บทที่ 1073 คนครบแล้ว
มือนี้ใหญ่หนา บนนั้นเส้นเลือดโป่งนูน เป็นสีเลือดไปทั้งมือ มีรยางค์เน่าเปื่อยเป็นเส้นๆ เต็มไปหมด ในขณะที่ดูแล้วเหี้ยมเกรียมน่าขยะแขยง ก็มีพลังน่าหวาดเกรงผุดขึ้นในนั้น
พลังของมันคล้ายค้ำยันท้องฟ้าได้ แผ่ระลอกพลังไปทั่วบริเวณ ฉีกทึ้งผืนฟ้า
ร่างของมันมหึมาน่าตื่นตะลึง สั่นสะท้านจิตใจผู้คน
ยิ่งทำให้คนรู้สึกเหมือนเทพเจ้า บิดม้วนทุกสิ่ง โจมตีสรรพสิ่งทั้งหลาย
ทันทีที่ปรากฏขึ้น ท่ามกลางสายตาคนทั้งหลายที่นี่ เวลาเหมือนหยุดนิ่ง มิติต่างแหลกราญ
ทุกสิ่งทุกอย่างเหมือนอยู่ต่อหน้ามือยักษ์สีเลือดข้างนี้ล้วนกลายเป็นสิ่งขับเน้นไปทั้งสิ้น
มีเพียงมือข้างนี้ที่เป็นสิ่งโดดเด่นเพียงสิ่งเดียว ณ ที่นี่
ความบ้าคลั่งและเหี้ยมโหดที่อยู่ในนั้นก็เป็นพลังที่สามารถบดขยี้ได้ทุกฝ่าย ทำให้เจ้าเหนือหัวทุกคนที่อยู่ที่นี่ต่างจิตใจสั่นสะท้านไปทุกคน วิญญาณแผ่ระลอก กายเนื้อถูกควบคุมไม่อาจขยับได้แม้แต่น้อย
สวี่ชิงและนายกองทางนั้นยิ่งเป็นเช่นนี้ เผชิญหน้ากับพลังมือสีเลือดข้างนี้ พวกเขาเลือดไหลออกมาจากทั้งเจ็ดทวาร โลกพลิกกลับตาลปัตร ประสาทสัมผัสรับรู้ปั่นป่วน เหมือนเป็นเรือเดียวดายที่อยู่ท่ามกลางคลื่นคลั่ง จะถูกพลิกจมได้ทุกขณะ
ในช่วงเวลาสำคัญ สวี่ชิงฝืนสะกดความรู้สึกแตกสลาย เอาป้ายอาญาสิทธิ์ที่จักรพรรดินีประทานให้ออกมาอย่างรวดเร็วแล้วบีบเต็มแรง
ทันใดนั้น ป้ายนี้แผ่พลังอ่อนโยนกลุ่มหนึ่งออกมา ปกคลุมทั้งสองไว้ข้างใน พายุพลังกดดันที่มาจากมือยักษ์สีเลือดข้างนั้นถูกลดทอนลง
ส่วนตอนนี้ผู้ที่ระลอกคลื่นจิตใจซัดโหมรุนแรงที่สุดคือคนชุดคลุมยาวสีดำที่อยู่กลางอากาศคนนั้น
ตอนนี้ดวงตาทั้งสองของเขาหดเล็ก ในพริบตาที่มือยักษ์ปรากฏขึ้นก็ไม่ลังเลแม้แต่น้อย ร่างพลันถอยหลังไป
ขณะเดียวกับที่ประสานปางมือ จากเสียงเคร้งๆ ที่ดังออกมา โซ่เหล็กสีดำมหาศาลก็ปรากฏขึ้นจากความว่างเปล่าทั่วทุกสารทิศ ประดุจงูดำมากมาย พุ่งไปหามือยักษ์สีเลือดนั่น
โซ่เหล็กเหล่านี้กำลังลุกไหม้ ปล่อยเปลวเพลิงน่าครั่นคร้ามออกมา หลังจากประชิดเข้ามาใกล้ก็พันรัดอย่างรวดเร็ว
เพียงพริบตาก็รัดไปบนมือยักษ์สีเลือด
กระชากอย่างเต็มแรง พยายามขัดขวางมือยักษ์
แต่ภาพแปลกประหลาดปรากฏขึ้นแล้ว
