เข้าสู่ระบบผ่าน

ผู้กล้าเหนือกาลเวลา นิยาย บท 119

บทที่ 119 เหนือกว่าพื้นที่ต้องห้าม

ตอนนี้ทะเลแสงสีม่วงบนท้องฟ้ากำลังปะทะกับค่ายกลเวทสีดำไม่หยุด ทั้งสองฝ่ายไม่มีพลังวิญญาณ แต่เห็นได้ชัดว่าคุณสมบัติต่างกันไป ทำให้มันไม่สามารถอยู่ร่วมกันได้

ก็เหมือนกับผู้บำเพ็ญทั้งหกที่กำลังต่อสู้กันอยู่บริเวณหัวปลา ณ ตอนนี้

กระบี่ยาวในมือติงเซียวไห่กวัดแกว่งพริ้วไหวเบ่งบานเป็นบุปผากระบี่ที่เกิดจากคัมภีร์แปรสมุทรออกมาดอกแล้วดอกเล่า ทุกดอกล้วนแฝงด้วยจิตสังหารน่าครั่นคร้าม

ของวิเศษอักขระที่เขาใช้เมื่อรวมกับวิชาเวทของตัวเองก็ยิ่งเกิดเป็นพื้นที่ที่เหมือนกับผืนสมุทร ทำให้เผ่าสิงซากสมุทรที่สู้กับเขาอยู่ในนั้นแม้ร่างกายจะแข็งแกร่ง แต่ในเวลาสั้นๆ ก็มีพลังอยู่ในระดับที่สูสีกัน

แต่ไอพลังประหลาดและพิษศพคืออาวุธร้ายของเผ่าสิงซากสมุทร รวมกับอุปนิสัยที่โหดเหี้ยมของพวกมัน ดังนั้นโดยภาพรวมแล้วติงเซียวไห่ก็เริ่มสู้ไม่ค่อยไหว ทว่าเขาเองก็มีไพ่ตายเหมือนกัน

ส่วนนายกองทางนั้น ทวนยาวในมือราวมังกร ในขณะเดียวกับที่มีความเร็วอย่างยิ่งยวดก็มีการเปลี่ยนแปลงที่แพรวพราว ประเดี๋ยวก็วาดกวาด ประเดี๋ยวก็พุ่งแทงตรงๆ มองให้ละเอียดแล้วเหมือนกำลังปักผ้า ทั้งเหมือนกำลังแกะสลัก เคลื่อนไปรอบๆ ผู้บำเพ็ญเผ่าสิงซากสมุทรที่สู้อยู่กับเขา

ดูจากท่าทางแล้วเชี่ยวชาญชำนาญนัก กระทั่งว่ามือข้างที่ไม่ได้ถือทวนก็ไม่ได้ประสานปางมือเผื่อสำแดงเวท แต่ถือผิงกั่วไว้ลูกหนึ่ง ประเดี๋ยวๆ ก็กัดสักคำหนึ่ง ทั้งยิ่งมีเวลาไปให้กำลังใจติงเซียวไห่อย่างมีชีวิตชีวา

“ศิษย์พี่ติงสุดยอดเลย ศิษย์พี่ติงเกรียงไกรนัก ศิษย์พี่ติงสู้ๆ”

“สวี่…” หลังจากให้กำลังใจติงเซียวไห่ นายกองกำลังจะให้กำลังใจสวี่ชิงบ้าง เพียงแต่เมื่อสายตากวาดเพิ่งกวาดไป ดวงตาเขาก็เบิกโพลง อ้าปากกว้าง ลูกผิงกั่วเกือบร่วงจากปาก

สิ่งที่เขาเห็นในสายตาคือสวี่ชิงมือถือกริช ความเร็วของทั้งคนกลายเป็นรอยเงาไปแล้ว เฉือนผู้บำเพ็ญเผ่าสิงซากสมุทรตนนั้น และยังโปรยผงพิษกำใหญ่ไปใกล้ๆ อีกด้วย

เหมือนกำลังทดสอบวิถีพิษของตัวเอง

ยิ่งไปกว่านั้นในขณะเดียวกับที่ทดลองพิษ กริชของเขาก็เฉือนเต็มแรง แล่ร่างของผู้บำเพ็ญเผ่าสิงซากสมุทรออกมาเป็นชิ้นๆ

