เข้าสู่ระบบผ่าน

ผู้กล้าเหนือกาลเวลา นิยาย บท 1036

บทที่ 1036 ฝ่าบาท ข้าต้องการสิทธิ์แดนลับสิทธิ์หนึ่ง

………………..

เผ่าปีกมารบูรพาเดิมมีภูเขาเจ้าเหนือหัวเก้าลูก

นับจากที่หลี่ว์หลิงจื่อลูกศิษย์คนที่สิบของมหาจักรพรรดิหมิงเหยียนกลับมา ตระกูลหลันตกต่ำ ทรัพยากรมากมายในขอบเขตอำนาจของตระกูลพวกเขา หลี่ว์หลิงจื่อก็รับช่วงต่อไปตามสถานการณ์

ยิ่งไปกว่านั้นยังสร้างภูเขาเจ้าเหนือหัวลูกที่ศิษย์ในบริเวณที่ห่างจากตระกูลหลันไปไม่ไกลอีกด้วย

ภูเขาลูกนี้สูงเสียดฟ้า มองไปไกลๆ ขุนเขายิ่งใหญ่อลังการ ในขณะที่แผ่ความน่าเกรงขามทรงพลังออกมา ก็มีพลังกดดันที่เป็นระดับเจ้าเหนือหัวปกคลุมไปทั่วทุกทิศเป็นระลอกๆ

สะกดควบคุมฟ้าดินแห่งนี้

ทำให้ท้องฟ้าที่นี่เกิดคลื่นวนลูกมหึมา หลายเดือนมานี้หมุนวนอยู่ตลอด เสียงดังสนั่นหวั่นไหว

เหนี่ยวนำสายฟ้านับไม่ถ้วน แลบแปลบปลาบไปในนั้น ทรงพลังยิ่งใหญ่

ส่วนรอบๆ ภูเขาลูกนี้ พื้นที่ในอาณาบริเวณสามลี้ราวพื้นที่ต้องห้าม กว้างโล่งไปทั้งแถบ

และจากสามลี้ออกไป ตอนนี้มีผู้บำเพ็ญเผ่าปีกมารจำนวนมหาศาลรวมตัวอยู่ จำนวนเกินหมื่น ต่างนั่งสมาธืโดยมีภูเขาลูกนี้เป็นศูนย์กลาง

มองจากท้องฟ้าลงมามากมายมหาศาล ล้อมรอบพื้นดินรอบภูเขา

ในนั้นมีผู้บำเพ็ญไร้สังกัดด้วย และมีขั้วอำนาจที่แต่เดิมเป็นของตระกูลหลัน เป้าหมายการมาที่นี่ของพวกเขาคือคิดอยากจะฝากตัวเป็นผู้อยู่ใต้บัญชาการของเจ้าเหนือหัวคนที่สิบ

ในแดนศักดิ์สิทธิ์ปีกมาร ขอเพียงมีการปรากฏตัวขึ้นของเจ้าเหนือหัวคนใหม่ หลังจากที่สร้างภูเขาเจ้าเหนือหัวเป็นของตัวเองแล้ว ล้วนมีเรื่องประเภทนี้เกิดขึ้น

และเจ้าเหนือหัวคนใหม่ นอกจากขั้วอำนาจของตัวเองแล้ว เนื่องจากยกระดับขึ้นของพลังบำเพ็ญก็จะขยายอิทธิพลของตัวเอง ทำการเกณฑ์ผู้ติดตามจำนวนมหาศาล

ด้วยเหตุนี้ที่ตีนเขาเจ้าเหนือหัวลูกที่สิบ ทุกวันล้วนมีผู้บำเพ็ญเดินทางมาจากที่ไกลเพื่อขอสวามิภักดิ์ หลังจากรวมตัวกันหลายเดือน ก็เกิดเป็นจำนวนอย่างเช่นตอนนี้

ในเมื่อหากเป็นผู้ใต้บัญชาของเจ้าเหนือหัวได้ ฐานะตำแหน่งก็จะแตกต่างไปจากอดีตอย่างสิ้นเชิง อีกทั้งในช่วงสงครามตอนนี้ มีเจ้าเหนือหัวปกป้อง จะอย่างไรก็ปลอดภัยไปมาก

เพียงแต่…จนถึงตอนนี้ หลี่ว์หลิงจื่อเจ้าเหนือหัวคนใหม่คนนั้นก็ยังไม่ได้เรียกใครเข้าภูเขาเลย

ต่อให้เป็นผู้ใต้บัญชาในอดีตของเขา เขาก็ไม่ได้เรียกมาเช่นกัน

ดังนั้นภูเขาลูกมหึมาที่คนทั้งหลายมารวมตัวกันลูกนี้ ตอนนี้มีเพียงหลี่ว์หลิงจื่อคนเดียวเท่านั้น