โซ่เหล็กสีดำที่ส่งผลอย่างยอดเยี่ยมกับกระดูกเซียนเมื่อก่อนหน้านี้ ตอนนี้เห็นได้ชัดว่าเจอกับตัวตนที่แข็งแกร่งยิ่งกว่า
หลังจากพันรัด กลับไม่อาจควบคุมได้
มือยักษ์นั่นเหมือนดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ ดวงดาวที่กำลังโคจร ไม่อาจตรึงเอาไว้ได้เลย ตอนนี้จากการพุ่งไป โซ่เหล็กที่พันรัดอยู่ข้างบนส่งเสียงเคร้งครั้งเสียดหูออกมา
แล้วแตกร้าวแหลกสลายเป็นเส้นๆ
เพียงพริบตาก็ซัดหอบม้วนกลับไปหมด
มือยักษ์สีเลือดที่ไร้การพันธนาการ พลังแข็งแกร่งยิ่งกว่าเดิม มาพร้อมด้วยพลังมหาศาล มาด้วยพลังทำลายล้าง พุ่งตรงไปยังคนชุดคลุมดำ
เห็นเช่นนี้ คนชุดคลุมดำสีหน้าเปลี่ยนไปโดยสมบูรณ์ ไม่เสียดายค่าตอบแทนใดๆ สำแดงวิชาลับ พ่นเลือดสดๆ ออกมา คิดจะหลบหลีกการคว้ามาของมือยักษ์นั่น
แต่สุดท้ายก็ช้าไปก้าวหนึ่ง
ในขณะที่มือยักษ์สีเลือดยื่นมาจากในคลื่นวนอย่างรวดเร็ว ก็ฉีกทำลายมิติ ผนึกซึ่งทุกสิ่ง มาด้วยพลังที่ไม่อาจหลบหลีก ไม่อาจต้านทานได้ บดขยี้ทำลายล้าง มาถึงยังหน้าคนชุดคลุมดำ
ไม่ว่าก่อนหน้านี้คนชุดคลุมดำจะแปลกประหลาดพิสดารอย่างไร ตอนนี้ต่อหน้ามือยักษ์สีเลือด การกระทำทุกอย่างล้วนไม่เป็นผล
สุดท้าย เขาภายใต้ใบหน้าที่ขาวซีด ปากส่งเสียงคำรามต่ำ สุดท้ายร่างก็ถูกมือยักษ์สีเลือดข้างหน้าคว้าเอาไว้!
ทุกอย่างนี้ทำให้ผู้บำเพ็ญทั้งหลายที่อยู่รอบๆ ต่างใจสั่นสะท้าน
และเมื่อพิจารณาดูกับภาพฉากก่อนหน้านี้ การวางแผนที่วังใต้ดินแห่งนี้ ตลอดจนการสังเวยของบรรพจารย์ตระกูลอวิ๋นที่ทำให้กระดูกเซียนฟื้นตื่นลงมือสยบเจ้าเหนือหัวทุกฝ่ายแล้ว ล้วนเป็นการล่อให้ตกหลุมพรางชัดๆ…
ล่อให้คนชุดคลุมดำปรากฏตัวไปชิงวิญญาณชะตา
นี่เห็นได้ชัดว่าเป็นกับดักและเหยื่อล่อที่จัดเตรียมไว้สำหรับเขาโดยเฉพาะ
ตอนนี้เหยื่อล่อได้ผลแล้ว เหยื่อติดกับ มือยักษ์นี้จึงปรากฏขึ้น
คนชุดคลุมดำที่ถูกคว้าเอาไว้ แม้สีหน้าจะเหี้ยมเกรียม ร่างกายแผ่เปลวไฟสีดำ ปลดปล่อยตราประทับ หวังจะดิ้นรนตอบโต้โจมตี
แต่ก็ไร้ประโยชน์
ภายใต้การไหววูบของมือยักษ์สีดำข้างนั้น ก็จะลากคนชุดคลุมดำกลับเข้าไปในคลื่นวน
และในช่วงวิกฤตอันตราย จู่ๆ…คนชุดดำที่ถูกมือยักษ์สีเลือดจับเอาไว้ ในดวงตาก็กะพริบประกายเย็นเยือกขึ้น ปากส่งเสียงต่ำทุ้มออกมา
‘แยก!’
