บทที่ 1051 วิญญาณมารทะลวงมรรตัย
………………..
พื้นดินรอบๆ หมื่นลี้เหมือนกระจกแตก รอยร้าวเต็มไปหมด
เพลิงสีดำพวยพุ่งออกมาจากในรอยแยก ทำให้รัศมีหมื่นลี้กลายเป็นทะเลเพลิง
ขณะเดียวกับที่เผาไหม้ วิญญาณเผ่ามนุษย์นับไม่ถ้วนในนั้นส่งเสียงร้องครวญครางโหยไห้น่าขนลุก
พวกเขาไม่อาจหลุดพ้นไปได้ ทำได้เพียงถูกพันธนาการอยู่ในทะเลเพลิง วนล้อมอยู่รอบทวนที่อยู่ตรงกลาง
เขาสวรรค์บูรพาหายไปแล้ว
ตำแหน่งที่เคยเป็นภูเขาตอนนี้มีเพียงทวนน่าครั่นคร้ามที่ปักลงผืนดินเล่มนั้น
เงาร่างที่ยืนอยู่บนทวนราวมารลงมาเยือนโลก ในยามที่ผมสีแดงปลิวสยาย ในกายเขามีแสงไฟเจ็ดกลุ่มเผาไหม้เจิดจ้าแสบตา
เป็นซีหมัวจื่อนั่นเอง
และจุดสำคัญที่สวี่ชิงให้ความสนใจคือ เงามารฟ้าข้างหลังซีหมัวจื่อ!
นั่นเป็นต้นกำเนิดที่ทำให้เขาระแวงระวังตลอดจนรู้สึกอันตราย
มารฟ้านี้แม้จะเป็นภาพมายา แต่ร่างที่สูงใหญ่และทรงอำนาจ เกราะที่ดำมืดแต่เจิดจรัสทำให้ความรู้สึกกดดันรุนแรงเป็นอย่างมาก และยังมีในดวงตาทั้งสองที่ลึกล้ำเหี้ยมโหดนั่น แสงประกายความชั่วร้ายที่กะพริบเหมือนสามารถมองทะลุจิตใจผู้คน
ผมยาวและหยิก ประดุจเปลวเพลิงในราตรี สาดทอประกายแสงแปลกประหลาด
นิ้วเรียวยาวและแหลมคม คล้ายว่าสามารถฉีกทำลายอุปสรรคขัดขวางทุกอย่างได้
โดยเฉพาะอักขระซับซ้อนที่ประทับอยู่บนร่างของเขา ไม่เพียงแต่เป็นสัญลักษณ์แทนต้นกำเนิดพลังของมัน และเหมือนว่าซ่อนคำสาปลึกลับอะไรบางอย่าง
ตอนนี้จากการลงมาเยือน ข้างกายเขามีความมืดโจมตีความว่างเปล่า มีลมพายุก่อขึ้นครืนครานเลื่อนลั่น มีสายฟ้าแลบแปลบปลาบสะท้านสะเทือน
ล้วนแต่สำแดงอานุภาพและพลังอย่างเด่นชัดทั้งสิ้น
“อำนาจ…”
และตระหนักได้ทันทีว่า นี่ไม่ใช่อำนาจธรรมดาทั่วไป!