ส่วนตีนเขาเนื่องจากผู้บำเพ็ญมากมายนัก ดังนั้นจึงเกิดย่านการค้าขึ้น ต่างแลกเปลี่ยนสินค้า แลกเปลี่ยนข่าวสาร ล้วนกำลังรอที่จะฝากตัวกับเจ้าเหนือหัว

นานไปก็ค่อยๆ เปลี่ยนมาคึกคักขึ้น

แต่ว่าผู้บำเพ็ญที่มาที่นี่ต่างไม่ก้าวเข้าไปในระยะสามลี้ของภูเขา ควบคุมเสียงเอะอะโหวกเหวกทุกอย่างให้อยู่ภายนอก

สวี่ชิงตอนที่มาถึงที่นี่ สิ่งที่เห็นก็คือภาพคึกคักโหวกเหวกที่บริเวณนอกระยะสามลี้ของภูเขาเจ้าเหนือหัว

มองย่านการค้าที่เกิดขึ้น มองผู้บำเพ็ญฝ่ายต่างๆ ของแดนศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่ในนั้น สวี่ชิงที่แปลงเป็นเสี่ยเฉินจื่อ เงาร่างไม่หยุดพัก พุ่งทะยานไป ตรงไปยังพื้นที่ต้องห้ามสามลี้ที่ไร้ผู้คนนั่น

ทีแรก การปรากฏตัวขึ้นของสวี่ชิง คนที่จับสายตามองมีไม่มาก จนกระทั่งสวี่ชิงทะยานไปตลอดทาง ข้ามผ่านเมืองย่านการค้า เหยียบเข้าไปในพื้นที่สามลี้กว้างโล่ง ถึงจะดึงการจับจ้องของสายตาบางคู่ได้

แต่ก็แค่นี้

สองเดือนมานี้ ผู้บำเพ็ญที่เข้าไปเหมือนอย่างสวี่ชิงมีจำนวนไม่น้อย พวกเขาหลังจากที่เข้าใกล้ภูเขาก็ขอเข้าพบเจ้าเหนือหัว แต่สุดท้ายรออยู่นานก็ไม่มีการตอบรับใดๆ ทำได้เพียงแต่ไปจากพื้นที่สามลี้นี้ รออยู่รอบๆ

ดังนั้นการกระทำของสวี่ชิง ผู้ที่เห็นที่นี่ก็แค่สายตามองตามไปก็เท่านั้น

สวี่ชิงไม่สนใจสายตาเหล่านั้น ตอนนี้บหน้าของเขาไร้อารมณ์ หลังจากเข้าใกล้ภูเขาเจ้าเหนือหัว เงาร่างก็ยืนอยู่กลางท้องฟ้า เงยหน้าทอดสายตามองไปยังภูเขายักษ์ข้างหน้า

ดวงตาทั้งสองของเขาล้ำลึก ในใจครุ่นคิด ครู่หนึ่ง สวี่ชิงสูดลมหายใจลึก ในดวงตาฉายแววเด็ดเดี่ยว โค้งตัวคารวะครั้งหนึ่ง เอ่ยเสียงต่ำทุ้มออกมา

“เสี่ยเฉินจื่อ ขอเข้าพบท่านเจ้าเหนือหัว!”

เสียงของเขาราวสายอัสนีหนักแน่น ดังก้องไปทั่วสารทิศ ดึงความสนใจมากยิ่งขึ้น

นี่คือการหยั่งเชิงของสวี่ชิง

หากพบ ทุกอย่างก็คุยกันได้

หากไม่พบ สวี่ชิงมีวิธีอื่น

เพียงแต่จากการหมุนผ่านไปของเวลา หนึ่งก้านธูปผ่านไป ภูเขาเจ้าเหนือหัวที่ยิ่งใหญ่ตั้งตระหง่านก็ไม่มีการตอบรับใดๆ กลับมา

ดังนั้นสายตาที่จับจ้องมายังร่างของสวี่ชิงเหล่านั้นก็ดึงกลับไป ในใจของแต่ละคนต่างสะท้อนใจ ต่างส่งกระแสจิตหากันและกันน

“มีคนอยากลองของมาอีกแล้ว”

“นี่คือเสี่ยเฉินจื่อมิใช่หรือ อาศัยพลังบำเพ็ญและแต้มความชอบของตัวเอง คิดว่าเจ้าเหนือหัวจะมองต่างออกไปอย่างนั้นหรือ”

