เข้าสู่ระบบผ่าน

ผู้กล้าเหนือกาลเวลา นิยาย บท 1088

บทที่ 1088 สถานที่เป้าหมายของสวี่ชิง

การแตกดับของมหาจักรพรรดิครองกระบี่ การปิดด่านของท่านอาจารย์ การฝึกบำเพ็ญของจักรพรรดินี และการออกเดินทางของเอ้อร์หนิว ทั้งหมดนี้ประดุจเข็มของนาฬิกาแดดขนาดมหึมา กำลังหมุนวนไปช้าๆ

สามสิบปีให้หลัง ฟ้าจะเปลี่ยนไป

เซียนคิมหันต์โบราณที่อยู่นอกแผ่นดินใหญ่ต้องประสงค์ จะกลายเป็นคมมีดอันแหลมคม ห้อยอยู่เหนือศีรษะของสรรพชีวิต ทั้งหลายกลายเป็นวิกฤตแห่งความเป็นตาย

อีกทั้งยังสามารถจินตนาการได้ว่า จากเวลาที่ไหลผ่านไป ความรู้สึกวิกฤตอันตรายนี้ก็จะยิ่งรุนแรงขึ้น

ในเมื่อเวลาสามสิบปี สำหรับมนุษย์ธรรมดาก็ไม่ได้ยาวนานนัก สำหรับผู้บำเพ็ญเพียรแล้วยิ่งเป็นเช่นนั้น

บางที การปิดด่านเพียงครั้งเดียว สามสิบปีก็อาจผ่านพ้นไปแล้ว

ด้วยเหตุนี้ อันตรายอันใหญ่หลวงกลายเป็นความกดดัน กดอัดบีบคั้นอยู่ในโลกนี้อย่างหนักอึ้ง

ทุกเผ่าล้วนทำการเตรียมตัวสุดท้าย

เพียงแต่สิ่งที่อยู่เบื้องหน้าพวกเขา เหมือนจะมีเพียงการวิงวอนขอการคุ้มครองจากเทพเจ้าเส้นทางเดียวเท่านั้น

ดังนั้น บางพื้นที่จึงสงบสุขกว่าที่เคย แต่บางพื้นที่ก็กลับวุ่นวายยิ่งกว่าเดิม

ความโกลาหลของสรรพชีวิตดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง

ส่วนเทพเจ้าเมินเฉย สูงส่งอยู่เหนือทุกสิ่ง มองดูทั้งหมดนี้

สำหรับเหล่าองค์ท่านแล้ว นี่ก็เป็นเพียงแค่ละครที่นับว่าพอจะน่าสนใจอยู่บ้างในชีวิตอันยาวนานฉากหนึ่งเท่านั้น

ส่วนความทุกข์ระทมของสรรพชีวิต…

มีชีวิตอยู่ในแผ่นดินใหญ่ต้องประสงค์ที่อยู่ภายใต้เสี้ยวหน้าเทพเจ้าเดิมก็ทุกข์ระทมอยู่แล้ว เพียงแต่ในอดีตความทุกข์ระทมมักจะมุ่งเน้นไปที่มนุษย์ปุถุชนทั่วไปเท่านั้น แต่ความทุกข์ระทมในวันนี้ส่งผลกระทบทั่วทุกคน

“นี่ก็นับว่าเป็นความยุติธรรมอย่างหนึ่งเหมือนกัน”

ในแดนใหญ่เซ่นจันทรา ในทะเลสาบ ในร้านยาเล็กๆ เมื่อคราอดีตของสวี่ชิงร้านนั้น โยวจิงกำลังต้มน้ำ

ท่านย่าสามนั่งอยู่ข้างๆ ส่ายหน้าเบาๆ สายตาจับจ้องไปยังสวี่ชิงที่รินชาให้รัฐทายาทอยู่

“เจ้าคิดดีแล้วหรือ”

สวี่ชิงวางกาน้ำชาลง นั่งอยู่ตรงข้ามกับทั้งสอง พยักหน้า

หลังจากที่เขาไปจากดินแดนเมืองหลวงจักรพรรดิเผ่ามนุษย์แล้ว สถานที่แรกที่มาก็คือแดนใหญ่เซ่นจันทรา

