เข้าสู่ระบบผ่าน

ผู้กล้าเหนือกาลเวลา นิยาย บท 1058

บทที่ 1058 นี่มันกระดูกของข้า!

………………..

ลานตำหนักวิชาเซียนเผ่าปีกมารฝั่งบูรพา ตอนนี้เตาหลอมกระดูกดังเลื่อนลั่น รอบๆ มีไฟเก้าสีวนล้อม ปะทุขึ้นไม่หยุด

ตราประทับอักขระเหล่านั้นที่อยู่บนผิวเตาหลอมก็ยิ่งกะพริบแสงวูบวาบถี่รัว ต่างโคจรทั้งหมด ทำให้ในขณะที่เปลวเพลิงลุกโชนยิ่งกว่าเดิม การหลอม…ก็เริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการ!

ตัวแทนของภูเขาเจ้าเหนือหัวที่อยู่รอบๆ มีสามคนที่ลุกขึ้นมาแล้ว สีหน้าเคร่งขรึม

ส่วนอีกหลายๆ ฝ่ายที่แต่ละคนในใจก็เกิดความตกตะลึงสงสัยเช่นกัน

เป็นเพราะภาพการพลิกสถานการณ์ฉากนี้กะทันหันยิ่งนัก

พวกเขายากที่จะคาดการณ์ได้ว่าผู้อาวุโสใหญ่ตำหนักวิชาเซียนที่ทำพิธี ภายใต้สถานการณ์ที่เป็นฝ่ายได้เปรียบเช่นนี้จะพลาดพลั้งได้

ในเมื่อ หากไม่มีความมั่นใจในระดับหนึ่งแล้ว ผู้อาวุโสใหญ่ไม่มีทางเชิญภูเขาเจ้าเหนือหัวทุกฝ่ายมาเป็นสักขีพยาน

แม้จะมีเหตุมาจากที่การทำพิธีชิงเซียน ทำให้เขาจำต้องเชิญภูเขาเจ้าเหนือหัวทุกฝ่าย แต่ไม่ว่าจะอย่างไร ผู้อาวุโสใหญ่ทางนั้นจะต้องทำการเตรียมตัวอย่างสมบูรณ์เพื่อป้องกันเหตุไม่คาดฝัน

แต่…เหตุไม่คาดฝันสุดท้ายก็ยังคงเกิดขึ้นอยู่ดี

แม้คนทั้งหลายจะไม่รู้ว่าทางเยวี่ยตงทางนั้นทำได้ถึงขั้นปกปิดผู้อาวุโสใหญ่ได้อย่างไร อีกทั้งพลังพลิกสถานการณ์ที่สำแดงขึ้นในตอนสุดท้าย ไม่ต้องสงสัยเลยว่าตำแหน่งมหาปรมาจารย์เซียนครั้งนี้มีความไม่แน่นอนเกิดขึ้นแล้ว

ส่วนใครจะได้เลื่อนขั้นเป็นมหาปรมาจารย์เซียน ผลประโยชน์ของภูเขาเจ้าเหนือหัวฝ่ายต่างๆ ก็แตกต่างกันไปเช่นกัน

มีคนเอนเอียงไปทางผู้อาวุโสใหญ่ มีคนเอนเอียงไปทางเยวี่ยตง และมีคนที่ไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด

ดังนั้นหลังจากที่พบเห็นการเปลี่ยนแปลงเช่นนี้ ตัวแทนของภูเขาเจ้าเหนือหัวที่สามและที่เจ็ดที่มีการติดต่อกับผู้อาวุโสใหญ่เมื่อก่อนหน้านี้ ร่างเพียงไหววูบก็พุ่งออกไปช่วยเหลือ

แต่ในพริบตาที่พวกเขาทั้งสองจะพุ่งไปข้างหน้า ทูตของภูเขาเจ้าเหนือหัวที่สี่และหก ร่างก็ไหววูบในเวลาเดียวกัน มาปรากฏอยู่ข้างหน้า ทำการขัดขวางลงมือช่วยเหลือ

ต่างจ้องหน้ากัน ไม่ได้พูดอะไร เพราะการกระทำก็บ่งบอกถึงท่าทีตัวเองอยู่แล้ว ด้วยเหตุนี้บรรยากาศของการประจัญหน้าก็พวยพุ่งขึ้นรอบๆ ทันที

