บทที่ 174 ได้โอกาสก็ลงมือ!
สวี่ชิงไม่ลังเลใดๆ ทั้งสิ้น เก็บเรือเวทลงไป เปิดสภาวะแสงนภาทันที ตะเกียงแห่งชีวิตลุกไหม้ดุจภูเขาไฟปะทุ สำแดงความเร็วที่น่าตื่นตะลึงออกมา พุุ่งไปทางเนตรเงาอย่างรวดเร็ว!
อสูรทะเลที่เนตรเงาไปเกาะอยู่คือปลาแสงจันทร์ตัวหนึ่ง
ปลาชนิดนี้ปกติแล้วมีขนาดหลายสิบจั้ง ส่วนหัวมีขนาดใหญ่มากกินพื้นที่ร่างกายเกือบจะเก้าส่วน ครีบเล็กๆ และหางสั้นๆ อีกทั้งปากที่ไม่สามารถหุบได้ตลอดกาลปากนั้น ทำให้มันดูแล้วค่อนข้างน่ารักอย่างโง่ๆ
ความเร็วก็ไม่เร็วมากนัก ชอบแสงมาก ไม่ว่าจะเป็นแสงอาทิตย์หรือแสงจันทร์ล้วนเป็นสิ่งที่มันโปรดปราน ดังนั้นทั้งๆ ที่มีความสามารถในการดำอยู่ใต้ทะเล แต่กลับชอบปรากฏตัวบนผิวน้ำ ลอยอยู่ตรงนั้นเหมือนปลาตาย
และปลาแสงจันทร์ชนิดนี้อยู่ในทะเลต้องห้ามก็แปลกประหลาดมาก เมื่อมันปรากฏขึ้น รอบๆ ตัวมันก็จะต้องมีอสูรทะเลที่ได้รับบาดเจ็บจากการฆ่าล้างกันเอง
อสูรทะเลพวกนี้ล้วนไม่ฆ่าปลาแสงจันทร์ แต่จะใช้มันเป็นเหมือนผ้าที่ลอยอยู่ ใช้มันถูไปมาบนตัว โดยเฉพาะบริเวณที่เป็นแผล ยิ่งถูมากเป็นพิเศษ
บันทึกท้องสมุทรของสำนักเจ็ดเนตรโลหิตมีอธิบายเกี่ยวกับเรื่องนี้
ว่ากันว่าตัวของปลาแสงจันทร์ประเภทนี้มีเมือกเหนียวน่าอัศจรรย์บางอย่าง เมือกเหล่านี้มีสรรพคุณในการรักษาระดับหนึ่ง ดังนั้นจึงทำให้สิ่งมีชีวิตประเภทนี้มีที่ยืนในทะเลต้องห้าม
ตอนนี้ความเร็วของสวี่ชิงปะทุโดยสมบูรณ์ บินถึงหนึ่งชั่วยามเต็มๆ ในที่สุดเขาก็เห็นวิญญาณของผีร้ายที่ลอยเป็นกลุ่มสู่ท้องฟ้าไม่ขาดสายอยู่ลิบๆ ที่ปลายขอบฟ้าไกลจากตำแหน่งที่เจ้าเงาชี้นำ
เป็นขบวนร้อยอสูรแห่งรัตติกาลนั่นเอง
ขนาดของมันไม่ใหญ่มากประมาณพันกว่าจั้ง ค่อนข้างแตกต่างกับประสบการณ์ของสวี่ชิงเมื่อครั้งที่แล้ว เห็นได้ชัดว่าเหตุการณ์ประหลาดอย่างขบวนร้อยอสูรแห่งรัตติกาลนั้นไม่ตายตัว
นี่ทำให้สวี่ชิงพะว้าพะวงเล็กน้อย
เขาไม่รู้ว่าการวิเคราะห์ของตัวเองก่อนหน้านี้ถูกต้องหรือไม่ แต่หามานานขนาดนี้จะอย่างไรก็ต้องลองสักตั้ง ดังนั้นแล้วจึงสะบัดมือ เรือเวทปรากฏออกมา ตกลงสู่ผิวน้ำเสียงดังตูม ในขณะที่เกิดเป็นคลื่นซัดสาดกระเซ็น เจ้าเงาก็เก็บเนตรเงาของตัวเองกลับมา
ร่างของสวี่ชิงเหยียบขึ้นไปบนเรือเวทควบคุมให้มันเคลื่อนไปข้างหน้าอย่างช้าๆ เมื่อเข้าไปใกล้พื้นที่ขบวนร้อยภูติแห่งรัตติกาล เขาก็เงยหน้าจ้องมอง ข้างหูมีเสียงแปลกประหลาดดังมาเป็นระลอกๆ
