บทที่ 1072 ซากเซียนฟื้นตื่น
………………..
กลิ่นอายนี้ซึมแผ่ไปยังท้องฟ้าโลกภายนอก ทำให้ความมืดมิดที่มีอยู่แล้วนั้นเปลี่ยนมายิ่งลึกล้ำ มืดสนิทไปโดยสมบูรณ์
น้ำฝนก็ได้รับอิทธิพลเช่นกัน เกิดการสั่นพ้อง
กวาดตามองไป ในโลกสายฝนทั้งใบ เม็ดฝนทั้งหมดเหมือนมีชีวิตขึ้นมาในเสี้ยวพริบตานี้ พุ่งไปทางทิศที่ซากเซียนอยู่ สยบศิโรราบ สุสานแต่ละแห่งต่างส่งเสียงสะเทือนเลื่อนลั่น ต่างพังทลาย ซากร่างนับไม่ถ้วนคลานออกมาจากในนั้น พวกเขาในตอนที่มีชีวิตอยู่เหมือนจะเป็นนักรบ เมื่อตายไปแล้วก็รอคอยเจ้านายของตัวเองมาโดยตลอด
และในตอนนี้เหมือนเจ้านายหวนคืนกลับมา ทำการเรียกขาน
ดังนั้น พวกเขาจึงกลับมา
เสียงคำรามเป็นระลอกๆ กู่ก้องฟ้าดิน
และต้นกำเนิดทุกอย่างนี้ ในวังใต้ดินแห่งนั้น ซากเซียนกำลังฟื้นตื่น
รอยเต๋าที่ลอยอยู่รอบๆ ทั้งหมด ในเสี้ยวขณะนี้ต่างส่งสัญญาณความปิติยินดีออกมา จากทั่ทุกสารทิศพุ่งไปยังซากเซียน ไม่มีการขัดขวางใดๆ ทั้งสิ้น ไม่หยุดรีรอแม้แต่น้อย ทันทีที่สัมผัสซากเซียนก็ผสานไปในนั้นทั้งหมด
จากการกลับคืนมาของอำนาจ จากการลอยขึ้นมาของรอยเต๋า สัญญาณการฟื้นตื่นก็ยิ่งรุนแรง
ฟ้าดินเปลี่ยนสี ในยามที่ลมกรรโชกเมฆปั่นป่วน ตราประทับมรดกทั้งหมด ก็ราวสายน้ำหลั่งไหลสู่มหาสมุทร พุ่งตรงไปยังซากเซียน
ในขณะที่กลับมาทีละตราๆ ของวิเศษมหาจักรพรรดิแต่ละชิ้นๆ เหล่านั้นก็เริ่มสั่นสะเทือน
ท่ามกลางเสียงสะท้อนก้อง วิญญาณศัสตราของวิเศษเหล่านี้ ในที่สุดก็ตื่นขึ้นมาจากห้วงนิทรา ทันทีที่ตื่นขึ้น พวกมันก็สัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของเจ้านาย ภายใต้เสียงดังกึกก้องก็ต่างรวมกันมาทั้งหมด
ดังนั้น บนร่างซากเซียนมีเกราะเพิ่มขึ้นมา เยื้องทางด้านขวามีทวนยาวเล่มหนึ่งเพิ่มขึ้น เยื้องทางด้านซ้าย…ว่างเปล่า
ส่วนที่ใต้เท้ามีจานเข็มทิศเพิ่มขึ้นมา เหนือศีรษะมีดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ ดวงดาวปรากฏขึ้นมา ข้างหลังมีวงแหวนจำนวนหนึ่ง วนล้อมเป็นชั้นๆ
รัศมีอำนาจทรงพลังท่วมท้น
