ตอนที่ 44 หวนคืน
งานเลี้ยงต้อนรับ เจ้าเมืองแดนเหนือที่เดินทางมาด้วยรถม้า เพียงสิบคนเท่านั้น ท่านเจ้าเมืองเดินทางพร้อมด้วยบุตรีที่อายุของนาง สิบหกปีวัยกำลังน่ารักทีเดียว แถมนางยังงดงามยิ่งกว่าในบรรดาสตรีแดนเหนือ ไท่จื่อออกมาต้อนรับที่ประตูเมืองด้วยตนเอง แถมยังกำชับกำชาให้ น้องชายอย่างท่านอ๋อง มาต้อนรับด้วยเช่นกัน
หญิงสาวที่นั่งอยู่ในรถม้า เปิดม่านที่หน้าต่าง สูดลมหายใจเข้าลึก ๆ พลางนึกถึงวันเก่า ๆ ที่เคยอาศัยอยู่ที่นี่ น้ำตาของนางก็เอ่อคลอเล็กน้อย ก่อนจะมองแผ่นหลังหนาแกร่งของใครบางคน นางเป็นบุตรีเจ้าเมืองแดนใต้นามว่าเจ้าเว่ยเว่ยงดงามไม่แพ้ใครใบหน้าของนางก็สะสวยราวกับเทพธิดา
“น้องรองรู้สึกเช่นไรบ้าง” พี่ใหญ่ เจ้าเว่ยถัง เอ่ยขึ้น มองใบหน้าของน้องสาวทีไรก็รู้สึกผิดทุกครั้งไป พวกนางสองคนพี่น้องต้องระหกระเหินรอนแรมจากบ้านเกิดเมืองนอนหวั่นเกรงภัยที่จะมาถึงตน มารดาของพวกนางทั้งสองคนเป็นฮูหยินรองของบิดาเขา เขาถือกำเนิดจากฮูหยินเอก และมารดาของเขานั้นได้ทำร้ายมารดารองแถมบีบคั้นบังคับขู่เข็ญเลือดเนื้อเชื้อไขของมารดารองอีก เมื่อรู้ว่าลูกที่จะเกิดมานั้นเป็นแฝดทำให้มารดารองต้องหนีเอาตัวรอด มาถึงเมืองหลวงเช่นนี้
ตัวเขาและบิดาตามหามานานหลายปีก็ไม่พบข่าวคราวพวกนางสักนิด จนกระทั่งวันเกิดเรื่องได้มีสารลับฉบับหนึ่งมาถึง พวกเขาสองคนพ่อลูกยังงุนงงไม่คิดว่าเรื่องราวในสารจะเป็นจริง กว่าจะรักษานางให้หายดี ก็นานพอสมควร
“พี่ใหญ่ท่านไม่ต้องรู้สึกผิดอันใด ตัวข้าและน้องสาวไม่ถือโทษโกรธท่านและท่านพ่อเจ้าค่ะ” เว่ยเว่ยเอ่ยขึ้น เพราะผ่านมาหลายเดือน เขาและบิดาก็ยังโทษตัวเองไม่หาย ได้เห็นหน้าน้องน้อยเพียงสามวัน และตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมาก็ไม่ได้พบหน้าอีกเลย บัดนี้ได้พบนางแล้ว จะดูแลให้ดีมิให้ต้องเดือดร้อนอีก
เรื่องราวในอดีตนั้นถูกฝังกลบไปพร้อมกับฮูหยินเอกของจวนแดนเหนือที่นางกระทำตนอย่างป่าเถื่อนและไม่น่าให้อภัย หลังจากที่ฮูหยินรองหนีออกจากจวนแดนเหนือนั้น ฮูหยินใหญ่ก็ล้มป่วยจนต้องลาลับไป สร้างความเสียใจให้แก่เจ้าเมืองแดนเหนือ และบุตรชายคนโตยิ่งนัก การรักษานางนั้นใช้เลือดของนางและผู้สืบทอดเผ่าบุปผาสวรรค์ และนั่นเป็นสาเหตุที่ต้องรักษาอาการของนางนานเป็นเดือน