คำนี้เมื่อดังออกมา ร่างของเขาพลันเกิดความรู้สึกทับซ้อนขึ้น
การทับซ้อนนี้แปรเปลี่ยนเป็นเงาซ้อนทันที
ท่ามกลางความรางเลือน เหมือนว่าบนร่างคนชุดคลุมดำมีเงาร่างอีกเงาร่างหนึ่งปรากฏขึ้น
หน้าตาของเงาร่างนี้แตกต่างไปจากคนชุดดำโดยสิ้นเชิง คนคนนี้มีใบหน้าเหลี่ยม คิ้วเข้มตาโต คล้ายว่าครองตำแหน่งสูงส่งมาเนิ่นนาน สีหน้าแม้มิได้โกรธเคืองหากแต่แผ่รัศมีอำนาจอย่างไม่ต้องเอ่ยวาจา อีกทั้งยังเต็มไปด้วยแรงกดดันอันน่าสะพรึงกลัว
ทันทีที่เห็นคนคนนี้อย่างชัดเจน สวี่ชิงจิตใจสั่นไหว
คนคนนี้…ก็คือผู้ที่ก่อนหน้านี้พาคนมายังเวทีเต๋า อีกทั้งในยามที่เปิดสถานที่ปิดด่านก็นั่งขัดสมธิอยู่เหนือเวทีเต๋า รอคนทั้งหลายกลับคืนมา…มหาจักรพรรดิปีกมาร!
เห็นได้ชัดว่ามหาจักรพรรดิปีกมารที่อยู่โลกภายนอกไม่ใช่ร่างจริงของเขา
และร่างที่ปรากฏขึ้นที่นี่ตอนนี้ถึงจะเป็นร่างจริง
ส่วนคนชุดคลุมดำก็เป็นแค่คนที่เขาควบคุมเอาไว้ เป็นเกราะป้องกันชั้นที่หนึ่งที่ปกคลุมอยู่นอกร่างจริงก็เท่านั้น
เพราะจากการปรากฏขึ้นอย่างชัดเจนของเงาซ้อน ในพริบตาที่มือยักษ์กระชากเขากลับไป เงาร่างของมหาจักรพรรดิปีกมารไหววูบไปเล็กน้อยก็ดุจจักจั่นทองลอกคราบ หลุดออกมาจากในร่างของคนชุดคลุมดำทันที
ทันทีที่ปรากฏตัวขึ้น ระลอกคลื่นพลังบำเพ็ญของมหาจักรพรรดิก็ปะทุขึ้นจากร่างของเขาทันที ร่างของเขาก็หลอมรวมอย่างรวดเร็ว แปรเปลี่ยนเป็นร่างจริง
ของวิเศษมหาจักรพรรดิมากมายลอยปรากฏขึ้นรอบตัวเขา รอยเต๋าอำนาจแต่ละตราๆ ลอยขึ้นจากร่างเขา ข้างหลังยิ่งมีหมอกดำหมุนวน พลังอำนาจแห่งมหาจักรพรรดิแข็งแกร่งเป็นอย่างยิ่ง
สายตาของเขายิ่งดุดันเหี้ยมเกรียมน่าหวาดหวั่น ประดุจแฝงไว้ด้วยสายอัสนี จ้องมองมือยักษ์
“ในที่สุดเจ้าก็ปรากฏตัวเสียที!”
จากการเอ่ยปากขึ้นของมหาจักรพรรดิปีกมาร คนชุดดำท่ามกลางเสียงร้องคร่ำครวญโหยหวนน่าขนลุกก็ถูกมือยักษ์สีเลือดลากเข้าไปในคลื่นวน หายลับไป
ภาพนี้ทำให้คนทั้งหลายที่อยู่รอบๆ จิตใจสั่นสะท้าน
และเสียงของมหาจักรพรรดิปีกมารก็ยังคงดังสะท้อนก้องต่อไป
“หมิงเหยียน ข้ารู้ตั้งนานแล้วว่าเจ้ายังไม่ตายแต่ดิ้นรนเอาชีวิตรอดไปวันๆ เท่านั้น”
“โลกเศษเสี้ยวความทรงจำก่อนหน้านี้ก็เป็นเพียงแค่กลอุบายที่เจ้าหลอกลวงผู้อื่นก็เท่านั้น”
ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผู้กล้าเหนือกาลเวลา