บทที่ 1022 วิชาเซียน : หกรากราคะตัณหา
สวี่ชิงสีหน้าสงบนิ่ง ยืนอยู่กลางสายลมหิมะ มือขวายกขึ้นคว้าเบาๆ ไปบริเวณที่หลันเหยาหายตัวไป
คว้าความว่างเปล่าทางนั้น เอาร่องรอยทางนั้นมา นำเสียงที่ล่องลอยอยู่ทางนั้นกลับมาจากบริเวณรอบๆ
เหตุการณ์นี้ ลำพังเพียงอำนาจเทพแห่งเสียงหากคิดอยากจะทำให้ได้ถึงระดับนี้ ต้องมีการควบคุมในระดับที่สูงยิ่งขึ้น
อำนาจเทพเจ้าแห่งเสียงของสวี่ชิง แม้จะดูดซับอำนาจของปรมาจารย์ดนตรีของดวงตะวัน และชิงอำนาจของเจ้าแดนต้องห้ามเสียงวิญญาณมา แต่ก็ยังคงไม่ถึงระดับที่สามารถชิงเสียงจากห้วงเวลามาได้
แต่ว่า เขามีนาฬิกาแดด
ฟ้าดินส่งเสียงสะเทือนเลื่อนลั่น เงานาฬิกาแดดปรากฏขึ้นบริเวณที่หลันเหยาหายไป เข็มนาฬิกาแดดขยับ หมุนย้อนเวลาในพื้นที่เล็กๆ แห่งนั้น
จวบจนเงาร่างของหลันเหยาปรากฏขึ้นอีกครั้ง จวบจนประโยคพูดเพียงประโยคเดียวที่ดังออกมาจากปากของนางดังก้องอีกครั้ง
“หาที่ตาย!”
สามคำนี้ทันทีที่ดังขึ้นอีกครั้ง สวี่ชิงก็คว้าเอาไว้
จากนั้น นาฬิกาแดดรางเลือนไป ทุกอย่างกลับสู่ปกติ แต่ในความรอบรู้แห่งเทพของสวี่ชิง ประโยคนี้ สามคำนี้ กลายเป็นตราประทับ
ถูกเขาส่งเข้าไปในอำนาจแห่งเทพ…
เสี้ยวขณะนี้ เสียงของเฟิงหลินเทากับเสียงกรีดหวีดของสายลมดังขึ้นในหูสวี่ชิง
ทั้งยังมีเสียงแปลกประหลาดเหล่านั้นของศิษย์พี่ใหญ่ และเสียงหิมะที่ตกโปรยปรายทั่วผืนฟ้า…
ยิ่งมีสรรพชีวิตบนที่ราบหิมะแห่งนี้ รวมถึงสัตว์อสูร รวมถึงผู้บำเพ็ญ รวมถึงเสียงทุกอย่างในฟ้าดิน ในเสี้ยวขณะนี้ต่างปรากฏขึ้นในความรอบรู้แห่งเทพของสวี่ชิง
จากนั้นเขาอาศัยตราประทับเสียงนี้ ใช้อานาจแห่งเสียงในความลึกลับเอ่ยถาม
ถามลม เสียงนี้ได้ยินหรือไม่
ถามสรรพชีวิตทั้งหลาย เสียงนี้มีอยู่หรือไม่
ถามดิน เสียงนี้ร่องรอยอยู่แห่งหนใด!
ลมพัดหมื่นลี้ บอกสถานที่ที่ได้ยิน
สรรพสิ่งมากมหาศาล บอกอดีตของเสียง
ม่านฟ้าสัมผัสได้ บอกทิศทางที่ความทรงจำมุ่งหน้าไป
สุดท้าย ฟ้าดิน สายลมหิมะ บอกร่องรอยของนาง…คือทางทิศเหนือ!
