[ภาค 3 รวงน้อย[1]] บทที่ 118 มักจะมีคนซื่อเสมอ
สวี่ชิงก้มหน้ามองพื้น
เขาอยากไปดูตำแหน่งที่ชี้นำตรงนั้นว่ามันมีอะไรกันแน่
ในแผ่นหยกที่หวงเหยียนให้เขามีการบอกเล่าถึงใต้ดินเกาะเงือกเหมือนกัน
เนื่องจากลักษณะพิเศษของเผ่าพันธุ์เงือก ดังนั้นสิ่งก่อสร้างในเผ่าจึงแบ่งเป็นโลกสองชั้น ชั้นหนึ่งบนเกาะก็คือโลกบนพื้นดิน เมืองที่สร้างขึ้นจากกระดูกหรือเปลือกหอยพวกนั้น
พวกเขาชอบกระดูก ไม่ว่าจะเป็นกระดูกปลาหรือกระดูกสัตว์ หรือจะเป็นกระดูกจากชาวต่างเผ่า ล้วนเป็นแค่สิ่งที่พวกเขาคลั่งไคล้หลงใหล และยิ่งเยือกเย็นน่าขนลุกและชั่วร้ายมากเท่าไร ระดับความชอบก็จะยิ่งมากขึ้นเท่านั้น
เหมือนว่านี่คือมรดกวัฒนธรรมที่ฝังอยู่ในวิญญาณของเงือกทุกตน
ส่วนโลกชั้นที่สองก็อยู่ในใต้ดินนี่เอง
ใต้ดินแห่งนี้ไม่ใช่ถ้ำแต่เป็นกลุ่มสิ่งก่อสร้างที่สร้างกลับหัวในฐานที่มั่นเกาะทะลวงไปทั่วชั้นดินทั้งเกาะแล้วยื่นไปในทะเล
และรูปร่างของทั้งเกาะเงือกความจริงแล้วก็เหมือนใบไม้ที่ลอยอยู่ ข้างบนและข้างล่างทั้งสองด้านล้วนมีสิ่งก่อสร้าง ด้วยพลังแปลกประหลาดจึงทำให้มันไม่จม
และคำพรรณนาต่อโลกชั้นนั้นที่สร้างอยู่ใต้ทะเลของเผ่าเงือกในแผ่นหยกของหวงเหยียนก็ใช้คำว่างดงามตระการตามาบรรยาย
ว่ากันว่าสิ่งก่อสร้างทุกอย่างที่นั่นล้วนประกอบขึ้นจากปะการังเจ็ดสีจำนวนมหาศาล ในขณะเดียวกัน บนปะการังก็มีดอกไม้ทะเลจำนวนมหาศาลที่มีรยางค์เต็มไปด้วยเข็ม
ส่วนรูปร่างลักษณะโดยละเอียด สวี่ชิงไม่รู้
“ไปเถอะ ที่นี่ไม่มีของดีอะไร พวกเราไปที่ตาปลา ตรงนั้นคือทางเข้า” นายกองตะโกนขึ้นมา ร่างเพียงไหววูบก็พุ่งจากไปไกล
สวี่ชิงเลือกที่จะตามไป แต่ก็รักษาระยะห่างเอาไว้ในระดับหนึ่ง ความสัมพันธ์ระหว่างเขากับนายกองค่อนข้างประหลาด ทั้งไว้ใจแต่ก็ไม่ไว้ใจ
นายกองทำให้สวี่ชิงรู้สึกว่าอีกฝ่ายลึกลับมาโดยตลอด ในขณะเดียวกันก็ยากจะคาดเดาความคิดของอีกฝ่าย รู้สึกได้โดยสัญชาตญาณว่าอีกฝ่ายอันตราย
โดยเฉพาะนายกองในตอนนี้มีพลังบำเพ็ญสู้กับระดับสร้างฐานได้ แต่หลายครั้งที่สัมผัสกลิ่นอายของเขา ก็รู้สึกว่าอีกฝ่ายแข็งแกร่งกว่านั้นอีกเล็กน้อย
นี่ทำให้สวี่ชิงมีความคิดมากมายในใจ เพราะทุกครั้งหลังจากที่เขาทะลวงพลังบำเพ็ญก็จะสัมผัสรับรู้ได้ครั้งหนึ่ง แต่ทุกครั้งก็ล้วนรู้สึกว่าแข็งแกร่งกว่าตัวเอง แต่ก็ไม่มาก
นี้ทำให้เขาระแวดระวังขึ้นไปอีก
สองคนเคลื่อนไปข้างหน้าอย่างเร็วรี่ในเมืองกระดูกปลาตลอดทางเช่นนี้ เป้าหมายคือบริเวณตาปลา ไม่ว่าจะเป็นคำพูดของนายกองหรือจะเป็นคำบรรยายในแผ่นหยกของหวงเหยียน ล้วนบอกว่าที่นั่นเป็นทางเข้าโลกใต้ดินเหมือนกันหมด