“อำนาจของข้ามีชื่อว่าวิญญาณมารทะลวงมรรตัย”
ซีหมัวจื่อเอ่ยราบเรียบ ก้มมองสวี่ชิง
“ส่วนเจ้าใช่เสี่ยเฉินจื่อหรือไม่ ตอบหรือไม่ตอบก็ไม่มีความหมาย”
“ข้าเป็นตัวแทนของภูเขาเจ้าเหนือหัวที่สิบเจ็ด สู้กับเจ้า จะเป็นการข่มเหงผู้อ่อนแอกว่าเกินไปหน่อย การต่อสู้ครั้งนี้ข้าจะใช้พลังวิเศษเพียงแค่สามกระบวนท่า เจ้าตาย หลี่ว์หลิงจื่อโทษข้าไม่ได้ หากเจ้าไม่ตายก็นับว่าเป็นวาสนาของเจ้า ข้าจะไว้ชีวิตเจ้า”
พูดจบเขาก็ยกมือขวาขึ้น ชี้ไปทางสวี่ชิง
เพียงพริบตา ความว่างเปล่าข้างหน้าสวี่ชิงก็แหวกออก ทวนยาวที่หนาหลายฉื่อ ยาวประมาณหลายสิบจั้ง พุ่งทะยานออกมาจากในนั้นอย่างรวดเร็ว ฉีกทึ้งความว่างเปล่า ตรงมาหาสวี่ชิง
ทุกที่ที่ผ่าน กฎเกณฑ์และกฎระเบียบล้วนพังทลาย เห็นได้ว่าพลังของเขาน่าพรั่นพรึงปานใด และฤทธิ์เดชของเขาก็ยิ่งสั่นคลอนพิภพ ทำให้ฟ้าดินเกิดการเปลี่ยนแปลง ยิ่งมีพลังอำนาจอยู่ในนั้น
แข็งแกร่งบดขยี้ทำลายล้างมาตลอดทาง จับเป้าหมายจิตใจของสวี่ชิง กวาดพากลิ่นอายอันน่าสะพรึงกลัว ระเบิดปะทุพลังที่ใกล้เคียงกับระดับเจ้าเหนือหัวอย่างสูงสุดออกมา
เข้ามาใกล้เพียงพริบตา
รูม่านตาของสวี่ชิงหดเล็ก
ความแข็งแกร่งของซีหมัวจื่อเหนือกว่าระดับเตรียมสู่เทวะทุกคนที่เขาเคยได้พบก่อนหน้านี้ พูดได้ว่าในบรรดาศัตรูที่เขาเคยพบมา เป็นอันดับหนึ่งของระดับเตรียมสู่เทวะระดับนี้
สวี่ชิงไม่ลังเลใดๆ ทั้งสิ้น จ้องทวนยาวที่เข้ามาใกล้อย่างรวดเร็วเล่มนั้น ร่างถอยไปตามแรง รักษาความเร็วให้สอดคล้อง
แต่ในพริบตาที่สวี่ชิงถอยหลังไป อีกด้านหนึ่ง ทวนเล่มที่สองก็ปรากฏขึ้น เกิดเสียงหวีดแหลมกึกก้องมาพร้อมด้วยพลังระดับเดียวกัน พุ่งมาหาสวี่ชิง
และการสังหารโจมตีก็ยังไม่สิ้นสุด กลับเพิ่มมากขึ้น
เวลาเพียงพริบตา เล่มที่สาม เล่มที่สี่ เล่มที่ห้า…
ทวนยาวน่าครั่นคร้ามพรั่นพรึงสะท้านฟ้าสะเทือนดินทั้งหมดเก้าเล่มก็ปรากฏขึ้นตามตำแหน่งต่างๆ รอบตัวสวี่ชิง ต่างก่อพลังทำลายล้างสังหารขึ้น จับเป้าหมายทุกตำแหน่งของสวี่ชิง
เห็นว่าจะแทงทะลุเขาเต็มทีแล้ว แต่เห็นได้ชัดว่าซีหมัวจื่อมีความเข้าใจในตัวสวี่ชิงไม่มาก หรือพูดให้ถูกคือ ต่อให้เขาเข้าใจในตัวเสี่ยเฉินจื่อ แต่สำหรับสวี่ชิง เขาไม่รู้อะไรเลย
ดังนั้นการโจมตีนี้ ทวนยาวเก้าเล่มในนั้น แม้ทุกเล่มจะมีพลังที่ใกล้เคียงกับระดับเจ้าเหนือหัวอย่างไม่มีขีดจำกัด อีกทั้งยังจับเป้าหมายทิศทาง ก่อเป็นสภาพที่คล้ายกับผนึก
แต่…เขาไม่ได้ผนึกเสียง
ดังนั้น ในเสี้ยวพริบตาที่ทวนยาวเก้าเล่มนั้นปะทุพลังท่วมฟ้า ท่ามกลางเสียงกรีดหวีดกึกก้องเลื่อนลั่นก็ต่างร่วงลงทั้งหมดในพริบตาที่แทงทะลุไปยังบริเวณที่สวี่ชิงอยู่