เขาเดิมคิดว่าก่อนเดินทางแวะมาเยี่ยมเยียนหลิงเอ๋อร์สักหน่อย และแวะมาเยี่ยมพวกท่านปู่รัฐทายาทด้วย

เพียงหลิงเอ๋อร์ยังไม่สิ้นสุดการปิดด่าน ท่านปู่เก้าคุ้มกันให้นาง สวี่ชิงหลังจากสืบความแล้วก็ไม่ได้เข้าไปรบกวน แต่มากล่าวลาท่านปู่รัฐทายาทที่นี่แทน

“คนหนุ่มสาว ออกไปฝึกฝนบ้างก็ดีเหมือนกัน”

“แต่ที่มหาสมุทรนอกนั้นค่อนข้างวุ่นวาย แม้ด้วยพลังบำเพ็ญและกำลังรบของเจ้าในตอนนี้ ระมัดระวังหน่อยก็ไม่มีปัญหาอะไร แต่พึงระลึกไว้… อย่าได้เข้าไปลึกเกินไป”

รัฐทายาทวางถ้วยชาลง สายตาจับจ้องไปที่สวี่ชิง หลังจากคิดอยู่ครู่หนึ่งมือขวาของเขาก็ลันยกขึ้นเสี้ยวขณะต่อมารอยเต๋าหมุนวน ตราประทับตราหนึ่งก่อตัวขึ้นเบื้องหน้าเขาจากความว่างเปล่า

“นี่แปรเปลี่ยนมาจากอำนาจการรับรู้ของข้า ใช้ได้สามครั้ง เจ้าเอาไว้ป้องกันตัว”

สวี่ชิงไม่ได้บอกรัฐทายาทถึงสถานที่เป้าหมายที่แท้จริงของตน ในตอนนี้มองตราประทับตรานั้น เขารู้ว่านี่คือความห่วงใยของรัฐทายาท จึงรับมาอย่างเงียบๆ

ท่านย่าสามสายตาล้ำลึก จ้องมองสวี่ชิง ครู่ใหญ่ก็ถอนหายใจแผ่วเบา ขณะสะบัดมือก็มีแม่น้ำสายหนึ่งก็ปรากฏขึ้น แล้วไหลไปในขวดหยกใบหนึ่ง มอบให้สวี่ชิง

“นี่คือน้ำจากแม่น้ำแห่งกลางเวลาที่ข้าหลอมกลุ่มหนึ่ง”

สวี่ชิงรับมา ลุกขึ้นคารวะรัฐทายาทและท่านย่าสามสุดตัว

“ผู้เยาว์ขอเดินทางจากไปแล้ว ท่านปู่รัฐทายาท ท่านย่าสาม พวกท่าน…รักษาตัวด้วย”

สวี่ชิงเอ่ยปากเบาๆ จากนั้นก็หมุนตัวเดินออกไปจากร้านขายยา ไปจากภูเขา หายไปในทะเลทราย

มองดูเงาร่างที่จากไปของท่านย่าสามก็เอ่ยปากเบาๆ

“สถานที่สุดท้ายที่เด็กคนนี้จะไป ไม่ใช่มหาสมุทรนอก”

รัฐทายาทเงียบนิ่ง ครู่หนึ่งก็ถอนหายใจออกมา

“เกี่ยวกับตำนานของมหาสมุทรนอก พวกเราในตอนนั้นล้วนรู้ดี สถานที่ที่เขาจะไปนั้น เกี่ยวข้องกับตำนานนี้”

“ส่วนสามสิบปีให้หลัง…”

“ท่านพ่อกำลังกลับมาแล้ว ดูจากเวลาแล้ว น่าจะประมาณเดียวกัน”

“หวังว่าท่านพ่อเมื่อกลับมาแล้ว จะยังคงเป็นท่านพ่อของพวกเรา ดังนั้น การที่เด็กคนนี้จากไปในตอนนี้ก็เป็นเรื่องดีเหมือนกัน”

