บทที่ 1032 สวี่ชิง เอ้อร์หนิว ก้าวเข้าสู่ดินแดนเผ่าปีกมาร
สวี่ชิงเงยหน้า จ้องมองเอ้อร์หนิวที่อยู่ข้างหน้า
ตอนนี้ลมพัดที่ราบน้ำแข็ง พัดหอบเกล็ดหิมะมา
หญิงสาวในหิมะขาวยิ่งเปล่งประกายความงดงามน่าหลงใหล แต่ในสายตาของสวี่ชิง ทุกอย่างล้วนเป็นดอกไม้ในกระจก ดวงจันทร์กลางสายน้ำ…
“ศิษย์พี่ใหญ่ แผนการก่อนหน้านี้ของท่านมีช่องโหว่”
มือสวี่ชิงกำแผ่นหยกบันทึกภาพเคลื่อนไหวเอาไว้ ไม่คลายลงเลยแม้แต่น้อย เอ่ยราบเรียบ
สายตาของเอ้อร์หนิวกวาดผ่านไปยังมือที่ถือแผ่นหยกบันทึกภาพเคลื่อนไหวของสวี่ชิงเอาไว้ ในใจบ่นพึมพำสามสี่ประโยค
ต้องพูดเลยว่าวิธีนี้ของสวี่ชิง สำหรับเอ้อร์หนิวที่รักหน้ามาโดยตลอดแล้ว มียังคงมีพลังทำลายล้างอยู่ในระดับหนึ่ง อย่างในตอนนี้เอ้อร์หนิวหมดสิทธิ์ที่จะวางท่าอย่างเมื่อก่อนหน้านี้ได้แล้ว
เอ้อร์หนิวกระแอมออกมาทีหนึ่ง
“ช่องโหว่อะไร ฐานะที่ถูกประกาศจับของเฟิงหลินเทาน่ะหรือ”
สวี่ชิงพยักหน้า
“ข้าคิดได้ตั้งนานแล้ว เฟิงหลินเทาถูกประกาศจับย่อมไม่เหมาะ แต่ว่าหุ่นเชิดของเยวี่ยตงก็ไม่ได้มีแค่ตัวเดียวสักหน่อย”
ระหว่างพูด เอ้อร์หนิวยกมือสะบัด ทันใดนั้นโลงศพใบหนึ่งก็ลอยออกมาจากในถุงเก็บของของเขา เสียงตึงดังขึ้นก็ร่วงมาบนที่ราบน้ำแข็ง
โลงน้ำแข็งในนี้เป็นสีดำ บนนั้นมีตราประทับมากมาย ยิ่งมีตะปูหลายดอกตอกฝาโลงเอาไว้อย่างแน่นหนา
จากการประสานปางมือของเอ้อร์หนิว โลงใบนี้สั่นสะเทือนเล็กน้อย ตะปูบนนั้นสั่นไหว หลุดออกมาเอง อักขระตราประทับบนนั้นก็กะพริบอย่างรวดเร็ว ทำให้ฝาโลงพุ่งเปิดออกอย่างรุนแรง
เผยให้เห็นศพเด็กอายุประมาณเจ็ด แปดขวบร่างหนึ่งในโลง
ศพนี้ดำมะเมื่อมไปทั้งร่าง รอยจ้ำเลือดเต็มไปหมด ทั่วทั้งร่างแผ่ระลอกคลื่นพลังบำเพ็ญระดับหวนสู่อนัตตาบริบูรณ์
“พวกเราก็ไม่จำเป็นต้องไปใช้อำนาจหกรากราคะตัณหาไปสร้างหุ่นเชิดเพิ่ม ในถุงเก็บของของเยวี่ยตง ข้าพบหุ่นตัวนี้”
“สายของเยวี่ยตงสายนั้น อยู่ในแดนศักดิ์สิทธิ์ปีกมารมีชื่อเสียงมาก อาจารย์ของนางตอนมีชีวิตอยู่เป็นถึงมหาปรมาจารย์เซียน ภายหลังเยวี่ยตงกับศิษย์น้องของนางต่อสู้กันนานหลายปี สุดท้ายเยวี่ยตงสังหารตาย หลอมเป็นหุ่นเชิดศพ”
เอ้อร์หนิวพูดถึงตรงนี้ก็ทำเสียงจิ๊ๆ อย่างเจ้าเล่ห์ คำพูดแฝงไว้ด้วยการหยอกล้อ
“แม้เยวี่ยตงภายหลังจะทะลวงพลังบำเพ็ญ ไม่จำเป็นต้องให้หุ่นเชิดตัวนี้ลงมืออีก แต่เพราะความสัมพันธ์ในอดีต ดังนั้นนางจึงเก็บเอาไว้มาโดยตลอด ประเดี๋ยวๆ ก็เอาออกมาทรมานเล่นๆ สักหน่อย”
“เห็นได้ชัดว่านางเคียดแค้นศิษย์น้องคนนี้มากเพียงใด ดังนั้นอาชิงน้อย เจ้าดูสิ เมื่อเทียบกันแล้วศิษย์พี่ใหญ่ข้าคนนี้ดีกับเจ้าสุดๆ ไปเลยใช่หรือไม่!”
