เข้าสู่ระบบผ่าน

ผู้กล้าเหนือกาลเวลา นิยาย บท 1128

บทที่ 1128 ฟ้าดินคือแหล่งพำนักของสรรพชีวิต

แดนตะวันตก สำนักเซียนมรรคา

ในพื้นที่อุดมสมบูรณ์ไร้ขอบเขต ตอนนี้การช่วงชิงของสมุนไพรสองต้นสิ้นสุดแล้ว

ต้นหนึ่งเด่นตระหง่าน เบ่งบานสะพรั่ง ยามกิ่งก้านส่ายสั่น แสงดาราส่องประกาย

อีกต้นที่อยู่ด้านข้าง อับเฉาล้มลง กิ่งก้านแห้งเหี่ยว กลีบดอกร่วงโรย ใกล้หลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกับพื้นดินโคลนตม

แต่… ราชาพิษยังจับจ้อง

ไม่ได้มองพืชที่เหมือนชนะนั่น แต่มองอีกต้นที่ผสานรวมกับโคลนตมช้าๆ

“ก่อเกิดจากความตาย?”

ราชาพิษพึมพำ นัยน์ตาฉายแววประหลาด

ขณะเดียวกันบนเวิ้งฟ้าเหนือแดนตะวันตก หลี่เมิ่งถู่หน้าซีดเผือด ระหว่าทางยามห้อตะบึงอาการบาดเจ็บในตัวถาโถม กระอักเลือดแดงสดเป็นครั้งคราว ไม่ว่าเขาสะกดข่มอย่างไรก็ถึงขีดจำกัด

การต่อสู้ครั้งนี้ศึกชิงความเป็นตายซึ่งดุเดือดที่สุดในชีวิตเขา

แม้ว่าชนะหวุดหวิด แต่ความสาหัสของบาดแผลถือเป็นประวัติการณ์

“เมื่อข้าประมือกับดาวคนอื่น ส่วนใหญ่ก็เป็นเช่นนี้”

หลี่เมิ่งถู่พึมพำ ต่อให้ตอนนี้ชนะแล้ว แต่เมื่อนึกถึงเหตุการณ์ก่อนหน้า ในใจเขายังหวาดหวั่น

ด้วยสภาวะจิตเช่นนี้ ทำให้ตอนนี้เขาไม่ผ่อนคลายแม้แต่น้อย

“ฟ้าดินนี้ล้วนไม่เคยขาดตัวแปร ทั้งตัวแปร… ยังชอบเพ่งเล็งอัจฉริยะฟ้าประทานเป็นพิเศษ”

หลี่เมิ่งถู่สูดหายใจลึก เขาไม่ยอมให้เกิดตัวแปรกับเหตุการณ์ครั้งนี้ ดังนั้นเขาทราบดีว่าความเร็วตนช้าเกินไปแล้ว

ครู่ต่อมาเขายกมือขวากดลงตรงหน้าผาก ท่ามกลางเสียงกัมปนาท สีหน้าเขาแดงเรื่อผิดปกติ คล้ายกระตุ้นพลังแฝง ผลาญอำนาจส่วนหนึ่ง

อาศัยสิ่งนี้มาแลกเปลี่ยนความเร็ว เคลื่อนย้ายชั่วพริบตา

ตลอดสามวันเขาอาศัยการเคลื่อนตัว รวมถึงอานุภาพค่ายกลเคลื่อนย้ายโบราณ สุดท้ายค่อยกลับถึงตระกูลหลี่ก่อนวังวนแสงเหนือครั้งที่สี่มาเยือน

ไม่ใช่แดนต้องห้ามทางตะวันออกของศูนย์กลาง แต่เป็นถิ่นกำเนิดแท้จริงของตระกูลหลี่

เมืองหลี่!

เมืองนี้เด่นตระหง่าน รัศมีกว้างใหญ่ ในเมืองเจริญรุ่งเรือง ผู้บำเพ็ญนับไม่ถ้วน

ส่วนลึกผืนดินด้านล่างเมือง ที่นั่นมีวังใต้ดินน่าอัศจรรย์แห่งหนึ่ง

วังใต้ดินนี้เหมือนโลกโดดเดี่ยว

ถ้ากล่าวอย่างถูกต้องคือแดนเล็กแห่งหนึ่ง

ในนั้นมีฟ้าดิน แค่ปราศจากสรรพชีวิต

ทั้งแดนเงียบสงบ มีเพียงลมหวีดหวิว พัดผ่านแม่น้ำ ที่ราบ รวมถึงยอดเขาสูงแห่งหนึ่ง

บนยอดเขามีเรือนไม้หลังหนึ่ง

ประตูทางเข้าปิดสนิท

ในลานมีเตาหลอมหนึ่งตั้งอยู่ ควันลอยขึ้นห้วงนภา แทรกสลับกลางสายลม ราวทะยานเหนือเมฆ

หลังจากนั้นเนิ่นนาน ท้องฟ้าเหนือแดนเล็กเกิดคลื่นสะเทือนโดยไร้สุ้มเสียง เงาร่างหลี่เมิ่งถู่ก้าวออกมา

หลังจากถึงที่นี่ เขาสูดหายใจลึก เดินมากลางลานหน้าเรือนไม้ มองประตูเรือนไม้ที่ปิดสนิท สีหน้าเขาฉายแววจริงจัง

