บทที่ 1057 มหาบาปแห่งบรรพกาล
ตำหนักวิชาเซียนเผ่าปีกมารฝั่งบูรพา ผู้อาวุโสใหญ่ชุดคลุมสีดำคนนั้นเสียงดุจโลหะเสียดสี ดังไปทั้งลานกว้าง
อีกทั้งเสียงของมันยังแฝงไว้ด้วยเสียงซ้อนทับ เพราะคนที่พูดไม่ใช่แค่เขาที่แก่ชรา แต่ชายกลางคน ชายหนุ่ม เด็กชายข้างหลังเขาต่างพูดทั้งนั้น
ภาพนี้แปลกประหลาดเป็นอย่างมาก
เห็นได้ว่าชายชราคนนี้ แม้จะไม่มีวิชาเซียนมรดกหกรากราคะตัณหาของเผ่าปีกมารฝั่งบูรพา แต่วิชาเซียนที่เขาครอบครองก็น่าตื่นตะลึงเช่นกัน
ตอนนี้พูดจบ คทาเวทในมือเขาก็เคาะลงไปกลางความว่างเปล่าข้างล่าง
เสียงเหมือนระฆังดังออกมาทันที แผ่สะท้อนมา
เหมือนสายฟ้าแต่ก็เหมือนเสียงคำรามที่แฝงไว้ด้วยสรรพชีวิตทั้งหลาย ก่อเป็นพลังถล่มภูเขาล่มมหาสมุทรบิดม้วนมิติ ทั่วทุกสารทิศรางเลือน เกิดพลังมหาศาลขึ้นมา
ยิ่งกว่านั้นพื้นของลานกว้างที่ชี้ไป ตอนนี้เสียงดังระเบิดดังก้องขึ้น คลื่นวนขนาดมหึมาลูกหนึ่งพลันปรากฏขึ้นตรงนั้น
หมุนวนไม่หยุด เหมือนเกิดเป็นหลุมดำหลุมหนึ่ง ชี้ไปยังสถานที่ที่ไม่มีผู้ใดล่วงรู้
ภาพนี้ทำให้ตัวแทนภูเขาเจ้าเหนือหัวของทุกฝ่ายต่างมองมา
สวี่ชิงแม้สีหน้าจะเป็นปกติ แต่ในดวงตากลับฉายแววล้ำลึก
ทูตของภูเขาเจ้าเหนือหัวเก้าคนคนอื่นๆ ต่างคล้ายครุ่นคิดไปเช่นกัน เห็นได้ชัดว่าสำหรับผู้อาวุโสใหญ่ที่เพิ่งออกจากด่านมาไม่นานนี้ มีความรู้ความเข้าใจใหม่
“ตัวแทนภูเขาเจ้าเหนือหัวทั้งหลาย เพื่อปฏิบัติตามคำสัญญาเก่าแก่โบราณ ขอโปรดนำป้ายออกมา อนุญาตให้ตำหนักวิชาเซียน เปิดเตาหลอม!”
ผู้อาวุโสใหญ่เงยหน้า มองไปทางทุกฝ่าย เสียงต่ำทุ้ม
ทุกฝ่ายเงียบนิ่ง หลังจากมองซึ่งกันและกัน ทูตจากภูเขาเจ้าเหนือหัวที่ห้าก็ยกมือ ทันใดนั้นป้ายอาญาสิทธิ์แผ่นหนึ่งก็ลอยอยู่เหนือศีรษะเขา ส่องประกายแสงเจิดจ้า
จากนั้นตัวแทนภูเขาเจ้าเหนือหัวลูกอื่นๆ ก็ต่างมีป้ายอาญาสิทธิ์พุ่งออกมา
จากคำสัญญาของตำหนักวิชาเซียนกับภูเขาเจ้าเหนือหัว ตำหนักวิชาเซียนตามหลักแล้วจะต้องอยู่ภายใต้การถ่วงดุลโดยภูเขาเจ้าเหนือหัว ดังนั้นมหาปรมาจารย์ทุกรุ่นล้วนต้องได้รับการยอมรับจากภูเขาเจ้าเหนือหัว
โดยเฉพาะเตาหลอมหลอมเซียนของวิเศษโบราณของตำหนักวิชาเซียนชิ้นนี้ยิ่งมีข้อจำกัดเพิ่มเติมคือมีเพียงป้ายอาญาสิทธิ์เท่านั้นที่จะเปิดมันได้
ในเมื่อ ของวิเศษโบราณชิ้นนี้ที่มาที่ไปไม่ธรรมดา อีกทั้งยังเป็นเพียงชิ้นเดียวของทั้งเผ่าปีกมารอีกด้วย
และก็เป็นสิ่งที่เป็นศูนย์กลางของอำนาจและความชอบธรรมของเผ่าปีกมารฝั่งบูรพาในอดีตเช่นกัน แม้ว่าวันนี้ตำหนักวิชาเซียนเผ่าปีกมารฝั่งบูรพาจะเสื่อมถอย แต่ไม่ว่าตำหนักวิชาเซียนปีกมารฝั่งประจิมจะวางแผนอย่างไรก็ไม่เคยสัมฤทธิ์ผล
