บทที่ 1031 อาชิงน้อย เจ้าว่าข้าสวยไหม
………………..
ในดวงตาสวี่ชิงประกายวาววามฉายวูบ นิ้วชี้ขวาที่ยกขึ้นกดไปที่หว่างคิ้วของหลงจิ่วอีกครั้ง
เสี้ยวขณะที่แตะลงมา พลังต้นกำเนิดเทพทั่วทั้งร่างก็พลันปะทุขึ้น ทะลักเข้ามาในร่างของหลงจิ่ว แปรเปลี่ยนเป็นคลื่นวน หมุนวนครืนครานเลื่อนลั่น
ใช้แรงดูดของคลื่นวนลูกนี้ไปเหนี่ยวนำอำนาจเทพในร่างที่กำลังกลืนกินเขาไม่หยุด
อำนาจเทพนี้ฝังรากลึก ฝังอยู่ในร่างหลงจิ่วอย่างแน่นหนา ราวกับแมลงกู่ พันรัดเลือดเนื้อของเขา วิญญาณของเขา
คิดจะเอามันออกระดับความยากไม่น้อยเลย
โดยเฉพาะตัวหลงจิ่วเองกำลังอ่อนแอไปอย่างรวดเร็ว เกรงว่าอย่างมากหนึ่งก้านธูปก็จะตายโดยสมบูรณ์
ดังนั้น สิ่งแรกที่สวี่ชิงต้องทำคือทำให้หลงจิ่วมีชีวิตรอดต่อไป
ดังนั้น มือซ้ายเขาประสานปางมือ เอายาลูกกลอนมหาศาลออกมา หลังจากโปรยออกไปกลายเป็นผงก็ร่วงไปบนร่างของหลงจิ่ว ซึมไปในร่างกาย หล่อเลี้ยงพลังชีวิต
ขณะเดียวกันก็ยังแผ่ไฟชีวิตของตัวเองออกไปปกคลุมไปทั่วทุกทิศ ไปเคลื่อนย้ายพลังชีวิตของตัวหลงจิ่ว ทำให้ไฟวิญญาณที่ไหววูบจวนเจียนจะดับอยู่ในสภาวะที่ลุกไหม้
แต่ลำพังเพียงแค่นี้ก็ค่อนข้างจะกล้อมแกล้ม
การกลืนกินของพลังอำนาจเทพรุนแรงทรงพลังนัก ท่าทางเหมือนขยี้เขาให้มอดดับโดยสมบูรณ์
และสิ่งสำคัญที่สุดที่ทำให้พลังชีวิตของหลงจิ่วคงอยู่ต่อไปคือลูกกลอนเลือดเนื้อที่สวี่ชิงใช้ลมขาวในแผ่นดินใหญ่เซ่นจันทราในตอนนั้นหลอมขึ้น
ลูกกลอนนี้ในด้านพลังชีวิตมีผลอันเหนือคาด ทำให้เลือดลมปะทุเพิ่มขึ้น
แม้จะไร้ลำดับ แต่ในระดับหนึ่งก็ซ่อมเสริมอย่างมหาศาลให้กับพลังชีวิต
หากเปลี่ยนเป็นเวลาอื่น ผลของลูกกลอนนี้มีแต่โทษไร้ซึ่งประโยชน์ใดๆ แต่เมื่อถึงเวลานี้กลับพลิกย้อนทุกสิ่ง
เช่นนี้เอง ภายใต้ความพยายามของสวี่ชิง เวลาหมุนไป
เวลาห้าวันเพียงพริบตาก็ผ่านพ้นไป
ชีวิตของหลงจิ่ว สวี่ชิงพยายามยืดมันออกไป
แม้ในช่วงเวลานี้ชีวิตจะแขวนอยู่ลนเส้นด้ายอยู่หลายครา แต่สุดท้ายหลงจิ่วก็รอดมาอย่างหวุดหวิด
นี่ทำให้สวี่ชิงมีเวลามากเพียงพอ ค่อยๆ เหนี่ยวนำพลังอำนาจเทพแห่งชะตาเสี้ยวนั้นมาในคลื่นวนพลังต้นกำเนิดเทพของตัวเอง
เสี้ยวขณะสุดท้าย เหนือศีรษะสวี่ชิงมีกรรไกรมหาจักรพรรดิปรากฏขึ้น
กรรไกรนี้เมื่อปรากฏขึ้น ลมเมฆเปลี่ยนสี จากการที่เขาตัดไปอย่างเต็มแรง เสียงฉับดังก้องไปทั่วสารทิศ!