“ทั้งๆ ที่เห็นพวกเราล้วนรออยู่ที่นี่แท้ๆ แต่กลับคิดจะไปขอคารวะเข้าพบ เสียงดังขนาดนี้…หากข้าเป็นเจ้าเหนือหัวจะต้องไม่ชอบที่ถูกรบกวนอย่างนี้แน่นอน”

“คิดจะสวามิภักดิ์อยู่ใต้บังคับบัญชาของเจ้าเหนือหัว ต้องให้เจ้าเหนือหัวเห็นถึงความจริงใจถึงจะถูก ดังนั้นวิธีที่ดีที่สุดคือรออยู่รอบๆ ต้องมีสักวันหนึ่งที่เจ้าเหนือหัวมองเห็นความจริงใจของพวกเรา”

คนทั้งหลายที่นี่ต่างส่ายหน้า จากนั้นก็ไม่สนใจอีก

ในการวิเคราะห์ของพวกเขา ไม่นานเท่าไร เสี่ยเฉินจื่อคนนี้ก็จะต้องผิดหวังจากไปอย่างแน่นอน

คำซุบซิบของคนทั้งหลาย สวี่ชิงไม่สนใจ สีหน้าของเขายังคงสงบนิ่ง ยังคงยืนอยู่กลางท้องฟ้า โค้งคารวะอยู่อย่างนั้น รอคอยต่อไป

เช่นนี้เอง ผ่านไปอีกหนึ่งก้านธูป

ความสนใจจากคนทั้งหลายรอบๆ ก็แทบจะเบนไปหมดแล้ว ทุกอย่างกลับสู่ปกติ ย่านการค้าก็กลับมาคึกคักใหม่อีกครั้ง

แต่ในตอนนี้…สวี่ชิงทางนั้นเอ่ยปากขึ้นอีกครั้ง

“เสี่ยเฉินจื่อ ขอเข้าพบท่านเจ้าเหนือหัว!”

คำพูดเหมือนเดิมดังขึ้นอีกครั้ง ดึงความสนใจของคนทั้งหลายรอบๆ ดังนั้นสายตามากมายจึงจับจ้องมาอีกครั้ง ในนั้นยังมีจำนวนหนึ่งที่แฝงไว้ด้วยความไม่พอใจ

เสียงซุบซิบวิพากษ์วิจารณ์ก็ทยอยดังออกมา

แต่เสี้ยวขณะต่อมา ภาพที่ทำให้ผู้บำเพ็ญทุกคนเงียบเสียง สีหน้าต่างเปลี่ยนไปอย่างมหาศาลก็เกิดขึ้นแล้ว

ภูเขาเจ้าเหนือหัวพลันมีเสียงเลื่อนลั่นสนั่นหวั่นไหวดังขึ้นมา!

ภูเขาสั่นคลอน!

ยิ่งกว่านั้นในเสียงดังสนั่นหวั่นไหวนี้ ในคลื่นวนขนาดมหึมาเหนือมันลูกนั้น สายฟ้าปะทุขึ้นราวน้ำบ่าโหมทะลักไปข้างนอก เกิดเสียงดังเลื่อนลั่นยิ่งขึ้น

เสียงดังเลื่อนลั่นเหมือนได้รับการเพิ่มพลัง เสียงดังกึกก้องเลื่อนลั่น ดังไปทั่วทุกสารทิศ

จากนั้น ในคลื่นวนลูกนั้นมีดวงตามหึมาคู่หนึ่งปรากฏขึ้น

ดวงตาสีเงินคู่นี้แฝงไว้ด้วยความเย็นเยียบ ราวดวงเนตรแห่งสวรรค์ ก้มมองพื้นดิน

ผู้ที่ถูกดวงตานี้จ้องมองทุกคนต่างตื่นตระหนกหวาดกลัวทั้งสิ้น ต่างก้มหน้า หมอบคารวะไปตามสัญชาตญาณ

และความทรงพลังยิ่งใหญ่ก็ซัดหอบขึ้น พลังกดดันน่าหวาดกลัวยิ่งทำให้แผ่นดินสั่นไหว ผู้บำเพ็ญนับไม่ถ้วนลมหายใจหอบถี่ในยามที่จิตใจเกิดคลื่นลูกยักษ์ซัดกระหน่ำ เสียงของหลี่ว์หลิงจื่อดังมาจากในภูเขาเจ้าเหนือหัว ดังเย็นเยียบออกมา

“ขึ้นมาสิ”

สามคำนี้เหนือยิ่งกว่าอัสนีสวรรค์ ฟาดผ่าลงมา

บทที่ 1036 ฝ่าบาท ข้าต้องการสิทธิ์แดนลับสิทธิ์หนึ่ง 1

Verify captcha to read the content.ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผู้กล้าเหนือกาลเวลา