และตำหนักวิชาเซียนเผ่าปีกมารฝั่งบูรพาแม้ตามหลักปฏิบัติแล้วจะถูกถ่วงดุลและจำกัดอำนาจ แต่ความจริงแล้วภูเขาเจ้าเหนือหัวฝ่ายต่างๆ ล้วนให้ความเคารพต่อกิจการภายในของวิหารเวทเซียนอย่างเต็มที่ แทบจะไม่เคยแทรกแซงเลย
ดังนั้น หลังจากที่ตัวแทนภูเขาเจ้าเหนือหัวส่งป้ายอาญาสิทธิ์ขึ้นไป สวี่ชิงก็คิดๆ แล้วเอาป้ายอาญาสิทธิ์ออกมาเช่นกัน
การปรากฏขึ้นของป้ายอาญาสิทธิ์ทั้งสิบแผ่นสาดประกายแสงเจิดจ้าพร่างพรายพร้อมกัน รวมเป็นทะเลแสง ผสานไปในคลื่นวนที่อยู่ข้างล่าง
ทำให้คลื่นวนนี้สีสันพราวพร่างไปในทันที ในขณะที่ระยิบระยับพร่างพราย เสียงระเบิดครืนครานก็น่าครั่นคร้ามกว่าก่อนหน้านี้ ท่ามกลางเสียงสะท้อนที่ดังไม่หยุด ในคลื่นวนมีวัตถุชิ้นหนึ่งลอยขึ้นมา
สิ่งที่ปรากฏออกมาก่อนเป็นกระดูกชิ้นหนึ่ง!
ไม่มีเลือดเนื้อ มีเพียงกระดูก แผ่กลิ่นอายเหี้ยมโหดน่าพรั่นพรึง
จากนั้นก็เป็นฝาขนาดร้อยจั้งอันหนึ่ง…
จากนั้นก็เป็นเตาหลอมขนาดมหึมา
สุดท้ายสิ่งที่ปรากฏท่ามกลางสายตาของคนทั้งหลายก็เป็นเตาหลอมขนาดหลายร้อยจั้งใบหนึ่ง!
เตาหลอมนี้เป็นสีขาว ทั้งใบทำมาจากกระดูก ผิวเตาหลอมสลักไว้ด้วยอักขระโบราณนับไม่ถ้วน ในขณะที่ความเหี้ยมโหดพลุ่งพล่านโหมทะลัก ก็มีความรู้สึกของห้วงกาลเวลาไหลเวียนอยู่บนนั้น
ทันทีที่ปรากฏขึ้น ก็เหมือนมีลมบรรพกาลพัดเอาเสียงคำรามบ้าคลั่งไม่ยอมจำนนมายังโลกปัจจุบัน
ดึงดูดความสนใจและความสะท้านสะเทือนจิตใจของทุกคน
ขั้วอำนาจทุกฝ่ายที่นี่มีจำนวนไม่กี่คนไม่มากที่เคยเห็นเตาหลอมหลอมเซียนใบนี้ปรากฏเมื่อหลายปีก่อน ส่วนคนอื่นๆ แม้จะเคยได้ยินตำนานเกี่ยวกับเตาหลอมใบนี้ แต่เห็นเองกับตาก็นับว่าเป็นครั้งแรก
สวี่ชิงก็ตาจ้องไม่กะพริบเช่นกัน แต่จุดสำคัญที่เขามองไปคือกระดูกชิ้นนั้น
ยิ่งมองก็ยิ่งรู้สึกว่า…คุ้นตานัก!
สวี่ชิงจิตใจสะท้าน ในขณะในสมองมีความคิดที่เหลือเชื่อความคิดหนึ่งผุดขึ้น ก็มีทูตจากภูเขาเจ้าเหนือหัวคนหนึ่ง จ้องมองมาแล้วกล่าวขึ้นอย่างช้าๆ
“ผู้อาวุโสใหญ่ เตาหลอมใบนี้ก็คือหนึ่งในหกเตาหลอมกระดูกที่มหาจักรพรรดิวิชาเซียนเป็นคนสร้างขึ้นอย่างนั้นหรือ”
ผู้อาวุโสใหญ่ตำหนักวิชาเซียนได้ยินก็พยักหน้าช้าๆ ในดวงตาฉายประกายเย็นเยือก
“มหาจักรพรรดิวิชาเซียนแม้จะเป็นเผ่ามนุษย์ อีกทั้งหลังจากนั้นก็เลือกที่จะถูกประวัติศาสตร์ลืมเลือน ทำให้ชนรุ่นหลังไม่รู้จักชื่อเสียงของเขา ต่อให้สายวิชาเซียนเราก็ยากจะล่วงรู้”
“แต่ร่องรอยเรื่องราวของมาหจักรพรรดิ พวกเราสายวิชาเซียนไม่มีทางลืมแน่นอน”
“เตาหลอมใบนี้ก็คือหนึ่งในหกเตาหลอมกระดูก ซึ่งถูกหลอมขึ้นโดยมหาจักรพรรดิวิชาเซียนในช่วงต้นสมัยที่จักรพรรดิโบราณเสวียนโยวออกศึกทั่วแผ่นดินต้องประสงค์ โดยเขาได้สังหารมหาบาปไร้เทียมทานทั้งหกแห่งยุคนั้นด้วยมือ นำกระดูกของพวกมันมาเป็นวัสดุในการสร้างขึ้น!”