ภาพมากมายนับไม่ถ้วน เสียงหลากหลายมหาศาล ฟ้าดิน ขุนเขาสายธาร สรรพสิ่งสายลมหิมะ ล้วนแต่กะพริบผ่านเข้ามาในความรอบรู้แห่งเทพของสวี่ชิง จวบจนชี้ตำแหน่งไปในภูเขาน้ำแข็งแห่งหนึ่ง!
รอบๆ ภูเขาน้ำแข็งลูกนั้นรางเลือน ในภูเขามีถ้ำหิมะแห่งหนึ่ง หลันเหยาและเยวี่ยตงกำลังนั่งขัดสมาธิอยู่ที่นั่น
แทบจะในเสี้ยวพริบตาที่ความรอบรู้แห่งเทพของสวี่ชิงจับเป้าหมาย ร่างของหลันเหยาสะท้านเฮือก ดวงตาทั้งสองของเยวี่ยตงเบิกโพลงขึ้นทันที สีหน้าเปลี่ยนไป ประสานปางมือชี้ไปอย่างรวดเร็ว
ทันใดนั้น ระลอกคลื่นอารมณ์กลุ่มหนึ่ง พวยพุ่งขึ้นมาในใจสวี่ชิง ทำความคิดปั่นป่วน ก่อกวนอำนาจแห่งเสียง สั่นไหวจิตใจ
ตัดขาดในเสี้ยวพริบตา
แต่ว่าก็ช้าไปก้าวหนึ่ง เพราะสวี่ชิงจากในภาพที่จับเป้าหมายภาพนี้ ได้ยิน…เสียงหัวใจของหลันเหยา
เสียงนี้หลอมรวมกับตราประทับก่อนหน้านี้
เพียงพอแล้ว
“หาเจอแล้ว”
สวี่ชิงเอ่ยราบเรียบ มือขวายกขึ้นคว้าไปทางเอ้อร์หนิวทางนั้น
เอ้อร์หนิวหัวเราะฮี่ๆ ยกมือขึ้นเช่นกัน คว้าวิญญาณเฟิงหลินเทาที่ตัวสั่นเทา
จากนั้นสองคนหนึ่งวิญญาณ หายไปในพริบตา
อำนาจเทพแห่งเสียงของสวี่ชิงปกคลุม หลอมรวมไปในความว่างเปล่า ผสานไปในเสียงทุกอย่าง
ขอเพียงแต่เป็นบริเวณที่มีเงาร่าง ล้วนแต่เป็นจุดกะพริบของเขาทั้งนั้น
ดังนั้น เพียงพริบตา…สวี่ชิงและเอ้อร์หนิวทั้งยังมีวิญญาณของเฟิงหลินเทา พวกเขาข้ามผ่านระยะอาณาบริเวณกว้างใหญ่ไพศาล มาปรากฏอยู่ที่ชายแดนของเผ่านภาคิมหันต์กับโลกแดนเหนือของแผ่นดินใหญ่ต้องประสงค์
ที่นั่นลมหิมะแรงยิ่งกว่า ภาคพื้นดินไม่ใช่ภูเขาหิมะอีกต่อไป แต่เป็นยอดเขาน้ำแข็งมากมาย
ความหนาวเย็นยิ่งยะเยือกจับจิต คล้ายว่าสิ่งมีชีวิตเมื่ออยู่ที่นี่ก็จะถูกน้ำแข็งผนึกไปเสียทั้งหมด
และในยอดเขาน้ำแข็งมากมายนี้ มียอดเขาหนึ่งพลันแตกทลายเป็นเสี่ยงๆ ในนั้นมีเงาร่างสองร่างพุ่งออกมาอย่างเร็วรี่ สีหน้าต่างเคร่งเครียด ทะยานไปยังที่ไกลอย่างว่องไว
เป็นหลันเหยาและเยวี่ยตงนั่นเอง
ข้างหลังพวกนาง ในยอดเขาน้ำแข็งที่แตกทลาย สวี่ชิงก้าวออกมาก้าวหนึ่งตรงไปหาสตรีทั้งสอง
เขามาปรากฏในเสียงหัวใจเต้นของหลันเหยา ลงมาเยือนในยอดเขาน้ำแข็ง