ร่างของผู้บำเพ็ญเผ่าสิงซากสมุทรตนนั้นเล็กลงไปเกือบครึ่งอย่างเห็นได้ชัดเจน เผยกระดูกออกมาให้เห็น ส่วนบนพื้น…ล้วนเป็นเลือดสีน้ำเงิน

ส่วนสีหน้าของสวี่ชิงไม่เปลี่ยนแปลงไปเลยแม้แต่น้อย ต่อให้เลือดสีน้ำเงินเจิ่งนองไปทั่ว ดูแล้วชวนสยดสยองนัก แต่สีหน้าของเขาก็ยังฉายความจริงจัง ลงมือไม่หยุด

ความจริงแล้ว สวี่ชิงก็ไม่อยากทำเช่นนี้ แต่ผู้บำเพ็ญเผ่าสิงซากสมุทรข้างหน้าตนนี้เหมือนไม่รู้จักความเจ็บปวด อีกทั้งพิษส่วนมากก็ไม่มีผลกับมัน

ต่อให้คอถูกปาดก็ยังลงมืออย่างโหดเหี้ยม ราวกับไม่กลัวตาย สู้ด้วยกายที่ได้รับบาดเจ็บสาหัส อย่างไรก็ต้องโจมตีอย่างบ้าคลั่งให้ได้อยู่ตลอด

ประกายแสงสีแดงในดวงตาเหมือนจะฉีกทึ้งสวี่ชิงให้เป็นชิ้น

ในขณะเดียวกันก็ยังมีระลอกคลื่นพลังเวทปะทุออกมาจากตัวของมันเป็นระลอกๆ ทำให้คุณสมบัติของระลอกคลื่นเหล่านี้ไม่ใช่พลังวิญญาณ แต่เป็นไอพลังประหลาด ก่อเป็นหมอกดำหน้าผีรอบตัวเขามากมายรอบตัวมัน ก่อนจะพุ่งหาสวี่ชิง

สวี่ชิงไม่กลัวไอพลังประหลาด แต่เขาก็ไม่อยากเปิดเผยออกมาที่นี่ ดังนั้นในขณะเดียวกับที่อาศัยความเร็วหลบหลีก ก็เอาของวิเศษอักขระออกมาป้องกัน ทว่าคิ้วก็ยังต้องขมวดอยู่ดี

เขาพบว่าอีกฝ่ายแม้จะได้รับบาดเจ็บจนถึงระดับนี้แต่ก็ยังคงโหดเหี้ยมเช่นเดิม นี่ทำให้จิตสังหารของสวี่ชิงยิ่งแรงขึ้น ตอนนี้ในขณะที่ร่างกายเคลื่อนไป ก็แทงกริชไปที่หัวของอีกฝ่าย

แสงสีแดงในดวงตาผู้บำเพ็ญเผ่าสิงซากสมุทรฉายประกายวาบ มือขวาพลันยกขึ้นแล้วรับตรงๆ

เสียงกร๊อบดังขึ้น อาศัยในเสี้ยวพริบตาที่ใช้กระดูกของตัวเองหยุดกริชเอาไว้ ทันใดนั้นผู้บำเพ็ญเผ่าสิงซากสมุทรตนนี้ก็อ้าปากกว้างแล้วกัดสวี่ชิง

สวี่ชิงแววตาดุดัน ตัดสินใจไม่หลบหลีก ใช้ศีรษะโขกอีกฝ่ายอย่างเต็มแรง

เสียงบึ้มดังขึ้น ปากของผู้บำเพ็ญเผ่าสิงซากสมุทรตนนั้นแหลกเละ ฟันหักละเอียด หัวเละไปครึ่งหนึ่งจากการกระแทกอย่างรุนแรงนี้

สวี่ชิงพุ่งไปทันที กริชในมือเฉือนไปที่อีกฝ่ายอย่างโหดเหี้ยม

ตัดแขนมันออกมา

แล้วก็กรีดไปอีกครั้ง ผ่าท้องออกมา

อวัยวะภายในเน่าเปื่อยกลายเป็นน้ำเลือดน้ำหนองไหลพรั่งพรู บาดแผลและความโหดเหี้ยมเช่นนี้ ทำให้ในดวงตาของเผ่าสิงซากสมุทรที่ใกล้จะถูกแยกชิ้นส่วนตนนี้ฉายความตื่นตระหนกหวาดกลัวออกมาอย่างเห็นได้ยาก