เทียบกับเขาแล้ว เจ้าเหนือหัวแต่ละฝ่ายของวังใต้ดินแห่งนี้ ตอนนี้แต่ละคนสีหน้าเปลี่ยนไปอย่างมหาศาล ในใจหวาดหวั่น ความตื่นกลัวในใบหน้ารุนแรงเป็นอย่างยิ่ง
ในฐานะที่เป็นผู้บำเพ็ญแดนศักดิ์สิทธิ์ปีกมาร พวกเขาคุ้นเคยกับมหาจักรพรรดิหมิงเหยียนดี และเคยผ่ายยุคที่ถูกมหาจักรพรรดิหมิงเหยียนสยบกำราบเมื่อพันปีก่อนด้วยเช่นกัน
กระทั่งพูดได้ว่า พวกเขาหลายคนเคยเป็นประจักษ์พยานการผงาดขึ้นของหมิงเหยียน
และเข้าใจเป็นอย่างดีถึงความเหี้ยมโหดของมหาจักรพรรดิหมิงเหยียน ความเคารพยำเกรงที่มีให้เขา ประดุจบูชาเทพเจ้า
จวบจนเมื่อยืนยันความตายของมหาจักรพรรดิหมิงเหยียนครั้งแล้วครั้งเล่า ทั้งยังผ่านมาเนิ่นนาน อีกทั้งยังยังได้รับคำสัญญาจากใครบางคน พวกเขาถึงได้มีความกล้าลงมือครั้งนี้
และเหตุผลที่ระมัดระวังขนาดนี้ แต่ก็ยังจะเดินทางมาก็เพราะความละโมบ
เพราะความลึกลับของมหาจักรพรรดิหมิงเหยียน ดังนั้นข่าวลือของเขาในโลกภายนอกมากมายนักมีคนบอกว่าเขาร่วมกับกลุ่มที่มีอำนาจสูงส่งกลุ่มหนึ่งในห้วงดาราผืนนี้ ได้รับการอบรมจากกลุ่มนั้น
แล้วก็มีคนบอกว่า เขาได้รับมรดกที่เหนือยิ่งกว่ารากฐานของเซียนคิมหันต์
ยิ่งมีคนบอกว่า ในตัวเขาไหลเวียนไปด้วนสายเลือดสูงส่ง
และยังมีคนบอกว่า ในตัวเขาซ่อนวิชาไม่ธรรมดาที่ทำลายพันธนาการได้!
ทุกอย่างนี้ถึงทำให้หมิงเหยียนในตอนนั้นทั้งๆ ที่ก่อนจะหายตัวไปเป็นเพียงแค่ระดับเตรียมสู่เทวะ แต่หลังจากนั้นหลายปีในยามที่กลับมาอีกครั้ง กลับเป็นระดับมหาจักรพรรดิขั้นสูงสุด
แต่ไม่ว่าจะอย่างไร ระหว่างความรุ่งเรืองและความตกต่ำของเขามีผลกรรมเวรเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ทุกฝ่ายต่างเห็นพ้องต้องกัน
ดังนั้นสำหรับเจ้าเหนือหัวทุกฝาายของแดนศักดิ์สิทธิ์ปีกมารแล้ว ขุดความลับนี้ ช่วงชิงวาสนานี้ เป็นสิ่งสำคัญในการทะลวงพันธนาการพลังบำเพ็ญของตัวเอง
ต่อให้มีความรุ่งเรืองและตกต่ำแฝงอยู่ แต่ผู้บำเพ็ญฝึกฝนบำเพ็ญมิใช่เพียงเพื่อความเป็นอมตะ ทว่าการขึ้นสู่จุดสูงสุดต่างหาก ที่ทำให้ชีวิตปราศจากความเสียใจ
แต่ส่วนลึกในใจของพวกเขาคิดว่าภาพที่อันตรายที่สุดเกิดขึ้นแล้ว
หมิงเหยียนยังไม่ตาย!
