เข้าสู่ระบบผ่าน

ผู้กล้าเหนือกาลเวลา นิยาย บท 1038

บทที่ 1038 ใบหน้าข้างเทียนสีแดงดวงนั้น

ในแดนลับต้นกำเนิดโลก พื้นที่ตรงกลางที่อยู่ในรัศมีวงแสงเปลวเพลิงของเทียนสีแดง จากการมาเยือนของเงาร่างสวี่ชิง ดวงดาวที่กำลังพังทลายดวงนั้นก็พลันเหมือนมีเหมันต์ยะเยือกมาเยือน

ทั้งๆ ที่เสี้ยวขณะก่อนหน้านี้ ในความรู้สึกของสวี่ชิง เงยหน้าไปก็ยังมองเห็นแสงไฟบนท้องฟ้าดุจสายน้ำไหล รอบๆ ร้อนแผดเผายิ่งนัก

แต่เสี้ยวขณะต่อมา ผืนดินเกิดน้ำค้างแข็ง ความหนาวเหน็บเย็นยะเยือก รอบๆ พลันเพิ่มขึ้น

สิ่งที่มาพร้อมกับความเย็นเยือกคือจิตสังหารมหาศาล

จากทั่วทุกสารทิศ พุ่งมาหาสวี่ชิงทางนี้อย่างไร้รูปร่าง

ในดวงตาสวี่ชิงเกิดประกายเย็นเยือก เท้ายกขึ้นเยียบลงไปก้าวหนึ่งข้างหน้า ในพริบตาที่เหยียบไปบนพื้น ผืนดินน้ำค้างแข็งรอบๆ พลันระเบิดกึกก้อง แล้วเกิดรอยแตกเป็นทางๆ โดยมีสวี่ชิงเป็นศูนย์กลาง

รอยแตกนี้แผ่ลามมาเพียงพริบตา เหมือนกระจกแตก แล้วก็เหมือนใยแมงมุม ขณะที่ปกคลุมเป็นบริเวณหมื่นลี้ ก็ยกตัวขึ้นถล่มซัดระเบิดมา

สอดประสานสลับไขว้กลางอากาศ ดึงดูดกระแสอากาศ ก่อเป็นลมพายุ

ดังนั้น ท่ามกลางดินโคลนมหาศาลที่สาดกระเซ็น ลมพายุรุนแรงยิ่งขึ้น น้ำค้างแข็งนับไม่ถ้วนกระจายมา

กวาดม้วนทั่วทุกทิศ

ขณะเดียวกัน อาศัยพลังพายุนี้ สวี่ชิงร่างพลันทะยานขึ้น พุ่งไปยังที่ไกลอย่างรวดเร็ว

แต่ตัวตนไร้รูปร่างที่เขามองไม่เห็น จิตสังหารของพวกมันไม่ได้ลดลงจากการที่ที่นี่แตกสลายเลย กลับรวมตัวกันอย่างมากมายในพริบตา ผสานไปในลมพายุ

ลมพายุนั้นส่งเสียงเปรี๊ยะๆ แล้วถูกน้ำแข็งผนึก กลายเป็นเสามหึมาที่น่าครั่นคร้ามเป็นอย่างยิ่งต้นหนึ่ง เชื่อมต่อกับฟ้าดิน

ริมขอบของมันยังแผ่ไปทางทิศที่สวี่ชิงมุ่งหน้าไป

คล้ายว่ากำลังไล่โจมตี

สวี่ชิงขมวดคิ้ว ในความทรงจำของเสี่ยเฉินจื่อ ตอนนั้นแม้จะเพื่อหลบหลีกอันตรายจึงมาถึงดาวดวงนี้อย่างไม่ได้ตั้งใจ แต่อยู่ที่นี่ก็ไม่ได้เจอกับอันตรายมากมายอะไร

แต่กลับเดินเข้ามาในหุบเขานั่นไได้อย่างราบรื่นด้วยซ้ำ

ทว่าตอนนี้เมื่อตัวเองมาถึงกลับต่างออกไป

“เป็นช่วงนี้ที่นี่เกิดการเปลี่ยนแปลงอะไร หรือจะบอกว่า…เพราะการมาเยือนของข้าดังนั้นจึงต่างออกไปกันแน่”

