เข้าสู่ระบบผ่าน

ผู้กล้าเหนือกาลเวลา นิยาย บท 1119

บทที่ 1119 ฟ้าดินกว้างใหญ่

จากกลางแดนตะวันตกไปทางใต้สามพันเก้าร้อยเจ็ดสิบล้านลี้ มีภูเขานามว่าศิลาทมิฬ

ในภูผามีหุบเขา กลางหุบเขามีบึง บึงน้ำเขียวมรกต ลึกล้ำยากหยั่งถึง

มีวิญญาณร้ายลอยล่องเป็นครั้งคราว ลักษณะคล้ายหมอกควัน สัมผัสแล้วซ่านสลายทันที

ผาชันรอบด้านคือหินพิสดาร สลับเป็นฟันปลา ต้นไม้เก่าแก่สูงเสียดฟ้า กิ่งก้านบดบังตะวัน

ริมบึงมีแท่นหิน บนแท่นสลักอักษรโบราณว่า ‘แดนมารอาสัญ คนเลวห้ามเข้า’

ปกติที่นี่มีคนเข้ามาน้อยนัก ต่อให้ผ่านทางก็มักท่องแหวกอากาศนอกป่าเขา ไม่ล่วงล้ำเข้ามา

มีเพียงผู้ต้องการปราณมารมาส่งเสริมยามบำเพ็ญ ถึงจะเข้าภูเขานี้ช่วงแสงเหนือเจิดจรัสทุกวันเป็นเวลาครึ่งชั่วยาม

‘เล่าลือว่าที่นี่คือดินแดนซึ่งผู้บำเพ็ญมารมากสามารถช่วงบรรพกาลฝังกระบี่ก่อนสิ้นชีพ กระบี่เขานามว่าศิลาทมิฬ กลายเป็นภูเขาที่นี่ ในกระบี่แฝงเจตจำนงชั่วร้าย แปรสภาพเป็นบึงมารอาสัญ’

ตอนนี้นอกเขาศิลาทมิฬ มีชายหนุ่มชุดดำมองภูเขาสีดำตรงหน้า กล่าวเสียงแผ่วเบาในใจ

ชายหนุ่มคนนี้คือสวี่ชิงที่ออกจากเมืองเมฆาทมิฬมา

หลังจากส่งอวิ๋นเหมินเชียนฝานถึงเมืองเมฆาทมิฬ สวี่ชิงตัดสินใจท่องแดนตะวันตกสักพัก สถานที่จำเป็นต้องไปคือพวกแดนอัศจรรย์อย่างทะเลทรายกาลเวลาตามที่อธิบายไว้ในแผ่นหยกซึ่งอวิ๋นเหมินเชียนฝานให้มา

บึงมารอาสัญอยู่ใกล้เขาที่สุด ดังนั้นเลยเป็นจุดแรก

จ้องมองนอกป่าเขาเนิ่นนาน ยามแสงเหนือเข้มข้นที่สุด สวี่ชิงค่อยก้าวเข้าเขาศิลาทมิฬ

ก้าวข้ามหินผา เดินผ่านพุ่มไม้ ก้าวเข้าหุบเขา เมื่อเห็นบึงก็เห็นแท่นหินรวมถึงตัวอักษรบนนั้น

ทั้งเห็นสิ่งที่เรียกว่าวิญญาณร้าย

เมื่อจ้องมองสักพัก

ระหว่างนั้นวิญญาณร้ายค่อยเข้ามา ท่าทางคล้ายภูตผีปีศาจ แผดเสียงดุดัน หมายเลือกคนมาจับกิน ทยอยพุ่งเข้ามา แต่เมื่อสัมผัสสวี่ชิงกลับกลายเป็นหมอกควัน ห้อมล้อมรอบทิศ

‘ทั้งเกี่ยวข้องกับเวลาเข้ามา คิดว่าเมื่อแสงเหนือบนโลกภายนอกมืดสลัว วิญญาณร้ายที่นี่คงดุดันฉับพลัน’

สวี่ชิงสืบสัมผัสรอบตัว กวาดสายตาทั่วทิศ สุดท้ายค่อยโรยตัวเหนือบึงน้ำ

นัยน์ตาฉายแววเยียบเย็น ในสายตาเขาบึงน้ำเกิดลอนคลื่น เมื่อมองผ่านคลื่นไป พริบตาหนึ่งเขาเหมือนเห็นว่าส่วนลึกของบึงมีหีบศิลาอยู่

‘หีบนี้ขยับไม่ได้’

สวี่ชิงหรี่ตา อยู่ที่นี่ถึงปัจจุบัน เห็นชัดว่าหีบนี้ไม่ธรรมดา ทั้งจากการสืบสัมผัสของเขา ที่นี่ยังมีอันตรายยากอธิบายด้วย

‘ไม่ใช่สถานที่หยั่งรู้ซึ่งข้าต้องการ’

สวี่ชิงครุ่นคิด หลังจากมองชั่วยามกว่า เขาค่อยถอยหลังคิดจากไป

แต่ชั่วพริบตายามเขาถอยห่างจากหุบเขา ลมทมิฬพัดขึ้นมาจากบึง ทำให้พืชพันธุ์กลางหุบเขาเกิดเสียงดังหวีดหวิว