ตอนนี้ จากการหวนกลับคืนของมรดกอำนาจและของวิเศษ จากการผงาดขึ้นของกลิ่นอาย วังใต้ดินทั้งวังส่งเสียงสะเทือนเลื่อนลั่นสะท้านฟ้า
พวกเขาอยากหนี แต่ในสายตาเย็นเยียบของซากเซียนนั่น รอยเต๋าของพวกเขากำลังสั่นสะท้าน กายเนื้อถูกพันธนาการ วิญญาณหมองหม่น สูญเสียความสามารถในการหนี
สวี่ชิงและเอ้อร์หนิวตรงนั้นสัมผัสได้หนักหน่วงขึ้นไปอีก
พวกเขาไม่ใช่ผู้บำเพ็ญระดับเจ้าเหนือหัว เผชิญหน้ากับกลิ่นอายเช่นนี้ จิตใจโหมกระหน่ำรุนแรงเป็นอย่างยิ่ง ดีที่ไม่ได้ก้าวเข้าไปในวังใต้ดิน ไม่ได้เผชิญหน้าโดยตรง ดังนั้นตอนนี้ยังพอฝืนยืนหยัดอยู่ได้
ส่วนเอ้อร์หนิวก่อนหน้านี้จากการที่โล่ของวิเศษได้นำกลับมา ร่างกายที่กลายเป็นหนอนก็กลับคืนมาอย่างอ่อนล้าผสานไปกับศีรษะของเขา หลอมรวมเป็นร่างของเด็กน้อยที่ยังไร้เดียงสาร่างหนึ่ง
ดังนั้นเขาในตอนนี้เป็นกายเด็ก มีศีรษะของผู้ใหญ่ ดูแล้วประหลาดเป็นอย่างยิ่ง
ส่วนสีหน้ากลับบ้าคลั่ง
เพราะภายใต้กลิ่นอายนี้ พวกเขาไม่เพียงแต่ต้องต้านทานพลังกดดันอย่างสุดกำลังเท่านั้น ขณะเดียวกันของวิเศษมหาจักรพรรดิที่เหมือนโล่อันนั้นที่เพิ่งได้มาก็กำลังฟื้นตื่นเช่นกัน คล้ายว่าจะถูกเรียกกลับไป
ทุ่มเทค่าตอบแทนไม่ถึงเพียงนี้ ของวิเศษที่เพิ่งได้กลับมาจะถูกเรียกลับไปแบบนี้…สวี่ชิงเจ็บใจนัก เอ้อร์หนิวเจ็บใจยิ่งกว่า
“กายเนื้อข้าต้องเสียสละไปถึงจะคว้ามาได้ คิดจะเอากลับก็เอากลับไปอย่างนั้นหรือ”
เอ้อร์หนิวในดวงตาแดงก่ำ ท่ามกลางความร้อนใจก็อ้าปากกว้าง แล้วกลืนโล่ที่คว้าเอาไว้แน่นในมือลงไปในคำเดียว
และในเสี้ยวขณะต่อมา ท้องของเขาก็เหมือนคนท้องสิบเดือน นูนพองขึ้นมา ท่าทางเหมือนจะระเบิดแล้วเต็มที
แต่เอ้อร์หนิวยังคงกัดฟัน ยืนหยัดสุดพลัง ท่าทางเหมือนให้ตายก็ไม่ยอมให้คืน
จนกระทั่งหลังจากนั้นสามอึดใจ ท่ามกลางความร้อนรนของเอ้อร์หนิว ท้องของเขาพลันฉีกออก โล่จะทะลวงฝ่าออกไปแล้วเต็มที
สวี่ชิงไม่ลังเลแม้แต่น้อย กัดฟันเอาเข็มเล่มหนึ่งออกมา
นั่นคือเข็มมหาจักรพรรดิที่เขาได้มาจากฝูเสียตอนนั้นนั่นเอง
เย็บทันที
การเย็บผลกรรมเวรเช่นนี้ พลังที่แผ่ออกมาโดยเข็มเล่มนี้ไม่ธรรมดา ทำให้ท้องที่ปริแตกของเอ้อร์หนิวสุดท้ายก็เย็บติด
ขณะเดียวกันสวี่ชิงก็เอากรรไกรมหาจักรพรรดิออกมา แล้วตัดเต็มแรง
พยายามลองตัดการเชื่อมต่อระหว่างของวิเศษโล่อันนี้กับซากเซียน


ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผู้กล้าเหนือกาลเวลา