เลือดของผู้สืบทอดมีเพียงนางสองคนรุ่นสุดท้าย แต่ทว่า ตัวของพี่ใหญ่เองก็เป็นผู้สืบทอดเช่นกัน มารดาของเขาเป็นฮูหยินเอกที่แต่งงานเข้ามาอย่างออกหน้าออกตา ส่วนฮูหยินรองนั้นเป็นสาวใช้ที่ติดตามมารับใช้เจ้านาย แต่ท่านเจ้าเมืองเกิดต้องตาสาวใช้จึงรับนางเป็นฮูหยินรอง แทนที่จะเป็นเพียงอนุภรรยาต่ำต้อย กลับได้เชิดหน้าชูตาเสียอย่างนั้น
“น้องรอง แล้วน้องสามนางจะไม่โกรธหรือ” พี่ใหญ่ เอ่ยขึ้น กลัวน้องสามรู้เรื่องราวหนหลังจะโกรธเขาและบิดา อาจจะไม่มองหน้าหรือพูดคุยเสียด้วยซ้ำไป
“แน่นอน นางต้องมีกรุ่นโกรธเป็นธรรมดา ตัวข้าเองเมื่อรู้ความจริงก่อนตาย จะให้ทำเช่นไรได้ ข้ายังมีคนข้างหลังที่ยังเป็นห่วง มิเช่นนั้นจะไม่ขอความช่วยเหลือแต่อย่างใด แต่เอาเถิด พี่ใหญ่ช่วงที่ข้ารักษาตัวท่านก็อายุหายไปสามปีถือว่าหายกันข้าไม่ติดค้างหนี้บุญคุณ ท่านพ่อและท่านก็ไม่ติดค้างข้าและน้องสาว” เว่ยเว่ยพูดขึ้น พลางนึกถึงหน้าน้องสาวที่นางให้ส่งสารลับไปนั่นดูก็รู้ว่านางงุนงงมากขนาดไหน แต่กระนั้นจะให้อธิบายก็ไม่ได้ เพราะแรงที่จะหายใจก็มีเพียงน้อยนิด เอ่ยบอกกล่าวก็กลัวจะสิ้นลมไป และดีที่พี่ใหญ่และท่านพ่อเชื่อ มิเช่นนั้นคงนอนอยู่ในหลุมอย่างถาวรเสียแล้ว
“เพียงสามปี ต่อให้สามสิบปีพี่ก็มอบให้ได้ ขอเพียงให้เจ้าฟื้นขึ้นมาก็พอใจแล้ว” เจ้าเว่ยถังเอ่ยขึ้น เขารักษานางด้วยเลือดสามหยด หนึ่งหยด เท่ากับอายุหนึ่งปีที่หายไปและนั่น ทำให้อายุเขาหายไปสามปี มันน้อยนิดยิ่งนักสำหรับความผิดที่มารดาของเขาก่อขึ้น
“พี่ใหญ่ ท่าน่ารักเสียจริง ข้าจะมอบของขวัญให้ท่านมีภรรยาสักคน รับรองว่าต้องถูกใจท่านแน่เจ้าค่ะ” เจ้าเว่ยเว่ยเอ่ยขึ้น พลางนึกถึงหน้าเด็กสาวหากรู้ว่านางพูดจริง จะทำหน้าเช่นไร และเขาผู้นั้นเล่าป่านนี้มีภรรยาใหม่ไปหรือไม่ นางมิอาจจะแน่ใจได้ เห็นเพียงแผ่นหลังของเขา นางก็ยากโอบกอดแล้ว นางคิดถึงเขายิ่งนัก
“งานเลี้ยงคืนนี้เล่าจะทำเช่นไร”