ขณะสวี่ชิงครุ่นคิด ความเร็วก็เร็วยิ่งขึ้น ท่ามกลางเสียงแหวกสายลมไปอย่างรวดเร็ว ความหนาวเหน็บเย็นเยือกข้างหลังเขาก็รุนแรงขึ้น ทุกที่ที่ผ่านผืนดินล้วนเกิดน้ำแข็งผนึก ลมในฟ้าดินก็ถูกแช่แข็งกลายเป็นเสาน้ำแข็งมากมาย

บ้างร่วงลงพื้นดิน บ้างรวมเข้าด้วยกันเกิดเป็นรูปร่างแยกเขี้ยวยิงฟัน ลามไปยังท้องฟ้า

ทำให้ท้องฟ้าก็เกิดสัญญาณของการผนึกแช่แข็งเช่นกัน

เหมือนว่าจิตสังหารที่ส่งออกมาจากสิ่งแปลกประหลาดเหล่านั้น จากทั้งท้องฟ้า แผ่นดิน ลมพายุ มิติ จากระดับขั้นต่างๆ ล้วนกำลังไล่สังหารสวี่ชิงมาทั้งนั้น

“หากเป็นแบบนี้ต่อไป จะเริ่มคุมไม่ได้”

ในตอนที่ผ่านทะเลสาบแห่งหนึ่ง จากการที่ทะเลสาบถูกผนึกแช่แข็ง ร่างของสวี่ชิงหยุดอยู่กลางท้องฟ้า สัมผัสรอบๆ หลังจากมั่นใจว่ารอบๆ ไม่มีผู้บำเพ็ญคนอื่น พลังต้นกำเนิดเทพในร่างของเขาก็พลันปะทุขึ้น แสงทองมหาศาลพุ่งออกมาจากร่างสวี่ชิง

อำนาจเทพแห่งเสียง อำนาจเทพพระจันทร์สีม่วง ในเสี้ยวขณะนี้ก่อเป็นการสังหารทำลายล้าง กวาดโหมทุกสิ่ง

ทุกที่ที่ผ่าน ขอเพียงเป็นที่ที่เกิดเสียงผนึกแช่แข็งก็ล้วนระเบิดทันที

การแช่แข็งผนึกบนท้องฟ้ายิ่งมีสีม่วงปรากฏขึ้น ดวงจันทร์สีม่วงดวงหนึ่ง ทะยานขึ้นในภาพเงาบันทึกเคลื่อนไหว

อาบย้อมดวงดาวที่อยู่ในการแตกสลายดวงนี้

ยิ่งมีไหมวิญญาณสายเซียนต่างวิถีจำนวนมหาศาลพุ่งออกมาจากในร่างสวี่ชิง แปรเปลี่ยนเป็นน้ำทะลักไหลบ่า เข้าแทนที่ลมพายุ รวมกันเป็นคลื่นวนยิ่งใหญ่มหึมา ฉีกทึ้งทุกสิ่ง

พลังมหาศาลเช่นนี้ต่อให้เป็นผู้บำเพ็ญระดับเตรียมสู่เทวะห้า หกโลกเมื่อได้เผชิญหน้าจิตใจล้วนเกิดระลอกคลื่นเช่นกัน แต่ที่นี่…ต่อให้อยู่ภายใต้พลังอำนาจเทพของสวี่ชิง ฟ้าถล่มดินทลาย แต่ว่า…

กลิ่นอายหนาวเหน็บเย็นเยือกไม่หายไปแม้แต่น้อย อย่างมากคือถูกพัดหอบไป แต่ไม่นานนัก ก็หลอมรวมขึ้นใหม่จากรอบๆ อย่างรวดเร็วโดยมีสวี่ชิงเป็นศูนย์กลางอีกครั้ง จิตสังหารไม่ลดลงเลยแม้แต่น้อย

ต่อให้มองไม่เห็นตัวตนสิ่งประหลาดเหล่านี้ แต่ผนึกน้ำแข็งที่ปรากฏขึ้นข้างนอกก็ทำให้สวี่ชิงตระหนักได้จุดหนึ่ง

“ไม่อาจดับได้หรือ”

ประกายวาววามในดวงตาสวี่ชิงหยุดนิ่ง ไม่ใช้พลังอำนาจเทพอีก แต่สูดลมหายใจลึก ทันใดนั้นในทะเลความรู้สึกของเขามีดวงอาทิตย์ดวงใหญ่ลอยขึ้นมา