“เจ้าต้องรู้จักถนอมเอาไว้ให้ดี!”
สวี่ชิงพยักหน้า
เอ้อร์หนิวในใจพออกพอใจ สั่งสอนเสร็จก็ชี้ไปที่โลง
“อาชิงน้อย เจ้าเลือกจะเปลี่ยนเป็นเขาได้”
“ยาลูกกลอนข้าก็เติมให้เจ้าแล้ว”
เอ้อร์หนิวพูดพลางยกมือโยนยาลูกกลอนสีดำเม็ดหนึ่งออกไป เป็นลูกกลอนจันทราปีศาจฟ้าทมิฬของเผ่าอาภรณ์นั่นเอง
สวี่ชิงรับเอาไว้ มองศพข้างหน้า ในดวงตาเขาฉายแววครุ่นคิด
“ศิษย์พี่ใหญ่ ลูกกลอนนี้ใช้ซ้ำได้กี่ครั้ง”
เอ้อร์หนิวหัวเราะฮี่ๆ
“วางใจเถอะ ใช้ได้หลายครั้ง หากเจ้าไม่ชอบหุ่นเชิดตัวนี้ หลลังจากที่พวกเรากลับแดนศักดิ์สิทธิ์แล้ว หาผู้บำเพ็ญหญิงที่งดงามชดช้อยเหมือนกับเยวี่ยตงมาให้เจ้าเปลี่ยนก็ได้แล้ว”
“ถึงตอนนั้น เจ้ากับข้าสวี่ชิงเอ้อร์หนิวสองหญิงงามโฉมสคราญจะต้องสร้างความสะท้านสะเทือนไปในแดนศักดิ์สิทธิ์อย่างแน่นอน”
เอ้อร์หนิวภาคภูมิใจ
สำหรับคำพูดองอาจห้าวหาญอย่างนี้ สวี่ชิงทำเป็นไม่ได้ยิน ตอนนี้กดยาลูกกลอนไปที่หว่างคิ้ว เสี้ยวขณะต่อมาร่างของเขาก็มีไอดำลอยขึ้น แปรเปลี่ยนเป็นเสื้อผ้าชุดหนึ่ง ห่อหุ้มเขาไว้ในนั้นโดยสมบูรณ์
สุดท้าย ภายใต้สายตาของเอ้อร์หนิว ร่างของสวี่ชิงก็เริ่มเปลี่ยนแปลง เล็กลงเรื่อยๆ สีผิวก็เปลี่ยนมาดำเมี่ยม เกิดรอยจ้ำเลือดมากมาย
ยิ่งมีกลิ่นอายความตายเข้มข้นรายล้อมอยู่บนตัวเขา
ขั้นตอนทั้งหมดก็ใช้เวลาแค่หนึ่งก้านธูปเท่านั้น ผู้ที่มาปรากฏหน้าเอ้อร์หนิวก็เป็นเงาร่างของศพเด็กคนนั้นโดยสมบูรณ์
จากนั้น สวี่ชิงลืมตาขึ้น
รูม่านตาสีขาว ดวงตาสีขาว เทียบกับผิวสีดำแล้วประดุจผีร้าย ทำให้คนรู้สึกหวาดกลัวเขย่าขวัญ
“ไม่เลวเลยนี่นา!”