เห็นหลันเหยา เห็นเยวี่ยตง
หลันเหยาเป็นเหมือนเดิม นอกเสียจากความหวาดกลัวลนลานบนใบหน้ามหาศาลรุนแรงนัก
ส่วนเยวี่ยตง สตรีผู้นี้อยู่ในสายลมหิมะ ร่างอรชรยิ่งดูอ้อนแอ้น ปีกสีเงินข้างหลังส่องประกายกับหิมะ
ผิวของนางขาวบริสุทธิ์ไร้มลทินประดุจหยก ชุดคลุมยาวสีดำปักดิ้นทองอยู่บนร่าง รวมกับท่วงท่าบุคลิกราวเซียนในภาพ ก็ราวหมอกราวควัน
ทั้งยังมีคิ้วราวขุนเขาห่างไกลบางบางยาวเรียว ดวงตาสุกใสเป็นประกาย
เพียงแต่ดวงตาดุจสายน้ำคู่นั้น สิ่งที่หมุนวนในนั้นกลับไม่ใช่ประกายสงบนิ่ง แต่แฝงไว้ด้วยประกายเย็นเยือก
ต้องบอกเลยยว่าโฉมหน้าของสตรีทั้งสองล้วนงามเลิศล้ำ หากอยู่ในสายตาของคนที่มักมาก ต่อให้มองเพียงผาดเดียวในใจก็จะเกิดความรู้สึกที่ผิดแปลกไป
แต่ว่า…พวกนางแม้จะงาม แต่ในความรู้ความเข้าใจของสวี่ชิง สวยหรืออัปลักษณ์ล้วนไม่สำคัญ คนในสายตาเขาแบ่งเพียงมิตรและศัตรู
และสองนางนี้คือศัตรู
ดังนั้นทันทีที่ปรากฏตัวขึ้น สวี่ชิงไม่ลังเลใดๆ ทั้งสิ้น ทั่วทั้งร่างประกายแสงสาดส่อง มีดวงอาทิตย์ดวงใหญ่ลอยขึ้นมาในทะเลความรู้สึก ทั้งคนราวแปลงร่างเป็นดวงอาทิตย์ แผ่แสงและความร้อนอันไร้ขีดจำกัด หอบม้วนมาด้วยพลังอำนาจน่าหวาดเกรง เข้าใกล้ผู้หญิงทั้งสองมา
ช่วงวิกฤตอันตราย หลันเหยาหน้าขาวซีด แต่เยวี่ยตงทางนั้นประกายแสงเย็นเยือกในดวงตากลับยิ่งเด่นชัด มือทั้งสองของนางประสานปางมือ ชี้มาทางสวี่ชิงอย่างรวดเร็ว
จากการชี้นี้ พลังของเยวี่ยตงในที่สุดก็แสดงออกมาทั้งหมดที่สวี่ชิงทางนี้
นั่นคือวิชาที่ใช้อารมณ์ความรู้สึกส่งผลกระทบต่อชะตา!
ในระดับหนึ่งแล้ว นี่ความจริงก็เป็นพลังอำนาจอย่างหนึ่งเช่นกัน อีกทั้งยังพิเศษยิ่งนัก
ตอนนี้หลังจากเยวี่ยตงปะทุพลัง สวี่ชิงก็รับได้รับผลกระทบก่อนใคร อารมณ์ของเขาแผ่ระลอกทันที เหมือนมีมือข้างหนึ่งยืนเข้ามาในจิตใจ กวาดต้อนความตกใจ ความหวาดกลัว ความโศกเศร้า ความสิ้นหวังของเขาปะทุขึ้นมาทันที
เหมือนคลื่นยักษ์ซัดโหมจะท่วมจมทุกสิ่ง
สิ่งที่น่าตกใจยิ่งกว่านั้นคือ ในนั้นยังมีความโมโห!
ความโกรธนี้เป็นเหมือนจุดเริ่มต้น

ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผู้กล้าเหนือกาลเวลา