ก่อนคุกเข่าลง

ที่นี่คือแดนศักดิ์สิทธิ์ของพวกเขาตระกูลหลี่ เป็นที่พักช่วงบั้นปลายชีวิตของบรรพชน

หลังจากบรรพชนละสังขารด้วยท่านั่งสมาธิก็กลายเป็นศาลบรรพชนของพวกเขาตระกูลหลี่

ตามกฎเกณฑ์ของตระกูล นอกจากวันไหว้บรรพชนแล้ว ปกติที่นี่ห้ามคนในตระกูลมาเยือน

“ลูกหลานชนรุ่นหลังหลี่เมิ่งถู่ ขอรบกวนความสงบของปฐมบรรพชน”

หลี่เมิ่งถู่กล่าวเสียงต่ำ จากนั้นหน้าผากสัมผัสพื้น โขกศีรษะอย่างจริงจัง

สักพักหลี่เมิ่งถู่ค่อยหยัดร่างขึ้น ถอนสายตากลับมาจากเรือน หันมองเตาหลอมตรงหน้า

เตาหลอมนี้คือเป้าหมายและสิ่งสำคัญที่เขามาครั้งนี้

ดังนั้นเลยสะบัดมือ ม้วนภาพที่ผนึกสวี่ชิงลอยออกจากตัวหลี่เมิ่งถู่ ห้อตะบึงไปทางเตาหลอม

ยามร่วงลงเตาหลอม ทั้งเตาหลอมสั่นสะเทือน ภูเขาพื้นดินบนแดนเล็กแห่งนี้สั่นคลอนชั่วพริบตา ส่งเสียงดังครั่นครื้น

เปลวไฟไร้สิ้นสุดปะทุขึ้นมาจากใต้ดิน ยามแต้มแต่งทั่วแดน ค่ายกลส่องประกาย

ดินแดนคือค่ายกล เพลิงปฐพีตัดสิน รวมตัวตรงเตาหลอม แผดเผาเตาเสริมม้วนภาพ ทำให้อานุภาพการหลอมเพิ่มขึ้นฉับพลันตามไปด้วย

‘ทำเช่นนี้แล้วย่อมไม่เกิดข้อผิดพลาด สวี่ชิงไม่มีโอกาสเกิดตัวแปรอีก ต้องตายโดยไร้ข้อกังขา!’

หลี่เมิ่งถู่มองทุกอย่างตรงหน้า สุดท้ายค่อยวางใจ

เขากราบศาลบรรพชนเรือนไม้อีกครั้ง ก่อนก้าวขึ้นห้วงนภา เตรียมตัวออกจากที่นี่ เดินทางกลับสำนักเซียนมรรคา อาศัยวิญญาณเซียนเข้มข้นที่นั่นเพื่อรักษาบาดแผล

‘เมื่อข้าฟื้นตัวจากอาการบาดเจ็บ ยามกลับมาที่นี่ สวี่ชิงคงวิญญาณแตกซ่านกลับคืนสู่ดินแล้ว มรดกของข้าย่อมหวนกลับมาใหม่เช่นกัน’

หลี่เมิ่งถู่ก้มหน้า มองเตาหลอมอีกครั้ง มองม้วนภาพกลางเตาหลอมนั่น

ก่อนบรรพชนตระกูลหลี่นั่งสมาธิละสังขาร ม้วนภาพที่ทิ้งไว้แฝงนัยอะไร ส่วนใหญ่คนรุ่นหลังทราบแค่เพียงส่วนหนึ่ง ไม่ทราบรายละเอียด

พวกเราทราบเพียงว่าม้วนภาพนี้เป็นยอดสมบัติประจำตระกูล มาจากสถานที่แห่งหนึ่งซึ่งชื่อว่าพสุธาแดนดิน

ที่นั่นคือบ้านเกิดของบรรพชน

ทราบแค่ว่าหากมีคนเปิดม้วนภาพได้ เซียนชั้นล่างก็ผนึกได้

แค่เพียงจ่ายค่าตอบแทนด้วยอายุขัย หลี่เมิ่งถู่ซึ่งเปิดม้วนภาพได้เสี้ยวหนึ่งทราบมากกว่าหน่อย

“ร่างแห้งเหี่ยวว่างเปล่า จิตเวียนว่ายตายเกิด ภายใต้การกลืนกินต่อเนื่อง สุดท้าย… วิญญาณแตกซ่านกลับคืนสู่ดิน”

ยามพึมพำร่างหลี่เมิ่งถู่วูบไหว หายไปจากที่นี่

เมื่อเขาจากไป ความสงบของแดนเล็กถูกทำลาย อยู่ท่ามกลางเสียงเพลิงกัมปนาทไร้สิ้นสุด เสียงนี้… ดังก้องเนิ่นนาน

ครืน!

ครืน!

ครืน!

เสียงอสนีบาตเหมือนดังมาจากขอบฟ้าห่างไกล ทะลวงผ่านแดนสัจจะ กระทั่งถึงเวิ้งฟ้ามายา กลายเป็นฟ้าคำราม

ดังก้องหูผู้คนนับไม่ถ้วนกลางนครหลวงซึ่งกำลังหลับใหล

ทำให้สรรพชีวิตในเมืองตื่นตระหนก

ทั้งทำให้ชายชราคนหนึ่งตกใจตื่น ลืมตาขึ้นเงียบๆ ส่งเสียงกระแอมเบาๆ

เสียงนี้ราวเหนือกว่าอสนีบาตระดับหนึ่ง ทำให้เรือนที่ผู้อาวุโสอยู่จุดตะเกียงสว่างชั่วพริบตา บ่าวมากมายรีบมาทันที

ไม่กล้าละเลยแม้แต่น้อย

บทที่ 1128 ฟ้าดินคือแหล่งพำนักของสรรพชีวิต 1

Verify captcha to read the content.VERIFYCAPTCHA_LABEL

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผู้กล้าเหนือกาลเวลา