ในพริบตาที่การประจันหน้าของทั้งสี่ฝ่าย นอกตำหนักวิชาเซียนก็มีเสียงกรีดหวีดอย่างรวดเร็วมา

เห็นเพียงผู้บำเพ็ญชุดคลุมดำกลุ่มหนึ่งนำปรมาจารย์เซียนกลุ่มหนึ่ง บุกเข้ามาจากโลกข้างนอก คนที่เป็นผู้นำสวมชุดหรูหรา เป็นคนหนุ่มคนหนึ่ง

คนคนนี้จิตสังหารรุนแรง ข้างหลังมีผู้บำเพ็ญจำนวนหนึ่ง ตลอดทางมาบุกโจมตีสังหารกับปรมาจารย์เซียนที่ผู้ใต้บังคับบัญชาของผู้อาวุโสใหญ่ที่ขวางกั้นอยู่ข้างหน้า

ความเร็วของเขาน่าตื่นตะลึง เพียงกระโดดขึ้นก็ข้ามทั้งสองฝ่ายที่โรมรันพันตูกันอยู่ ไปถึงยังเหนือเตาหลอมกระดูกทันที

ทันทีที่ปรากฏตัวขึ้น มิติรอบๆ ของเขาบิดเบี้ยว มีปรมาจารย์เซียนคนสนิทของผู้อาวุโสใหญ่สามคนปรากฏขึ้น ตรงมาทางชายหนุ่ม

ปรมาจารย์เซียนสามคนนี้ต่างไม่ธรรมดา ทันทีที่ลงมือ วิชาเซียนแปลกประหลาดก่อเป็นเขี้ยวดำสนิทสามเขี้ยว มีหมอกดำห้อมล้อม พุ่งตรงไปที่ชายหนุ่มชุดหรูหรา

แต่ชายหนุ่มชุดหรูหราคนนั้นไม่เกรงกลัว ต้านทานพลังโจมตีจากทั้งสามคน เอาระฆังใบหนึ่งออกมา ทุ่มลงไปยังเตาหลอมที่อยู่ข้างล่างเต็มแรง

เสียงระฆังดังก้องมาทันที ระฆังใบนี้ขยายใหญ่ขึ้นทันที มีขนาดถึงหลายร้อยจั้ง ปกคลุมเตาหลอมใบนั้นไปทั้งหมดโดยสมบูรณ์

พลังที่แผ่ออกมาโหมกวาดทั่วทุกทิศ

ทุกอย่างนี้พูดแล้วเหมือนนาน แต่ความจริงแล้วเกิดขึ้นเพียงเสี้ยวพริบตาเท่านั้น

หลังจากที่ระฆังร่วงลงไป การโจมตีของปรมาจารย์เซียนทั้งสามก็ซัดมาที่ร่างของชายหนุ่มชุดหรูหรา ร่างของเขากระเด็นม้วนตลบ เลือดสดๆ กระอักออกมา แต่กลับมีเสียงเย็นเยือกดังออกมาจากปากของเขา

“ระฆังนี้ก็คือจุดยืนของตระกูลอวิ๋น!”

“ตระกูลอวิ๋นของข้าสนับสนุนเยวี่ยตงเลื่อนขั้นเป็นมหาปรมาจารย์เซียนอย่างเต็มที่!”

ปรมาจารย์เซียนรอบๆ สังกัดผู้อาวุโสใหญ่แต่ละคนสีหน้าเคร่งเครียด จ้องพวกชายหนุ่มชุดหรูหราที่บุกเข้ามาเขม็ง ทูตจากภูเขาเจ้าเหนือหัวฝ่ายต่างๆ ก็มองไปเช่นกัน

“ระฆังนภาเมฆา!”

ชื่อเสียงของระฆังใบนี้อยู่ในเผ่าปีกมารฝั่งบูรพาโด่งดังไม่น้อย นั่นเป็นสมบัติล้ำค่าของตระกูลอวิ๋น ตระกูลที่มีชื่อเสียงทัดเทียมกับตระกูลหลัน

ส่วนชายหนุ่มชุดหรูหราคนนั้น ชื่อเสียงของเขาก็ไม่ธรรมดาเช่นกัน เป็นนายน้อยรุ่นนี้ของตระกูลอวิ๋นนั่นเอง!