กรรไกรสะเทือน รอยผุกร่อนยิ่งชัดเจนขึ้น ไม่อาจตัดขาดได้ในคราเดียว
จะอย่างไรพลังอำนาจเทพนี้ก็มาจากเทพแท้จริง ดูจากคุณสมบัติสายเลือดแล้ว หากอำนาจเทพสมบูรณ์ กรรไกรมหาจักรพรรดิก็ไม่อาจสั่นคลอนมันได้เลย
แต่ดีที่นี่เป็นเพียงแต่เศษเสี้ยวที่แบ่งแยกออกมาจากอำนาจเทพแห่งชะตาสมบูรณ์เท่านั้น
ดังนั้น ภายใต้ความเด็ดเดี่ยวมุ่งมั่นของสวี่ชิง หลังจากที่จ่ายค่าตอบแทนด้วยการเพิ่มความผุกร่อน ท่ามกลางเสียงฉับๆ ที่ดังสะท้อนหลายครั้ง เส้นไหมที่แปรเปลี่ยนมาจากอำนาจเทพเชื่อมต่อกับห้วงดาราเส้นนี้ ก็ถูกตัดครั้งแล้วครั้งเล่าไม่หยุดหย่อน
หลังจากครั้งที่เก้า ภายใต้การปะทุพลังของกรรไกรมหาจักรพรรดิ เส้นไหมที่แปลงมาจากอำนาจเทพที่หวนย้อนคืนกลับมา ในที่สุดก็ถูกตัดขาดโดยสมบูรณ์!
ในเสี้ยวพริบตาที่ขาดลง พลังต้นกำเนิดเทพของสวี่ชิงก็รัดทันที คลุมอำนาจเทพแห่งชะตาเศษเสี้ยวนี้เอาไว้โดยสมบูรณ์ แล้วดึงออกมาเต็มแรง กลับเข้ามาในร่างตัวเอง
เสี้ยวขณะต่อมา สวี่ชิงนั่งขัดสมาธิ ดวงตาทั้งสองหลับลง นิ่งไม่ขยับ
ในร่างของเขาควบคุมอย่างเต็มกำลัง ทำการโจมตีไม่หยุด
หลงจิ่วที่นอนอยู่ข้างๆ ตรงนั้น ตอนนี้ทั่วทั้งร่างสั่นสะท้าน ขณะที่สลบไสลมุมปากก็มีเลือดมหาศาลไหลออกมา แต่ว่าสภาวะที่ถูกกัดกินอยู่ตลอดก็ควบคุมเอาไว้ได้แล้ว
ตอนนี้แม้กลิ่นอายจะอ่อนแรง แต่เพราะไม่รั่วไหลอีกต่อไป ก็เปลี่ยนมาเสถียรมากแล้ว
หนึ่งวันหลังจากนั้น
สวี่ชิงลืมตาทั้งสองขึ้น
ในดวงตาของเขาเต็มไปด้วยเส้นเลือด วิญญาณเกิดความเหนื่อยล้า แต่กลับตื่นตัวกระปรี้กระเปร่า
อำนาจเทพแห่งชะตาเสี้ยวนั้น ในที่สุดหลังจากที่ล่องลอยไร้รากยึดเหนี่ยว เขาก็หลอมมันไปไว้ในกองดิน กลายเป็นเมล็ดพันธุ์อำนาจเทพเมล็ดหนึ่ง
“แต่ว่าเทพแท้จริงที่กลับมาองค์นั้น ก็จะเกิดผลกรรมเวรจากเหตุนี้…”
“แต่…ผลกรรมเวรระหว่างข้ากับเสี้ยวหน้า ก็ทำให้ข้าไม่กลัวผลกรรมเวรอย่างอื่นแล้ว”
“อีกทั้งจากการวางแผนของเทพองค์นี้ องค์ท่านกลับมาต้องใช้เวลาอย่างน้อยหลายพันปี”
“หลายพันปีหลังจากนั้น หากข้ายังมีชีวิตอยู่ก็ไม่ต้องกลัวเทพองค์นี้เลย”
