ตอน Chapter 37 อดีตคู่หมั้น จาก ภรรยาตาหวาน (คลั่งหื่น) – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง
Chapter 37 อดีตคู่หมั้น คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายนิยายสำหรับผู้ใหญ่ ภรรยาตาหวาน (คลั่งหื่น) ที่เขียนโดย ลออจันทร์ เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย
Chapter 37 อดีตคู่หมั้น
“เสี่ยวไท่เล่าให้พ่อกับแม่ฟังหมดแล้ว เขาหมั่นไปเยี่ยมพ่อกับแม่แทนเจ้า นำผลหมากรากไม้และยาบำรุงต่างๆ เข้าไปฝากอยู่เนืองๆ”
หญิงชราเอื้อนเอ่ยด้วยความเอ็นดูนายกองหวงไท่หัวราวกับเป็นบุตรชายอีกคนหนึ่ง
“พวกเจ้าทั้งสองเดินทางกันมาเหนื่อยๆ รีบไปพักผ่อนเถอะ เดี๋ยวแม่จะเข้าไปดูในครัวเสียหน่อย เห็นทีว่าเย็นนี้ต้องเลี้ยงฉลองที่เราได้กลับมาอยู่กันอย่างพร้อมหน้าพร้อมตาอีกครั้ง”
“ข้าเองก็ว่าจะไปดูสุราเสียหน่อย สั่งให้พ่อบ้านไปซื้อมาไม่รู้ว่ารสชาติเป็นอย่างไรบ้าง เปรี้ยวปากอยากจะดื่มเสียเหลือเกิน คืนนี้คงได้ดื่มกับบุตรชายและลูกสะใภ้จนถึงเช้า”
สองผู้เฒ่าหัวเราะร่าเริงอย่างมีความสุข คนหนึ่งเดินไปกับพ่อบ้าน คนหนึ่งเดินไปหาแม่ครัว เหลือไว้เพียงสองสามีภรรยา
เมื่อบิดามารดาเดินออกไปหมดแล้ว คนตัวเล็กก็ถึงกับน้ำตาร่วงเผาะอาบแก้มอิ่ม
“เป็นอะไรไป เหตุใดเจ้าจึงร้องไห้”
ผู้เป็นสามีรีบใช้ปลายนิ้วเกลี่ยหยาดน้ำตาให้ภรรยาอย่างเบามือ แต่นั่นยิ่งทำให้นางปล่อยโฮจนใบหน้าแดงก่ำ สะอื้นฮักจนไหล่บางสั่นเทา คนตัวโตไม่รู้จะปลอบเช่นไรจึงได้ดึงภรรยาสาวเข้ามากอดเอาไว้แน่น
รออยู่เพียงครู่นางก็ค่อยๆ ขยับกายออกจากอ้อมกอด ใบหน้าของนางดูเคอะเขินที่ตนร้องไห้ราวกับเด็กเล็กๆ
“ข้าขอโทษเจ้าค่ะ”
“น้องหญิงขอโทษข้าด้วยเรื่องอันใด”
“ก็เรื่องที่ข้าร้องไห้จนทำให้ท่านอาจเป็นกังวลใจ”
“แล้วเหตุใดเจ้าจึงร้องไห้เล่า”
“ข้าดีใจที่ท่านพ่อท่านแม่ยอมรับข้า ดีใจที่ทุกคนดีต่อข้า ข้ารู้สึกเหมือนได้เกิดใหม่อีกครั้งในอ้อมกอดของท่านพี่ ฮึก ฮึก...”