ตอนนี้เมื่อจำได้ ทูตของภูเขาเจ้าเหนือหัวฝ่ายต่างๆ ก็ล้วนสีหน้าแปลกประหลาดไปทั้งสิ้น

เห็นได้ว่าเรื่องที่นายน้อยตระกูลอวิ๋นเกี้ยวพาเยวี่ยตง อยู่ในเผ่าปีกมารฝั่งบูรพาก็ไม่ใช่ความลับอะไร อีกทั้งแต่ละฝ่ายล้วนมีรายงานข่าวว่า นายน้อยตระกูลอวิ๋นก่อนหน้านี้เคยช่วยเยวี่ยตงลงมือที่ตำหนักวิชาเซียน

แต่ไม่ว่าจะอย่างไร การกระทำที่แต่เดิมเป็นการตัดสินใจโดยส่วนตัวของเขา อีกทั้งจากการที่เยวี่ยตงถูกจับ อีกฝ่ายก็ถูกขับไล่ออกจากตำหนักวิชาเซียน แต่ตอนนี้…เขาไม่เพียงแต่มาถึงอย่างถูกจังหวะพอดี ยิ่งสำแดงของวิเศษของตระกูลอวิ๋น

นี่ต่างออกไปแล้ว

ก่อนหน้านี้ เขาแสดงออกในฐานะตัวของเขาเองเท่านั้น

แต่ตอนนี้ จุดยืนที่แสดงออกมาคือของตระกูลอวิ๋น

นี่ทำให้ศึกชิงตำแหน่งมหาปรมาจารย์เซียนครั้งนี้ เต็มไปด้วยความไม่แน่นอนมากยิ่งขึ้น

แต่ผู้ที่ชี้ชะตาของศึกครั้งนี้ได้อย่างแท้จริง ความจริงแล้ว…ไม่ใช่ตระกูลอวิ๋น และไม่ใช่ปรมาจารย์เซียนที่อยู่ที่นี่ แต่เป็นภูเขาเจ้าเหนือหัวทั้งสิบ

พวกเขามีสิทธิ์นั้น

ดังนั้น ปรมาจารย์เซียนฝ่ายผู้อาวุโสใหญ่ ตอนนี้มีชายกลางคนคนหนึ่งเดินออกมา ประสานหมัดโค้งคารวะไปยังตัวแทนภูเขาเจ้าเหนือหัวทุกฝ่าย

“เยวี่ยตงคือคนทรยศของตำหนักวิชาเซียน นายน้อยตระกูลอวิ๋นก็ถูกปกปิดหลอกลวง ส่วนเรื่องการสนับสนุนจากตระกูลอวิ๋น นอกเสียจากบรรพจารย์ตระกูลอวิ๋นจะมา ไม่อย่างนั้นแล้วตำหนักเซียนเราไม่เชื่อเด็ดขาด”

“ตอนนี้ขอท่านทูตทุกท่านโปรดช่วยเหลือฟื้นฟูความถูกต้องกลับคืนมา ในภายหน้า ตำหนักวิชาเซียนจะตอบแทนบุญคุณนี้ที่ช่วยเหลือครั้งนี้อย่างแน่นอน!”

เห็นคนคนนี้พูดแบบนี้ นายน้อยตระกูลอวิ๋นสีหน้าเคร่งขรึม มองไปทางทูตภูเขาเจ้าเหนือหัวฝ่ายต่างๆ เช่นกัน ประสานหมัดเอ่ยขึ้นว่า

“ทุกท่าน นี่เป็นเรื่องภายในของตำหนักวิชาเซียน แม่นางเยวี่ยตงไม่ใช่คนทรยศตำหนักวิชาเซียน นางในฐานะที่เป็นลูกศิษย์เพียงคนเดียวในตอนนี้ของมหาปรมาจารย์เซียนรุ่นที่แล้ว อีกทั้งยังครอบครองวิชาเซียนหกรากราคะตัณหา เดิมก็เป็นผู้สืบทอดโดยชอบธรรมอยู่แล้ว”

“แต่ผู้อาวุโสใหญ่คนนั้นจิตใจคิดคด ไม่สนธรรมเนียมของตำหนักวิชาเซียน คิดลอบวางแผนชิงตำแหน่งมหาปรมาจารย์เซียน ชั่วช้าเป็นอย่างยิ่ง!”

