับไปพักผ่อนเถิด”

“นั่นสิเจ้าคะฮูหยินใหญ่ คุณหนูเมิ่งหวันเป็นคนรู้ความกตัญญูมาตั้งแต่ไหนแต่ไร หากรู้ว่าท่านสุขภาพย่ำแย่เพื่อนางเช่นนี้ แน่นอนว่าจะต้องเจ็บปวดหัวใจเจ้าค่ะ”แม่นมหลี่ถือโอกาสนี้กล่าววาจาเกลี้ยกล่อม

อาจเป็นเพราะคำพูดนี้ได้ผล หลินฮูหยินใหญ่มองหลินเมิ่งหวันด้วยความสงสารเจ็บปวดใจ แล้วพยักหน้ากล่าวว่า“หากทางด้านของเมิ่งหวันเกิดอะไรขึ้น รีบแจ้งข้าทันที”

ทุกคนรีบตอบรับ หลินฮูหยินใหญ่ลุกขึ้นจากการประคองของแม่นมหลี่

แต่ไม่รอให้หลินฮูหยินใหญ่ออกไป พ่อบ้านก็รีบวิ่งเข้ามา

พ่อบ้านรีบทำความเคารพ กล่าวว่า“น้อมเคารพฮูหยินใหญ่ น้อมเคารพนายท่าน นายท่าน ฮูหยินใหญ่ จิ่งอ๋องเตี้ยนเซี่ยมาแล้วขอรับ”

จิ่งอ๋องเตี้ยนเซี่ยมาหรือ?

ทุกคนตกตะลึง ไม่กล้าล่าช้ารีบไปที่ห้องโถงทันที

ฉู่โม่หยวนสวมใส่ชุดสีดำ ยืนอยู่ด้านในห้องโถง ข้างกายนอกเหนือจากเสวียนยี ยังมีคนยืนอยู่ด้วยสองคน

การมารูปแบบนี้ ทำให้คนรู้สึกกระสับกระส่ายเหลือเกิน

หลินซ่างซูรีบสาวเท้าเดินไปหยุดอยู่ตรงหน้าฉู่โม่หยวน ไม่รอให้ให้พวกหลินซ่างซูทำความเคารพ ฉู่โม่หยวนก็พูดออกมาตรงๆว่า“ข้าเชิญหมอหลวงมา เพื่อให้หมอหลวงช่วยดูอาการของเมิ่งหวัน”

พอได้ฟัง ทุกคนสีหน้าเปลี่ยนทันที

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ภพนี้ตราบภิรมย์รัก