อธิบายพลางสะอื้นฮักจนตัวโยน ทำให้สามีถึงกับยิ้มกว้างแล้วโน้มใบหน้าลงไปจุมพิตหน้าผากของภรรยาขี้แยอย่างอดใจไม่ไหว
“เด็กโง่... เจ้านี่ช่างน่ารักเสียจริง”
พูดพลางหัวเราะร่วนก่อนจะยีผมสลวยของภรรยาสาวไปมา จากนั้นจึงจับจูงนางเดินไปรอบๆ จวนเพื่ออธิบายว่าอะไรอยู่ตรงไหน จากนั้นจึงพานางไปพักผ่อนในห้องนอนที่ถูกจัดเตรียมเอาไว้อย่างสะอาดสะอ้าน
โต๊ะอาหารครื้นเครง เสียงตะเกียบกระทบชามข้าว เสียงพูดคุยอย่างเป็นกันเอง เสียงหัวเราะสรวลเสดังก้องไปทั่วสวนหินใจกลางจวนสกุลจาง
“ข้าขอดื่มให้ฮูหยินของท่านแม่ทัพจางขอรับ”
นายกองไท่หัวก็มาร่วมกินดื่มครื้นเครง อีกทั้งยังมีนายกองคนสนิทอีกสามนาย ซึ่งทั้งหมดล้วนเคยร่วมหัวจมท้าย เฉียดเป็นเฉียดตาย ร่วมรบเคียงบ่าเคียงไหล่กับสามีของนางทั้งสิ้น
“แม่นางซินเหมยมาทางนี้เถอะ ข้าจะพาไปแนะนำให้รู้จักกับภรรยาของข้า”
โจวจือหยวนเห็นว่า ‘อู่ฉานอิง’ ภรรยาสุดที่รักของเขาเพิ่งเดินเข้ามาพร้อมกับบุตรสาวและบุตรชาย ฉานอิงนั้นเคยล้มป่วยหนักเดินไม่ได้ถึงห้าปี เขาจึงคิดว่าหญิงสาวทั้งสองคนน่าจะเป็นกำลังใจให้กันและกันได้เป็นอย่างดี และถือโอกาสพาภรรยาของสหายรักหลบออกไปจากวงสุราเมรัยก่อนที่นางจะถูกเจ้าพวกดิบห่ามมอมจนเมาเสียก่อน
“ไปเถอะ เจ้ากับฉานอิงน่าจะเป็นสหายที่ดีต่อกันได้ไม่ยาก อีกอย่างเจ้าจะได้เรียนรู้การเป็นมารดาจากนาง ข้าอยากมีบุตรชายหญิงให้มากกว่าจือหยวนจะแย่แล้ว”
ผู้เป็นสามีโน้มใบหน้าไปกระซิบที่ข้างหู ส่งผลให้ภรรยาสาวหน้าแดงก่ำ ก่อนจะรีบลุกเดินตามจือหยวนไป โดยที่นางยังต้องใช้ไม้เท้าอยู่เพราะช่วงเวลากลางคืนเช่นนี้ ทำให้การมองเห็นของนางแย่ลงกว่าตอนกลางวันที่พอจะมองเห็นแสงสว่างเลือนรางได้บ้าง
“เจ้าค่ะ”
จังหวะนั้นเองนางก็รู้สึกได้ว่าเสียงหัวเราะเสียงพูดคุยหยุดกึกลงพร้อมๆ กัน ราวกับทุกคนกำลังตกใจกับอะไรบางอย่าง
‘เกิดอะไรขึ้น’
หญิงสาวผู้ไม่รู้อีโหน่อีเหน่ยังคงยืนอึ้ง ในขณะที่โจวจือหยวนและหวงไท่หัวเดินมายืนขนาบนางไว้ ราวกับกำลังปกป้องนางจากอะไรบางอย่าง
“ยินดีต้อนรับกลับแคว้นหู่เฉียงเจ้าค่ะท่านพี่”
น้ำเสียงหวานราวกับเสียงนกจิบน้ำค้างยามเช้า ทำให้ซินเหมยอดคิดไม่ได้ว่าหญิงผู้นี้คงงดงามทั้งหน้าตาและกิริยามารยาทอย่างที่หญิงสาวในเมืองหลวงได้รับการอบรมขัดเกลา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ภรรยาตาหวาน (คลั่งหื่น)