“กระดูกบนนั้นก็คือกระดูกของมหาบาปที่ถูกหลอม”
“ส่วนเตาหลอมกระดูกที่อยู่ข้างหน้าทุกท่านใบนี้ ในยามมีชีวิตไม่รู้ว่าเป็นเผ่าพันธุ์ใด จากตำนานที่เล่าขาน มหาบาปคล้ายทั้งเผ่ามนุษย์แต่ก็เหมือนไม่ใช่เผ่ามนุษย์”
“และตำหนักวิชาเซียนก็ได้มีร่องรอยบันทึกโบราณบอกเล่าเอาไว้ว่ามหาบาปนี้พลังบำเพ็ญยิ่งใหญ่ เทียบได้กระทั่งมหาจักรพรรรดิ โดยเฉพาะความบ้าคลั่งของเขายิ่งสะท้านสะเทือนไปทุกทิศ ความละโมบของเขาก็ชวนให้ขนลุกนัก”
“ตอนนั้นฉวยโอกาสที่จักรพรรดิโบราณเสวียนโยวทำสงครามกับหมื่นเผ่า มหาบาปนี้ก็แฝงตัวเข้ามาในเผ่าทั้งหลาย ขโมยของวิเศษต่างๆ โดยเฉพาะครั้งสุดท้าย มหาบาปนี้ได้ขโมยมงกุฏจักรพรรดิของจักรพรรดิโบราณเสวียนโยวไป หลังจากล้มเหลว จักรพรรดิโบราณเสวียนโยวโมโห ส่งมหาจักรพรรดิวิชาเซียนไปไล่สังหาร”
“ภายหลังมหาจักรพรรดิวิชาเซียนได้วางค่ายกลสังหาร วางแผนล่อ ถึงได้ฆ่าเขาได้สำเร็จ”
“หลอมเป็นเตาหลอมหลอมละโมบ สามารถใช้วิชาเซียนหลอมเอาความละโมบของเตาหลอมนี้ออกมาได้”
เสียงของผู้อาวุโสใหญ่ตำหนักวิชาเซียนดังก้อง ดังไปในหูของทุกฝ่าย ทำให้ทูตของภูเขาเจ้าเหนือหัวทุกคนต่างสีหน้าเปลี่ยนไป
พวกเขาแม้จะรู้ถึงการมีอยู่ของเตาหลอมใบนี้ แต่ที่มาที่ไปโดยละเอียดเช่นนี้ก็นับเป็นครั้งแรกที่ได้ยิน
ส่วนสวี่ชิง…
ในใจเกิดความรู้สึกแปลกประหลาดผุดขึ้น การคาดเดาที่ไม่อยากจะเชื่อนั่นตอนนี้ยิ่งรุนแรง ดังนั้นสายตาจึงมองขึ้นไปบนกระดูกของเตาหลอมใบนี้ มองไปทางเยวี่ยตงที่ถูกแขวนอยู่กลางอากาศ
“หรือว่าเป้าหมายของศิษย์พี่ใหญ่…ก็คือเตาหลอมใบนี้อย่างนั้นหรือ”
ในยามสวี่ชิงครุ่นคิด ผู้อาวุโสใหญ่ตำหนักวิชาเซียนหลังจากที่แนะนำเตาหลอมกระดูกเสร็จ สองมือก็ยกขึ้น
“ข้าในนามผู้รับหน้าที่แทนมหาปรมาจารย์เซียน ขออัญเชิญป้ายอาญาสิทธิ์แห่งภูเขาเจ้าเหนือหัวทั้งสิบ เปิดเตาหลอมกระดูก ณ บัดนี้ หลอมกบฏเยวี่ยตงให้เป็น…ลูกกลอนเซียนหกราก!”
“เตาหลอม จุดเพลิง!”
คำพูดเพียงดังออกมา เตาหลอมกระดูกมหึมาก็สั่นไหวเสียงดังวู้มๆ ทันที
ทะเลสาบสีขาวที่ตำหนักวิชาเซียนตั้งอยู่ตอนนี้เดือดพล่าน จะแปรเปลี่ยนน้ำในทะเลสาบให้กลายเป็นทะเลเพลิงสีขาว
และไฟนี้ยิ่งรวมมาทะลักเข้าไปในตำหนักวิชาเซียน ทะลักเข้าไปในลานกว้าง ทะลักไปใต้เตาหลอมกระดูก
ลุกโชติช่วง
ภาพนี้ทรงพลังยิ่งใหญ่เกรียงไกร และผู้อาวุโสใหญ่ตำหนักวิชาเซียนตอนนี้ดวงตาฉายประกายประหลาด คทาเวทในมือชี้ไป คำรามเสียงต่ำออกมา
“เตาหลอม เปิด!”


ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผู้กล้าเหนือกาลเวลา