ทั้งหมดนี้เป็นสาเหตุที่ทำให้ทางนายกองทางนั้นลูกผิงกั่วเกือบร่วงจากปาก

ใช่ว่าเผ่าสิงซากสมุทรจะไม่มีอารมณ์ความรู้สึก เพียงแต่อารมณ์ของพวกมันค่อนข้างเรียบง่าย แต่ต่อให้ไม่ว่าจะเรียบง่ายเพียงใด ระลอกคลื่นที่ความตายนำมาก็ยังคงรุนแรงน่าหวาดกลัวอยู่ดี ตอนนี้ที่ถอยไปข้างหลัง ผู้บำเพ็ญเผ่าสิงซากสมุทรตนนี้ก็ไม่อยากสู้ต่อไปแล้ว คิดจะหนี

แต่สวี่ชิงไม่ยอม

ร่างของเขาแค่พุ่งออกไปก็ประชิดเข้าใกล้อีกครั้ง ในพริบตาที่กริชตวัดฉวัดเฉวียน รอบๆ ก็มีหยดน้ำจำนวนมหาศาลก่อเป็นเกราะต้านทานไปทั่วทุกทิศครอบไปที่เผ่าสิงซากสมุทรตนนั้น

ขณะที่เสียงระเบิดดังสนั่น ความตื่นกลัวในดวงตาของเผ่าสิงซากสมุทรตนนี้ก็รุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ลูกศิษย์สำนักเจ็ดเนตรโลหิตข้างหน้าคนนี้ทำให้มันรู้สึกแปลกประหลาดเหลือเกิน ไอพลังประหลาดของตัวเองไม่มีผลกับคนคนนี้เลย ในความรู้ความเข้าใจของมัน นี่เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้

ต่อให้เป็นอัจฉริยะฟ้าประทานเผ่าทุกเผ่าที่ในกายไม่มีไอพลังประหลาดใดๆ ทั้งสิ้นพวกนั้น ก็แค่ในกายสะอาดบริสุทธิ์ก็เท่านั้น ไม่ใช่ไม่กลัวไอพลังประหลาด จับโยนเข้าไปในพื้นที่ต้องห้ามก็ถูกกัดกินเหมือนกัน

แต่คนข้างหน้าคนนี้ หลอมผสานไอพลังประหลาด ทั้งยังหายไปหมด เหมือนว่ามันกลับเป็นฝ่ายถูกกัดกิน

ในขณะเดียวกัน พิษศพที่เผ่าสิงซากสมุทรของพวกเขาภาคภูมิใจก็ไม่มีผลใดๆ กับคนคนนี้เช่นกัน เหมือนว่าอีกฝ่ายไม่กลัวเลย กลับเป็นการโจมตีด้วยพิษของอีกฝ่ายที่ทำให้ตัวเองตอนนี้จิตใจยังต้องสั่นไหว

ส่วนกายเนื้อ เผ่าสิงซากสมุทรเนื่องจากไม่กลัวความเจ็บปวด ดังนั้นกายเนื้อล้วนแข็งแกร่ง แต่อีกฝ่าย…เหมือนจะแข็งแกร่งยิ่งกว่า

แล้วยังมีพลังฟื้นฟู เผ่าสิงซากสมุทรเนื่องจากความพิเศษของตัวเอง จึงมักจะมีพลังฟื้นฟูที่เหนือกว่าผู้บำเพ็ญต่างเผ่าเป็นอย่างมาก เพียงแต่…ตอนนี้มันรู้สึกว่า จุดนี้ตัวเองก็เหมือนจะสู้อีกฝ่ายไม่ได้เหมือนกัน

‘นี่มันตัวประหลาดอะไร!’

ประกายแสงสีแดงในตาของผู้บำเพ็ญเผ่าสิงสมุทรตนนี้ฉายแสงเข้มขึ้น กำลังจะถอยไป แต่สวี่ชิงประชิดเข้ามาแล้ว ในขณะที่กริชตวัดฉวัดเฉวียน ไม่นานพื้นดินก็เจิ่งนองไปด้วยเลือดสีน้ำเงินอีกครั้ง

บทที่ 119 เหนือกว่าพื้นที่ต้องห้าม 1

บทที่ 119 เหนือกว่าพื้นที่ต้องห้าม 2

Verify captcha to read the content.ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผู้กล้าเหนือกาลเวลา