บทที่ 49 แตะต้องผู้หญิงของผม ต้องตาย
ตอนพลบค่ำ
เฉินตงเลิกงานก่อนเวลา
กลางคืนต้องไปกินข้าวกับกู้ชิงหยิ่ง เขาคิดว่าเป็นครั้งแรกที่พวกเขานัดดินเนอร์กัน ต้องตั้งใจหน่อย
กู้ชิงหยิ่งไม่ติดใจอดีตของเขา เขายิ่งไม่มีเหตุผลผลักกู้ชิงหยิ่งให้ห่างออกไป
ตราบเท่าที่ยังมีชีวิตอยู่ คนเราก็เริ่มต้นใหม่ได้เสมอ
ไม่ใช่ถูกทำร้ายมาก็เก็บตัวปฏิเสธทุกอย่างไป
สำหรับการนัดดินเนอร์ครั้งแรกกู้ชิงหยิ่งก็ตั้งใจมากอย่างเห็นได้ชัด
เธอสะสางงานให้เรียบร้อยแต่เช้า ลุกขึ้นไปเข้าห้องน้ำเพื่อแต่งหน้าแต่งตา
แต่เธอไม่รู้ว่าตอนเธอออกจากห้องทำงานแล้ว จางเห้อหมิงแอบย่องเข้ามาเงียบๆ
เขามองดูด้านหลังด้วยความระมัดระวัง จากนั้นจางเห้อหมิงก็เอายาออกมาจากกระเป๋ากางเกงหนึ่งขวดเล็กแล้วนำยาสองเม็ดลงไปในแก้วของกู้ชิงหยิ่ง
ยาชนิดนี้เขามีช่องทางซื้อมาจากการไปเที่ยวสังสรรค์ในบาร์ต่างๆในช่วงหลายปีที่ผ่านมา
หลังจากที่มียาตัวนี้ ผู้หญิงที่ต้องตาเขาในบาร์ เขาก็จัดการอยู่หมัดทุกราย
ยาจำนวนสองเม็ดเพียงพอให้คนไร้เรี่ยวแรง ขาดการรับรู้ไปจนถึงเช้าของอีกวัน
เขย่าแก้วน้ำอย่างละเอียดรอบคอบ แน่ใจว่ายาละลายหมดแล้ว ดวงตาของจางเห้อหมิงก็เกิดแสงเย็นระยิบระยับ
“กู้ชิงหยิ่ง อย่าโทษผมเลย”
พูดจบเขาก็หันหลังออกจากห้องทำงานไปอย่างเงียบๆ
หลังจากที่กู้ชิงหยิ่งกลับเข้ามาที่ห้องทำงานก็ไม่ได้สังเกตเห็นสิ่งผิดปกติใดๆ
เธอมองดูเวลารู้สึกว่ายังเช้าอยู่ จึงยกแก้วขึ้นมาดื่มน้ำพลันอ่านข้อมูลไปด้วย
ไม่นานความรู้สึกเวียนหัวก็ถาโถมเข้าหา
“เหนื่อยเกินไปหรือ?”
กู้ชิงหยิ่งกดขมับอย่างสงสัย
ช่วงนี้เธอทำงานหนักไป เพราะจะช่วยเหลือไท่ติ่งเธอคิดสรรหาสารพัดวิธีเพื่อปรับเปลี่ยนทิศทางของยิงลี่
แต่หลังจากพักผ่อนมาได้สักพัก ความรู้สึกมึนเวียนไม่ได้คลายลด แต่กลับแรงมากขึ้นกว่าเก่าเสียอีก
จากนั้นเธอก็รู้สึกล้าและอ่อนไปทั้งตัว เหมือนค่อยๆถูกดูดพลังงานไปจนเกือบหมด
กู้ชิงหยิ่งเอามือถือออกมา วีแชทหาเฉินตง“เฉินตง ฉัน……ฉันรู้สึกเหนื่อยกะทันหัน”
ติ๊ง!
เฉินตงตอบ:คุณอยู่ไหน?ผมเตรียมตัวเสร็จแล้ว ไปรับคุณได้
กู้ชิงหยิ่งยิ้มแย้ม
ไอ้คนบ้างานยังรู้จักเตรียมตัวมารับฉันด้วยเหรอ?
ไม่มีรถสักคัน ควรจะเป็นฉันที่เป็นฝ่ายไปรับคุณมากกว่า
แต่เธอตอบหนึ่งข้อความว่า“ฉันอยู่ที่บริษัทวัสดุก่อสร้างยิงลี่ค่ะ”
ดินเนอร์ครั้งแรก เฉินตงให้ความสำคัญกับครั้งนี้มากๆอย่างเห็นได้ชัด
ผู้ชายไปรับผู้หญิงถือเป็นเรื่องสมเหตุสมผล
เธอไม่มีทางไปทำร้ายศักดิ์ศรีของเฉินตงเพราะเขาไม่มีรถหรอก
หลังจากที่เธอส่งข้อความเสร็จ
เอี๊ยะ……
ประตูห้องทำงานถูกจางเห้อหมิงเปิดออก
จางเห้อหมิงเดินเข้าไปด้านหน้ากู้ชิงหยิ่งด้วยรอยยิ้ม“ประธานกู้ ยังไม่เลิกงานเหรอครับ?”
“ไม่ ไม่มีอะไร……ก็รู้สึกเหนื่อยนิดหน่อย ต้องพักแป๊บหนึ่ง”
กู้ชิงหยิ่งยกมือขึ้นมาโบก ความเหนื่อยล้าตัวอ่อน เวียนศีรษะยิ่งรุนแรงเพิ่มขึ้น
“พนักงานเลิกงานกันหมดแล้ว เหลือเพียงคุณกับผมเอง”
จางเห้อหมิงแย้มยิ้ม“หรือให้ผมไปส่งคุณดีไหม?”
พูดจบ เขาไม่สนว่ากู้ชิงหยิ่งจะตกลงไหม เขาก็เข้าไปประคองกู้ชิงหยิ่งขึ้นมา จับไหล่ของกู้ชิงหยิ่งแล้วเดินออกไปด้านนอก
กู้ชิงหยิ่งอยากจะคัดค้าน แต่เธอไม่มีเรี่ยวแรงเอาเสียเลย ถูกพยุงขึ้นมาแล้วเกือบเซตัวไปอยู่ในอ้อนกอดของจางเห้อหมิงด้วยซ้ำ
ได้กลิ่นที่ลอยมาจากลม จางเห้อหมิงก็เกิดอาการฟุ้งซ่านมองดูกู้ชิงหยิ่งอย่างหดหู่ใจ
หน้าตาสวยงามเพียงนี้ เดิมทีควรจะเป็นเขาที่ได้เชยชม
ตอนนี้ต้องสละมอบให้กับเฉินเทียนหย่างซะแล้ว
“คุณ……ปล่อยฉัน”
คำพูดของกู้ชิงหยิ่งทำให้ความคิดของจางเห้อหมิงมลายหายไปทันที
สีหน้าเขาดุร้ายขึ้นมา ไม่ได้สนใจกับคำพูดของเธอเลยสักนิด ประคองกู้ชิงหยิ่งเดินออกไปด้านนอกต่อ
กู้ชิงหยิ่งไม่ได้โง่ แต่เธอกลับเป็นคนฉลาด ไม่ใช่ทายาทใสซื่อแอ๊บแบ๋วอะไรทั้งนั้น
เห็นได้ชัดว่าอาการของร่างกายตอนนี้ไม่ได้เกิดจากความเพลียใดๆ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผู้ชนะเลศคือราชา