“ไม่ต้องทำเช่นไรเจ้าค่ะ ข้าจะเปิดใบหน้าของข้าให้เขาได้เห็น” นางพูดและยังมองแผ่นหลังนั่นอยู่ จนกระทั่งผู้ถูกมองรู้สึกตัว จึงได้ค่อย ๆ ควบม้าขนาบข้างรถม้าของนาง ท่านอ๋องมองดวงตานั่น กลับนึกถึงภรรยายิ่งนักช่างเหมือนกันเสียจริง
“แม่นางเจ้าช่างเหมือน” ท่านอ๋องเอ่ยขึ้น ก่อนที่จะกลั้นน้ำตาของตนเองไม่ให้ไหลออกมา ผ่านมาหลายเดือนแต่ก็คิดถึงนางยิ่งนัก เขาอยากจะพูดว่าเจ้าเหมือนภรรยาของข้าเสียจริงแต่เกรงว่าจะเป็นการเกี้ยวสตรี
“พี่ชายท่านแต่งงานมีภรรยาหรือยังเจ้าค่ะ” เจ้าเว่ยเว่ยเอ่ยถามเสียงหวาน ใบหน้าของนางแย้มยิ้มภายใต้ผ้าคลุมหน้าเพียงครึ่งเดียว มองเห็นดวงตาที่กลมโตลดลงครึ่งหนึ่งช่างดูน่ารักเหลือเกิน
“ข้าแต่งงานแล้วสตรีอย่างเจ้าเทียบนางไม่ติดหรอก” ท่านอ๋องเอ่ยขึ้น พลางฟาดแส้ลงที่หลังอาชาก่อนที่จะควบไปขนาบข้างพี่ใหญ่ของเขาหรือก็คือไท่จื่อ หัวใจของเขาเต้นตึกตักไม่เป็นจังหวะเพียงแค่ถ้อยคำพร้อมน้ำเสียงที่เหมือนภรรยาของเขาเหลือเกิน เขาจึงได้ควบหนีไปเกรงว่าจะทำร้ายน้ำใจของภรรยาที่จากไป เขาคิดถึงนางทุกเมื่อเชื่อวันรอคอยให้นางกลับมา จนแล้วจนเล่านางก็มิได้กลับมาหาเขาเลย ความหวังสุดท้ายของเขาคือ บุตรีบุญธรรมตัวน้อยเท่านั้นที่จะเยียวยาหัวใจของเขาได้
“น้องรอง เขามีภรรยาอยู่แล้วไยเจ้าช่างถือดีถามเช่นนั้น”
“ข้าแค่อยากรู้ ว่าข้าตายไปแล้วเขาจะมีภรรยาหรือไม่”
“ในเมื่อเจ้ารู้แล้วจะทำเช่นไร”
“ข้าจะหาเขาที่จวนเจ้าคะ อยากเห็นกับตาว่าภรรยาของเขานั้นงดงามปานใด เทียบกับข้าได้หรือไม่”
เมื่อรถม้าจอดที่หน้าเรือนรับรอง ไม่ได้ห่างจากตำหนักของไท่จื่อมากมายนัก แต่เจ้าเว่ยเว่ยกลับขอปลีกตั เดินออกนอกวังด้วยตนเอง และนางว่าจ้างรถม้าให้ไปส่งนางที่จวนของท่านอ๋อง นางใจร้อนอยากรู้ว่าเขามีภรรยาใหม่แล้วจริงหรือ
รถม้าจอดด้านหน้าจวนท่านอ๋อง เจ้าเว่ยเว่ยลงจากรถม้านั่น ยืนอยู่หน้าจวนนางเงยหน้ามองแผ่นป้ายใหญ่ประตูหน้าจวนของท่านอ๋อง แล้วค่อย ๆ เคาะประตูที่ปิดอยู่ พ่อบ้านคนใหม่รีบเปิดประตูออกเขาเอ่ยถามทันที “แม่นางท่านมาพบใครขอรับ”
“ข้ามาขอพบท่านอ๋อง”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ภรรยาร้อนรัก