เสียงพวกนี้เหมือนปกติ หากคนธรรมดาอยู่ที่นี่ ได้ยินแล้วย่อมคิดว่าเป็นเพียงเสียงลมกับเสียงใบไม้ แต่จากการสืบสัมผัสของสวี่ชิง เห็นชัดว่านั่นคือเสียงพึมพำประหลาด

“ป่าร้างหญ้ารกชัฏ ฝนพรำหนาวเหน็บรั้งเพียงลม”

“วิญญาณเร่ร่อนผ่ายผอม หวังเพียงเคียงข้างท่าน”

“สุสานเดียวดาย คืนนี้เพรียกหาท่าน”

“สายตาพร่าเลือน แสงโคมเพียงเสี้ยว ส่องหน้าคนคุ้นเคย…”

เสียงเยียบเย็นดังก้องหุบเขาลึกเงียบสงัด คล้ายมีวิญญาณโดดเดี่ยวเรียกหาบางคนกลางดึกจากยมโลก

ขณะเดียวกันบึงน้ำเกิดคลื่นระลอก มีศีรษะหญิงสาวเผยหน้าครึ่งหนึ่งกลางบึงน้ำ

สีผิวซีดเผือด เรือนผมดำจมวารี ดวงตาสีขาวจ้องมองสวี่ชิง

แค่พริบตารอบตัวเริ่มเกิดผลึกน้ำแข็ง พื้นดิน ต้นไม้ ผาหินเยียบเย็นทันที แผ่ขยายรวดเร็ว ทั้งหุบเขาบิดเบี้ยวเล็กน้อย

จากนั้นเงาร่างในบึงค่อยหายไป ก่อนปรากฏตัวเหนือน้ำราวย้ายมวลสาร

นางสวมอาภรณ์ขาว

ต่อมาภาพบิดเบี้ยวอีกครั้ง ยามปรากฏตัวก็อยู่นอกบึงแล้ว

เมื่อคิดขยับตัวอีก ตอนนี้มีกรรไกรมหึมาหนึ่งปรากฏเหนือศีรษะสวี่ชิง

ก่อนตัดเส้นไหมไร้รูปดังฉับ

เมื่อเส้นไหมโดนตัดขาด การเคลื่อนไหวประหลาดของหญิงสาวค่อยยุติ

นางยืนอยู่จุดเดิม ห่างจากสวี่ชิงร้อยจั้ง นัยน์ตาสีขาวจับจ้อง

ตั้งแต่ต้นจนจบสีหน้าสวี่ชิงนิ่งสงบ ตอนนี้ค่อยเอ่ยปากราบเรียบ

“ข้าไม่ใช่คนที่เจ้าตามหา ถ้าเซ้าซี้ต่อ ข้าไม่ถือสาที่จะทำให้เจ้ารอต่อไปไม่ได้อีก”

สวี่ชิงพูดจบแล้วถอยหลังช้าๆ กระทั่งออกจากเขตหุบเขา ความอบอุ่นรอบตัวค่อยกลับมาทีละน้อย

หุบเขาไม่ผิดปกติอีก

สวี่ชิงไม่ลังเลเช่นกัน เคลื่อนย้ายออกจากเขาศิลาทมิฬ ยืนนอกเขาทอดมองคราหนึ่ง

คล้ายสัมผัสได้ว่าหุบเขาแห่งนี้ หญิงสาวประหลาดเมื่อครู่หายไปแล้ว มีเพียงเสียงพึมพำก่อนหน้ายังดังก้องรางๆ

‘ตำนานเป็นเรื่องเท็จ’

‘ที่นี่ไม่ใช่แดนฝังกระบี่อะไร แต่เป็นผนึก สิ่งที่ผนึกคือเทพองค์หนึ่ง’

‘ทั้งการผนึกเทพกลางฟ้าดินนี้ยังแปดเปื้อนภูเขา พลังแท้จริงของเทพองค์นี้ อย่างน้อยก็เป็นระดับเทพเทวะขั้นสูงสุด’

สวี่ชิงถอนสายตากลับ ก่อนหันหลังจากไป

ผ่านไปครึ่งเดือน

จากกลางแดนตะวันตกไปทางใต้หนึ่งพันห้าร้อยสามสิบล้านลี้ มีที่ราบนามว่าลมสวรรค์

ผืนดินทางตะวันออกของที่ราบมีปากถ้ำหมื่นลี้

ใต้ถ้ำแคบลงเรื่อยๆ สุดท้ายค่อยเป็นทางแคบยาว ลึกล้ำยากหยั่งถึง

ในช่องทางมีลมประหลาด แรงลมมหาศาล คล้ายเซียนแห่งลมอาศัยอยู่ที่นี่

ทั้งช่วงกลางถ้ำยังมีสัญลักษณ์ประหลาดสลักเต็มผนัง

‘ลือกันว่าสัญลักษณ์พวกนี้คือยันต์ที่เซียนแห่งลมคนนั้นเหลือไว้ บันทึกว่าชักนำและควบคุมพลังแห่งลมอย่างไร’

‘ในถ้ำมีอสูรกลายพันธุ์หายากปรากฏตัวบ่อยครั้ง พวกมันเคลื่อนผ่านสายลม คล้ายภาพมายาเสมือนจริง’

บทที่ 1119 ฟ้าดินกว้างใหญ่ 1

บทที่ 1119 ฟ้าดินกว้างใหญ่ 2

Verify captcha to read the content.VERIFYCAPTCHA_LABEL

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผู้กล้าเหนือกาลเวลา