เอ้อร์หนิวเลียริมฝีปาก
สวี่ชิงหันไป มองศพที่อยู่ในโลงผาดหนึ่ง แล้วมองไปทางเอ้อร์หนิว พลันสะบัดมือ
ทันใดนั้น เข็มมหาจักรพรรดิเล่มนั้นก็ปรากฏขึ้นกลางอากาศ ทำการทะลุไปในร่างของศพนั่น เชื่อมต่อชะตาและผลกรมเวรของมันกับสวี่ชิง
ทำเรื่องพวกนี้เสร็จ ภายใต้การควบคุมของสวี่ชอง เข็มนี้พุ่งไปทางเอ้อร์หนิว ทำการเย็บต่อไป ทำให้ด้านชะตาของเอ้อร์หนิวกับเยวี่ยตงติดเชื่อมกันราวต่อกิ่ง
เช่นนี้แล้ว ไม่ว่าจะเป็นผลกรรมเวร ชะตา กลิ่นอาย ล้วนผสานกันโดยสมบูรณ์
“สมบูรณ์แบบ!”
เอ้อร์หนิวตาเป็นประกาย ก่อนจะสะบัดมืออย่างมั่นอกมั่นใจเต็มเปี่ยม
“ไปเถอะศิษย์น้อง พวกเรากลับบ้านกัน”
ระหว่างพูด ร่างอรชรของเอ้อร์หนิวก็ไหววูบ พุ่งตรงไปยังท้องฟ้า
เส้นไหมไร้รูปร่างมากมายพุ่งออกมาจากร่างของเด็กที่แปลงมาจากสวี่ชิง เชื่อมต่อกับเอ้อร์หนิว นี่คือการสำแดงอำนาจวิชาเซียนหกรากราคะตัณหาของพวกเขา
มีวิชาเซียนนี้อยู่ ก็จะทำให้ช่องโหว่สุดท้ายถูกปกปิดลงไปทั้งหมด
ตอนนี้เอ้อร์หนิวลอยขึ้นท้องฟ้า ที่กลางอากาศเขาเงยหน้า มือทั้งสองประสานปางมือสะบัดไปที่ม่านฟ้า
จากการสะสะบัดนี้ ทันใดนั้น รอยแยกมิติทางหนึ่งก็ก่อขึ้นอย่างรวดเร็วบนท้องฟ้า
เหมือนบาดแผลแห่งฟ้า อีกทั้งไม่เสถียรรุนแรงนัก กำลังจะประสานกันอย่างรวดเร็ว
วิชานี้เป็นวิชาส่งข้ามกลับแดนศักดิ์สิทธิ์ปีกมารที่เอ้อร์หนิวหาเจอจากในความทรงจำของเยวี่ยตง
ทันทีที่ปรากฏขึ้น ในดวงตาเอ้อร์หนิวมีความวาดหวังเข้มข้นปรากฏขึ้น แต่ไม่นานนักเขาก็เก็บมันลงไป สายตาเปลี่ยนมาเย็นชา ใบหน้าก็ประดุจน้ำค้างแข็งด้วยความเยือกเย็น เยื้องย่างก้าวออกไป ก้าวเข้าไปในรอยแยก
มืองามยิ่งคว้าออกไป คล้ายควบคุมชะตาของเด็กหุ่นเชิดศพข้างหลังเอาไว้ แล้ว…กระชากมันเข้าไปในรอยแยกด้วยกัน
เสี้ยวขณะต่อมา เงาร่างของคนทั้งสองก็หายไป
รอยแยกปิดลงทันที
มีเพียงลมหิมะพัดผ่านที่นี่ ในขณะเดียวกับที่ท่วมจมที่นี่ ก็มีเกล็ดหิมะทางแดนเหนือของแผ่นดินใหญ่ต้องประสงค์จำนวนหนึ่ง มุ่งหน้าไปยังแดนศักดิ์สิทธิ์พร้อมกับพวกสวี่ชิงทั้งสองคนไปตามรอยแยกก่อนหน้านี้
ระหว่างการส่งข้ามมีพลังลึกลับลงมาเยือน จับเป้าหมายทั้งสองคน แผ่พลังลึกล้ำมหาศาล ตรวจสอบฐานะตัวตนในระดับลึกซึ้ง
วิธีการตรวจสอบไม่ใช่กลิ่นอายและสายเลือดแต่เป็นชะตา
……
แดนศักดิ์สิทธิ์ปีกมาร ทิศตะวันออก


ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผู้กล้าเหนือกาลเวลา