“ขอทุกท่านโปรดยึดมั่นในจุดยืนที่เคยแสดงไว้ อย่าได้แทรกแซงเรื่องในตำหนักวิชาเซียนเลยด้วยเถิด”

นายน้อยตระกูลอวิ๋นพูดจบก็โค้งคารวะ ในใจลึกๆ จะหวั่นไหวกระวนกระวาย เขารู้จักตระกูลของตัวเองเป็นอย่างดี ครั้งนี้ตนเอาของวิเศษล้ำค่าออกมา เหตุการณ์ระหว่างนั้นราบรื่นเป็นอย่างมาก นี่ก็เป็นการแสดงท่าทีของบรรพจารย์แล้ว

หากตนทำสำเร็จ ก็จะเป็นการสนับสนุนของตระกูลอวิ๋น นี่คือความเป็นจริง

หากตนล้มเหลว เช่นนั้นก็จะเป็นตนที่ขโมยสมบัติล้ำค่าออกมาโดยพลการ ตระกูลอวิ๋นจะปัดความเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้โดยสิ้นเชิง

ดังนั้นเขาจึงเงยหน้ามองไปทางทูตของภูเขาเจ้าเหนือหัว โดยเฉพาะทางภูเขาเจ้าเหนือหัวที่สี่และหก เพราะสองฝ่ายนี้ ตอนนั้นจากการติดต่อกับเยวี่ยตงก็เลือกที่จะสนับสนุนนาง

ทูตภูเขาเจ้าเหนือหัวที่สี่และหก ตอนนี้ก็ขบคิดในใจไปเช่นกัน พวกเขาขัดขวางทูตภูเขาเจ้าเหนือหัวที่สามและเจ็ดก็ทำเต็มกำลังแล้ว ตอนนี้หากเอ่ยปาก เรื่องที่ทำก็จะเพิ่มมากขึ้นเกินไป

เกินกว่าผลประโยชน์ที่พวกเขาจะได้รับแล้ว

เช่นนี้จะเสียสมดุลไปหน่อย

และในตอนที่คนทั้งหลายครุ่นคิด มีเสียงจากทางเก้าอี้ภูเขาเจ้าเหนือหัวที่หนึ่งดังต่ำทุ้มออกมา

“สหายอวิ๋น เมื่อใดกันที่เรื่องของตำหนักเซียน เป็นตระกูลอวิ๋นที่เป็นผู้ตัดสิน”

บนเก้าอี้ภูเขาเจ้าเหนือหัวที่หนึ่ง คนที่นั่งเป็นชายชราคนหนึ่ง ชายชราคนนี้ดวงตาทั้งสองปิดสนิท ตอนนี้พูดถึงตรงนี้ แม้จะยังไม่ลืมตาขึ้นมา แต่เสียงกลับแฝงไว้ด้วยน้ำหนัก ดังกึกก้องที่นี่

“ในพันธสัญญาโบราณ เรื่องของตำหนักวิชาเซียน ภูเขาเจ้าเหนือหัวต่างๆ ร่วมกันตัดสิน พวกเราไม่แทรกแซงนั่นเพราะให้ความเคารพ แต่ไม่ได้หมายความว่าพวกเราแทรกแซงไม่ได้ หากเพียงต้องรอให้เป็นในช่วงเวลาที่จำเป็นก็เท่านั้น”

“และตอนนี้ก็ถึงเวลานี้แล้ว ทุกท่าน ข้าขอเสนอให้เปิดเตาหลอม ช่วยผู้อาวุโสใหญ่ตำหนักวิชาเซียน ขจัดความวุ่นวายและฟื้นฟูความถูกต้อง ละครวุ่นวายฉากนี้ควรจบลงได้แล้ว”

คำพูดของทูตภูเขาเจ้าเหนือหัวที่หนึ่งดังออกมา นายน้อยตระกูลอวิ๋นหน้าเปลี่ยนสี ปรมาจารย์เซียนใต้บัญชาการของผู้อาวุโสใหญ่พวกนั้นกลับตื่นเต้นฮึกเหิม พวกเขารู้น้ำหนักของภูเขาเจ้าเหนือหัวที่หนึ่งมีมากนัก

บทที่ 1058 นี่มันกระดูกของข้า! 1

Verify captcha to read the content.ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผู้กล้าเหนือกาลเวลา