เงาร่างของสวี่ชิงพลันรางเลือน สิ่งที่ถูกแทงทะลุเป็นเพียงรอยเงาที่ทิ้งไว้กับที่เท่านั้น
ร่างจริงของเขาได้ผสานไปกับเสียงแล้ว หายลับไม่เห็นตัว
ในตอนปรากฏตัวก็มาอยู่ที่กลางท้องฟ้า ข้างหลังซีหมัวจื่อ ไม่หยุดรีรอใดๆ ทั้งสิ้น เงื้อฝ่ามือกดลงไป
แต่ประสบการณ์การต่อสู้ของซีหัวจื่อก็โชกโชน ปฏิกิริยาตอบสนองก็รวดเร็วน่าตื่นตะลึง แทบจะในพริบตาที่สวี่ชิงปรากฏตัวขึ้นแล้วลงมือ ร่างของเขาก็รางเลือนไป
ฝ่ามือของสวี่ชิงกดลงไปบนความว่างเปล่า พลันเงยหน้ามองไปทางท้องฟ้าสูง
บนท้องฟ้า เงาร่างของซีหมัวจื่อปรากฏขึ้น ก้มหน้าจ้องมองสวี่ชิง ดวงตาฉายแววประหลาดใจ
“น่าสนใจอยู่เหมือนกันนี่”
ทันทีที่เอ่ยปากพูด มือขวาของเขาก็ยกขึ้นอีกครั้ง ชี้ไปทางสวี่ชิงทางนั้น
ทันใดนั้น ทะเลเพลิงสีดำบนพื้นข้างล่างหมื่นลี้ก็ปะทุขึ้นทันที เปลวเพลิงมหาศาลพวยพุ่งขึ้นฟ้า วิญญาณเผ่ามนุษย์จำนวนหนึ่งในนั้นบิดเบี้ยว แปรเปลี่ยนเป็นทวนยาวมากมาย
จำนวนมีมากถึงหมื่นกว่าเล่ม พุ่งออกมาพร้อมกันโดยมาพร้อมกับทะเลเพลิงบนพื้น ประดุจฝนทวน ตรงดิ่งไปหาสวี่ชิง
ที่น่ากลัวยิ่งกว่านั้นคือ ทวนหมื่นกว่าเล่มนี้ทันทีที่พุ่งออกมาก็ต่างแบ่งตัวเองออกอีกครั้ง ทำให้จำนวนของทวนพุ่งเพิ่มขึ้นเป็นสิบเท่าตัว มีจำนวนถึงแสนกว่า
พวกมันพุ่งขึ้นจากเบื้องล่างสู่เบื้องบน คลุมพื้นที่กว้างถึงหมื่นลี้ อีกทั้งแม้ความเร็วที่พุ่งออกมาจะรวดเร็ว แต่กลับถูกควบคุมจนไม่เกิดเสียงใดๆ เลย
แม้พลังของแต่ละหนึ่งจะไม่รุนแรงเท่าเมื่อครู่ ทว่าด้วยจำนวนมหาศาลเช่นนี้ กลับทำให้พลังทำลายล้างเหนือกว่าเมื่อครู่ ตอนนี้ท่ามกลางความเงียบงันนี้เอง ก็ก่อเกิดเป็นกระบวนท่าสังหารท่าที่สองของซีหมัวจื่อ
เพียงพริบตาก็โจมตีไปบนร่างสวี่ชิง
สวี่ชิงหรี่ตา คล้ายครุ่นคิด ไม่ได้หลบเลี่ยง หลังจากเลือดลมในร่างถาโถมเดือดพล่านขึ้น ก็หลับดวงตาทั้งสองลง
เสี้ยวขณะต่อมา ทวนยาวแสนเล่มจากทั่วทุกสารทิศก็โจมตีเสียงดังสนั่นหวั่นไหวมาอย่างต่อเนื่อง เสียงกึกก้องสะท้านฟ้าเป็นระลอกๆ ดังไปทั่วทิศ และกลางท้องฟ้าในบริเวณที่สวี่ชิงอยู่ ประกายแสงกะะพริบวาบขึ้นมา
กฎเกณฑ์ทุกอย่างแตกทลาย กฎเกณฑ์ทุกอย่างสลายไปจนสิ้น มิติแตกร้าว เปลวเพลิงน่าครั่นคร้ามสะท้านสะเทือน
แต่ร่างสวี่ชิงที่อยู่ในนั้นกลับยังคงเป็นปกติ
กระทั่งว่ามองเห็นทวนยาวที่ซัดมาบนร่างของเขาเหล่านั้น ทุกเล่มหลังจากที่สัมผัสกับเขาแล้ว ก็ต่างส่งเสียงระเบิด เกิดเป็นพลังสังหารทำลายล้าง แต่สุดท้ายภายใต้แรงสะท้อนกลับไปของเขา พวกมันก็แหลกสลายไป
ไม่อาจทำลายการป้องกันกายเนื้อของสวี่ชิงได้เลย



ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผู้กล้าเหนือกาลเวลา