ดวงตาสวี่ชิงฉายประกายเย็นเยือก มองไปทางหลงจิ่วที่อยู่ข้างๆ
หลงจิ่วแม้จะยังสลบอยู่ แต่กลิ่นอายมั่นคงขึ้นเรื่อยๆ สีหน้าก็ฟื้นฟูขึ้นไม่น้อย
ระหว่างสวี่ชิงและหลงจิ่ว ก่อนหน้านี้ก็ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องอะไรกันมากมาย
พูดว่าเป็นคนแปลกหน้าก็คงไม่ผิดนัก
อีกทั้งภายใต้พลังของอำนาจเทพนี้เมื่อก่อนหน้า หลงจิ่วก็ลมหายใจรวยรินแล้ว หากไม่ใช่สวี่ชิงลงมือก็วิญญาณดับสลายไปแล้ว ทั้งคนถูกสังเวยโดยสมบูรณ์ ใช้เรื่องนี้ทำให้เส้นไหมแห่งการหวนคืนของเทพแท้จริงแปลกหน้าองค์นั้นสำเร็จ
และการตัดสินใจและวิธีของสวี่ชิง แม้เป้าหมายหลักๆ แล้วก็เพื่อคว้าเอาพลังอำนาจเทพเสี้ยวนี้ไป แต่ไม่พูดไม่ได้ว่า สำหรับหลงจิ่วที่เดิมจะต้องตายอย่างแน่นอนนั่นเป็นความโชคดี
เพราะสวี่ชิงคว้าเอาอำนาจเทพนี้ไป หลงจิ่วที่อยู่ในสถานการณ์ที่จะต้องตายแน่ๆ มีชีวิตรอดต่อไปได้
“พลังอำนาจเทพนี้แปลกประหลาดอัศจรรย์จริงๆ เพราะในบางมุม จากการปรากฏตัวและช่วยเอาไว้ของข้า ก็มองว่าช่วงเวลาสำคัญสุดท้ายของอำนาจเทพนี้ ก็ยังคงแสดงฤทธิ์อยู่”
“ทุกครั้งที่เจออันตราย จะต้องได้พบผู้มีพระคุณ”
สวี่ชิงคล้ายครุ่นคิด สำหรับอำนาจเทพที่เป็นของเทพเจ้าโดยเฉพาะนี้ยิ่งมีความเข้าใจที่มากขึ้น
“เทียบกับพลังรากฐานของผู้บำเพ็ญแล้วแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง”
“พลังอำนาจเทพเป็นพลังที่เก่าแก่โบราณยิ่งกว่า”
สวี่ชิงสัมผัสเมล็ดพันธุ์อำนาจเทพเมล็ดนั้นในร่างเล็กน้อย หลังจากนั้นครู่หนึ่งก็สูดลมหายใจลึก ลุกยยืนขึ้น
เขาเตรียมจะไปจากที่นี่
แต่ว่า ก่อนจะจากไป เขามองหลงจิ่วที่สลบไสลครั้งสุดท้าย
“ข้าได้อำนาจเทพนี้มาจากเจ้า และช่วยเจ้าจากชะตาที่ต้องตาย นับจากนี้ผลกรรมเวรสิ้นสุดลงแล้ว”
สวี่ชิงยกมือสะบัด หลังจากส่งพลังชีวิตกลุ่มหนึ่งผสานไปในร่างของหลงจิ่วแล้ว ก็ก้าวไปทางท้องฟ้า จากไปไกลหายลับไป
หลังจากนั้นครู่หนึ่ง ท่ามกลางลมเย็นเยือกที่กรีดหวีดหวิวอยู่ที่นี่ หลงจิ่วที่สลบไสลร่างสั่นสะท้าน ค่อยๆ ลืมตาทั้งสองข้างขึ้นมา


ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผู้กล้าเหนือกาลเวลา