เป็นแสงเซียนอาทิตย์ทมิฬนั่นเอง

แสงนี้สาดปะทุออกมาจากร่างสวี่ชิง ก่อเป็นแสงและความร้อน ส่องไปทั่วทั้งสี่ทิศ

แต่ผล…ก็ยังคงไม่มีอะไรพิเศษ

แม้สวี่ชิงจะสลัดหลุดได้ชั่วคราว แต่ไม่นานนักตัวตนแปลกประหลาดที่มองไม่เห็นเหล่านี้ก็ไล่ตามมาอีกครั้ง

“หากเป็นแบบนี้ต่อไป ต่อให้ข้าไปถึงที่ที่หุบเขานั่นอยู่ ก็ยากที่จะมีสมาธิตามหาต้นกำเนิดที่ทำให้ในชะตาของเสี่ยเฉินจื่อมีฝุ่นสีขาว”

สวี่ชิงครุ่นคิด ผ่านจากการประมือหลายครั้งกับสิ่งประหลาดเหล่านี้ที่นี่เมื่อก่อนหน้านี้ ในใจของเขามีการวิเคราะห์คร่าวๆ

สิ่งประหลาดที่เนื่องจากถูกหลอมผสานจึงเสียกายเนื้อ ถูกเทียนสีแดงเปลี่ยนแปลงไปเช่นนี้ ตัวมันก็มีความเป็นอมตะไม่สูญสิ้นแตกดับ

แต่คุณสมบัติเช่นนี้ก็มีจุดหักล้างอยู่เช่นกัน

เพราะจากสรรพชีวิตทั้งหลายตลลอดจนเทพเจ้าที่สวี่ชิงได้เห็นตลอดเส้นทางที่เดินมา ล้วนไม่นับว่าเป็นอมตะไม่สูญสลายอย่างแท้จริงทั้งนั้น

ต่อให้เป็นเทพแท้จริงก็เป็นเช่นนี้เช่นกัน

ไม่เช่นนั้นแล้ว อวี้หลิวเฉินจะไปลอบวางแผนเทพแท้จริงได้อย่างไร

“ดังนั้น ไม่ตายก็ดี ไม่แตกดับสูญสลายก็ช่าง ภายใต้เงื่อนไขเฉพาะบางอย่าง ก็จะทำให้มันพังทลายได้”

“เช่นนั้น สิ่งประหลาดที่ข้าสามารถขยี้มันแหลกได้เลยแท้ๆ เหล่านั้น เงื่อนไขการเป็นอมตะไม่ดับสูญสลายของพวกมันคืออะไร”

สวี่ชิงเคลื่อนไปข้างหน้าก็ถูกสิ่งประหลาดที่มองไม่เห็นเหล่านั้นไล่โจมตีไปด้วย พลางครุ่นคิดไปด้วย

หลายอึดใจหลังจากนั้น สวี่ชิงพลันหันไป สีหน้าฉายแววเฉียบขาด เอ่ยพึมพำ

“เมื่อปรากฏก็จะพบเห็น สิ่งประหลาดเหล่านี้ที่นี่ เงื่อนไขของการเป็นอมตะไม่สูญสลายของมันคือมองไม่เห็น!”

“เพราะมองไม่เห็น ดังนั้นจึงฆ่าพวกมันไม่ได้!”

“ซึ่งก็หมายความว่า หากอยากฆ่าพวกมันก็จะต้องมองเห็นพวกมันให้ได้ก่อน!”

แทบจะในพริบตาที่สวี่ชิงตระหนักได้ถึงข้อนี้ ในใจของเขาก็มีระลอกคลื่นอารมณ์ของเจ้าเงาส่งมา

“นาย…ถูก…ข้าหลอม…เห็นได้…”

คิ้วสวี่ชิงขมวดทันที ระลอกคลื่นอารมณ์ของเจ้าเงาส่งมาได้ทันเวลาเหลือเกิน เหมือนว่าอีกฝ่ายคอยให้ตนตระหนักถึงจุดนี้ได้มาตลอด

“ทำไมไม่บอกก่อนหน้านี้!”

บทที่ 1038 ใบหน้าข้างเทียนสีแดงดวงนั้น 1

บทที่ 1038 ใบหน้าข้างเทียนสีแดงดวงนั้น 2

Verify captcha to read the content.ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผู้กล้าเหนือกาลเวลา