ระหว่างนั้นพวกเขาได้เจอกับลูกศิษย์สำนักเจ็ดเนตรโลหิตจำนวนไม่น้อย
คนเหล่านี้ทุกคนหากไม่ห้อตะบึงไปในความมืด ก็ค้นหาอยู่ในสิ่งก่อสร้างแต่ละแห่งๆ แล้วก็มีบางคนที่ค้นหาตามซากศพของเผ่าเงือกว่ามีหินวิญญาณหรือไม่
กระทั่งว่ายังมีบางส่วนที่อำพรางกายรอลอบโจมตี ไม่ว่าจะเป็นคนในสำนักเดียวกันเองหรือเผ่าเงือกล้วนเป็นเป้าหมายของพวกเขาทั้งสิ้น
ลูกศิษย์สำนักเจ็ดเนตรโลหิตที่อยู่ในเมืองทั้งเมืองเหมือนฝูงหมาไน ทั้งเชี่ยวชาญการอำพรางกายและเชี่ยวชาญการล่า เพียงแต่เมื่อเห็นสวี่ชิงกับนายกองส่วนมากก็พากันหลบหลีกไปอย่างรวดเร็วทั้งสิ้น
ก็ไม่รู้ว่าหวาดเกรงนายกอง หรือเข็ดขยาดสวี่ชิง
“เจ้าคนพวกนี้เจ้าเห็นแล้วใช่หรือไม่ ในบรรดาพวกเขามีจำนวนไม่น้อยที่ทะลวงขั้นได้ตั้งนานแล้ว แต่กลับสะกดพลังบำเพ็ญเอาไว้เพื่อจะมาร่ำรวยที่นี่
“แต่ละคนจมูกไวยิ่งกว่าหมา สวรรค์…เจ้าดูตรงนั้น พวกเขาถึงขั้นว่าขนาดบ้านของคนอื่นก็ยังไม่เว้น เกินไปแล้ว” นายกองชี้ไปยังที่ไกลๆ ตรงนั้นมีลูกศิษย์หลายคนกำลังรื้อสิ่งก่อสร้างหลังหนึ่งอยู่
สิ่งก่อสร้างหลังนี้พิเศษมาก สร้างจากเปลือกหอยที่มีพลังวิญญาณจำนวนหนึ่ง
สวี่ชิงดวงตาจ้องเพ่ง ในขณะเดียวกับที่มองไป นายกองที่อยู่ข้างหน้าจู่ๆ ก็พุ่งตัวไป พลังบำเพ็ญพลันปะทุขึ้น ทำให้สายตาของคนที่กำลังรื้อบ้านอยู่พวกนั้นฉายประกายวูบเล็กน้อย ก็รีบถอยหลบทันทีอย่างไม่ลังเล หายไปในที่มืดอย่างรวดเร็วโดยไม่แม้แต่จะหันกลับมามอง
นายกองดวงตาวาววาบ หลังจากมาถึงก็รื้อเก็บทันที มือไม้ขยับได้อย่างชำนาญเป็นอย่างมาก
สวี่ชิงบินเข้ามาใกล้อย่างรวดเร็ว ร่วมรื้อเก็บด้วย เก็บเปลือกหอยที่มีระลอกคลื่นพลังวิญญาณแข็งแกร่งแต่ละชิ้นๆ ไป
“ของดีนะเนี่ย นี่เป็นบ้านของใครกัน เปลือกหอยพวกนี้ชิ้นเล็กๆ ขนาดฝ่ามือก็ขายได้หินวิญญาณสิบกว่าก้อนแล้ว”
สวี่ชิงไม่พูดอะไร มือไวยิ่งกว่า
หลังจากนั้นครึ่งก้านธูป ในตอนที่พวกเขาสองคนจากไป บ้านหลังนั้นก็หายไปแล้ว
ระหว่างทาง สถานที่ที่จู่ๆ ก็ว่างเปล่าหายไปเช่นนี้มีจำนวนไม่น้อย ทุกครั้งที่นายกองเห็นสีหน้าก็ไม่พอใจไปทุกครั้ง
“เกินไปแล้ว ศิษย์รุ่นก่อนๆ พวกนี้ทั้งๆ ที่แข็งแกร่งตั้งขนาดนั้น แต่กลับมาแย่งพวกเราเด็กน้อยเหล่านี้!” นายกองพูดอย่างไม่พอใจ สวี่ชิงปรายตามองหน้าเขา
ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผู้กล้าเหนือกาลเวลา