“อะไรน่ะ?” เจียงเว่ยหว่านขยี้ตาตัวเอง มองชิงเหมยที่กำลังร้อนรนด้วยความเหลือเชื่อ “เขาตายแล้วไม่ใช่หรือ? กลับมาได้เยี่ยงไร?”
นางรู้สึกมึนงง สามีที่ไม่เคยเห็นหน้าตายไปแล้วไม่ใช่หรือ?
ฟื้นคืนชีพหรือ?
หากนางไปจากจวนอ๋องโดยไร้เงินไร้อำนาจและไร้สถานะทางทะเบียนอันใหม่ เช่นนั้นทุกอย่างก็จะยากไปหมด เวลานี้นางจำต้องอยู่ในจวนอ๋องก่อน แต่เขาดันกลับมา นางจะเผชิญหน้ากับเขาเช่นไร?
ระหว่างที่นางกำลังครุ่นคิด ชิงเหมยก็เร่งเร้านางว่า “คุณหนู เห็นเล่ากันว่ามีคนช่วยท่านอ๋องไว้ ส่งข่าวผิดจึงกลายเป็นว่าท่านอ๋องเสียชีวิตแล้วอะไรทำนองนั้น โธ่เอ้ย! บ่าวก็เล่าไม่ถูก ท่านรีบไปต้อนรับท่านอ๋องเถิด”
ก็ได้
หากอยู่ในจวนอ๋อง นางก็ต้องเจอเซียวจิ้งเป่ยไม่วันใดก็วันหนึ่งแน่
เจียงเว่ยหว่านไปเปลี่ยนชุดสีฟ้าอ่อนในห้องแล้วไปพบหน้าเซียวจิ้งเป่ยที่ห้องโถง
ห้องโถงอันกว้างใหญ่ในจวนอ๋อง เซียวจิ้งเป่ยนั่งในตำแหน่งหลักด้วยใบหน้าเย็นชา เขากำลังรับรายงานเรื่องจวนอ๋องจากเลขานุการโจว สตรีที่นามว่าหลี่เยียนเอ๋อร์ ผู้ที่ช่วยชีวิตเขาในชายแดนภาคเหนือก็นั่งฟังเงียบๆข้างกายเขาด้วย
เจียงเว่ยหว่านเดินเข้ามายังห้องโถงด้วยท่วงท่างดงาม นางก็เห็นใบหน้าหล่อที่ทำให้โลกตะลึงแต่ไกล
ทันใดนั้นดวงตาสุกใสของเจียงเว่ยหว่านก็มืดครึ้มลง
บุรุษที่นั่งด้านในไม่ใช่คนที่นางช่วยชีวิตเมื่อคืนหรอกหรือ?
เขากับสตรีผู้นี้ไม่ใช่สามีภรรยากันหรือ?
หากเป็นสามีภรรยากันจริง แล้วนางเป็นตัวอะไร?
เจียงเว่ยหว่านมองคนในห้องโถงด้วยความเดือดดาล
เซียวจิ้งเป่ยบาดเจ็บสาหัส แต่ยามนี้เหมือนไม่เป็นอะไร นั่งตัวตรงอยู่ด้านในห้องโถง
อาภรณ์สีขาวนวล ประกอบกับใบหน้าไร้ที่ติของเขา เขาเหมือนเทวดาจุติลงมาอย่างไรอย่างนั้น กลิ่นอายสูงศักดิ์แผ่ซ่านทั่วเรือนร่าง
และมองไปยังสตรีที่กำลังยิ้มอย่างงดงามข้างกายเขา ระหว่างคิ้วอัดแน่นไปด้วยความรักใคร่ ท่าทางอรชรอ้อนแอ้นเคียงข้างเขาแล้ว ประหนึ่งเป็นช่วงเวลาแห่งความสงบสุขในชีวิต
เจียงเว่ยหว่านรู้สึกโดนสวมเขาทันที นางกำหมัดแน่น ผู้ชายคนนี้รู้ว่าตัวเองมีภรรยาแล้วใช่หรือไม่
แต่กลับมีเล็กมีน้อยข้างนอก ทั้งยังพากลับจวนอ๋องอีกด้วย เช่นนี้นหมายความว่าอย่างไร?
ท้าทายตำแหน่งของนางหรือ?
นางที่หวังว่าจะเตรียมความพร้อมก่อนไปผจญภัยในโลกกว้างที่จวนอ๋องก่อน เห็นทีคงไม่ได้ซะแล้ว
ผู้ชายอย่างอ๋องฉินควรอยู่ห่างๆ คงต้องหย่ากับเขาแล้วละ
นางพยายามระงับเพลิงโทสะในใจ กระแอมเสียงเบา
“แค่กๆ...”
พวกเซียวจิ้งเป่ยได้ยินเสียงก็หันไปเห็นสตรีอัปลักษณ์ผ่านม่านไขมุก นางเดินเหินด้วยมีจังหวะ ถึงแม้หน้าตาจะขี้เหร่มาก แต่ก็มีสง่าราศี มีเสน่ห์เฉพาะตัว
“ท่านอ๋อง เมื่อวานหม่อมฉันเพิ่งแต่งเข้ามา วันนี้ท่านก็พาอนุภรรยาเข้าจวนแล้วหรือ?” นางพูดเสียงแย้มยิ้มดั่งสายลมวสันตฤดู ทว่าคำพูดกลับเผยพลานุภาพและจองหองยิ่ง
ลือกันว่าเจียงเว่ยหว่านคือคนไร้การศึกษา ขี้เหร่ แต่งตัวไม่เป็น ทั้งยังปอดแหกอีกด้วย เมื่อเอาคำรายงานของเลขานุการโจวมาพิเคราะห์แล้ว สตรีตรงหน้าใจเสาะที่ไหน นอกจากขี้เหร่ตรงคำร่ำลือแล้ว นอกนั้นก็ไม่ตรงสักข้อ
นางจองหองเช่นนี้ ทั้งยังสามารถทำให้คนรอบข้างยำเกรงได้อีก เซียวจิ้งเป่ยแปลกใจกับความเปลี่ยนแปลงของนาง นึกสนุกขึ้นมา อมยิ้มแล้วเลิกคิ้วมองเจียงเว่ยหว่าน
“เจ้าคือพระชายาที่แต่งเข้ามาเมื่อวานหรือ?”
“เพคะ”
เซียวจิ้งเป่ยได้ยินเสียงนางแล้วก็รู้สึกคุ้นๆ ดวงตาเปล่งประกายแสงเจิดจ้าดั่งดวงดาวจ้องหน้านาง อยากหาเบาะแสบนใบหน้าที่เต็มไปด้วยกระของนาง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระราชทานสมรสบันดาลรัก
รอติดตามตอนต่อไปอยู่นะคะแอดมิน...