รัฐทายาทพึมพำ

ท่านย่าสามเงยหน้ามองไปยังนอกพิภพ นิ่งเงียบไม่พูดจา

……

ส่วนในขณะนี้ บนแดนใหญ่เซ่นจันทรา สวี่ชิงกำลังมุ่งหน้าไปอย่างเงียบงัน

ก่อนเดินทางจากไป เขายังต้องไปที่เขตปกคองผนึกสมุทรเพื่อไปพบจื่อเสวียนสักครั้ง

จากนั้น เขาจะละทิ้งทุกบ่วงพันธนาการทุกอย่าง แล้วก้าวเดินบนเส้นทางที่ตนเองเลือก

“สามสิบปีหลังจากนี้…”

สวี่ชิงพึมพำ ร่างพุ่งทะยานไปบนฟากฟ้า และในชั่วพริบตาถัดมา ทั่วทั้งท้องฟ้าก็พลันแผ่ระลอกคลื่นพลังมา กลายเป็นกระจกบานมหึมาอย่างเห็นได้ด้วยตาเปล่า

ในกระจกบานนั้น มีภูเขาลูกมหึมาที่เต็มไปด้วยศาลเจ้าลูกหนึ่งปรากฏขึ้นมา

บนยอดเขา มีหญิงชราคนหนึ่งเดินลงมา

ข้างกายหญิงชรา ยังมีชายชราสูงใหญ่หน้าตาเต็มไปด้วยหนวดเคราขาวโพลนตามมาด้วย

เมื่อเห็นทั้งสอง สวี่ชิงก็หยุดฝีเท้าลง โค้งคารวะด้วยความเคารพ

“ท่านย่าห้า ท่านปู่แปด”

ท่านย่าห้ามองสวี่ชิง สีหน้าเมตตา หลังจากพยักหน้าก็ไม่ได้เอ่ยอะไร แต่กลับยกมือขึ้น ใช้พลังอำนาจของตัวเองสร้างกลีบดอกไม้ดอกหนึ่งขึ้นมา

หลังจากที่กลีบดอกไม้กลีบนี้ปรากฏขึ้น บนร่างของท่านย่าห้าก็มีกลิ่นอายแก่ชราปรากฏขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

“เอาไปสิ ขอเพียงยังมีลมหายใจเฮือกหนึ่ง ใช้กลีบดอกไม้กลีบนี้ก็จะทำให้เจ้าฟื้นฟูได้ในทันที”

สวี่ชิงรู้ นี่คือพลังอำนาจพิเศษของท่านย่าห้า ทุกครั้งที่ใช้ ล้วนพลาญพลังชีวิต

ดังนั้นเขาจึงลังเล

“ให้เจ้า เจ้าก็รับมันไว้!”

ท่านปู่แปดที่อยู่ข้างถลึงตาใส่ ยกมือสะบัดก็แปลงรอยเต๋าที่แปรเปลี่ยนมาจากอำนาจแห่งความเดือดดาลของตัวเองให้เกิดเป็นตราประทับ แล้วส่งออกไปให้เช่นกัน

“ตราประทับนี้จะทำให้กำลังรบของเจ้าปะทุพลังพุ่งทะยานขึ้น ค่าตอบแทนคือหลังจากต่อสู้แล้วจะอ่อนแอไปช่วงหนึ่ง”

นี่ก็คือของกำนัลจากผู้อาวุโส สวี่ชิงในใจอบอุ่นนัก รับมาอย่างเงียบๆ กำลังจะเอ่ยอะไร แต่เสี้ยวพริบตาต่อมา แสงกระบี่ทางหนึ่งก็พุ่งมาจากผืนแผ่นดิน เข้าประชิดมาในทันที

ฟ้าดินเปลี่ยนสี ลมเมฆหอบทะลัก แสงกระบี่นี้กลายเป็นตราประทับตราหนึ่งเบื้องหน้าสวี่ชิงเช่นกัน

เสียงของท่านปู่เก้าดังก้องทั่วฟ้าดิน

“นี่คือจิตกระบี่ของข้า หากปะทุพลังเต็มที่ สามารถสังหารเจ้าผู้ปกครองได้!”

Verify captcha to read the content.ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผู้กล้าเหนือกาลเวลา