เสียงพวกนี้ไม่ใช่เสียงทำนองเพลงอะไรเลย แต่เป็นคลื่นเสียงแสบแก้วหูที่เกิดจากเสียงกรีดร้องของผีร้าย ประดุจผีร่ำไห้หมาป่าหอนโหยหวนชวนให้คนหวาดผวานัก
เรือเวทของสวี่ชิงค่อยๆ หยุดในบริเวณขบวนร้อยอสูรแห่งรัตติกาล มือขวาของเขายกขึ้นหยิบเอาขวดจับเสียงออกมา เปิดจุกออก ยื่นไปข้างหน้า บรรจุพลังเวทในร่างถ่ายเข้าไป
ความสามารถในการขวดจับเสียงของขวดนี้ก็ค่อยๆ เริ่มขึ้นจากการปรากฏขึ้นของเส้นแสงที่เหมือนเส้นไหมเป็นเส้นๆ บนขวดจับเสียงค่อยๆ แผ่ลามไปช้าๆ
สวี่ชิงทำเรื่องพวกนี้เรียบร้อยก็เงยหน้ามองท้องฟ้ามืด มองผีร้ายเหี้ยมเกรียมเป็นกลุ่มๆ เหล่านี้ลอยสู่ท้องฟ้า ฟังเสียงแปลกประหลาดเป็นระลอกๆ เขานึกถึงความรู้สึกที่ได้เห็นขบวนร้อยอสูรแห่งรัตติกาลครั้งแรกในวันนั้น ดังนั้นแล้วจึงควบคุมจิตใจของตัวเองให้สงบนิ่ง จิตใจค่อยๆ สงบลง
ไม่ไปต่อต้านเสียงกรีดร้องพวกนั้น แต่ยอมรับพวกมัน
หลอมรวมตัวเองเข้ากับเสียงเหล่านี้ จิตใจของเขาค่อยๆ ดำดิ่ง จนเมื่อเวลาไหลไป เวลาหนึ่งคืนก็ผ่านไปโดยไม่รู้ตัวเลย 艾琳小說
ยามเมื่อเช้าตรู่ของวันที่สองมาถึง ยามรุ่งอรุณมาพร้อมกับลมทะเลพัดต้องขนตาของเขา และมาเคาะประตู สวี่ชิงลืมตาขึ้นช้าๆ ในจุดลึกของดวงตาซ่อนความเศร้าโศกเอาไว้ แต่ไม่นานก็ถูกเขาซ่อนเอาไว้ใต้ก้นบึ้งหัวใจ
ท้องฟ้าสว่างแจ่มใส
ขบวนร้อยภูตแห่งรัตติกาลจบลงแล้ว
“คืนนี้ผ่านไปเร็วนัก” สวี่ชิงพึมพำ นึกย้อนถึงสิ่งที่ได้ยินทั้งคืน ในเสี้ยวพริบตาที่จิตใจของเขาดำดิ่งโดยสมบูรณ์เมื่อก่อนหน้านี้ ในที่สุดก็ได้ยินเสียงที่แตกต่างออกไป
ตอนนี้นึกย้อน เขาบอกไม่ถูกว่านั่นคือท่วงทำนองอะไร
สวี่ชิงรู้สึกเหมือนเป็นความฝันมากกว่า เพียงแต่ครั้งนี้ไม่ได้ฝันถึงการถ่ายทอดวิชาของปรมาจารย์ไป่ แต่ฝันถึงภาพฉากที่เขากินงูกับหัวหน้าเหลยในฐานที่มั่นคนเก็บกวาด…
นานหลังจากนั้นสวี่ชิงถึงได้ก้มลงมองขวดจับเสียง มือขวายกขึ้น ทันใดนั้นในขวดก็มีเสียงของเมื่อคืนนี้ดังออกมา เหมือนทุกประการ กระทั่งว่าเมื่อหลับตาลงในความรู้สึกก็เหมือนว่าขวบนร้อยภูตแห่งรัตติกาลยังคงดำเนินอยู่
สิ่งที่ทำให้สวี่ชิงรู้สึกซับซ้อนคือ เขามีความรู้สึกเหมือนฝันอีกแล้ว ข้างหน้าเหมือนมีภาพความทรงจำปรากฏขึ้นมาอีกครั้งอย่างเลือนราง ภาพครั้งนี้คือนอกฐานที่มั่นคนเก็บกวาด เขากำลังแบกหัวหน้าเหลยอยู่
กระทั่งว่าคำพูดของหัวหน้าเหลยในความทรงจำก็ผุดขึ้นมาในหัวของสวี่ชิงตอนนี้ ทำให้เขาเหม่อลอยอย่างอดไม่ได้
“หลังจากนี้ในฐานที่มั่นเจ้าต้องระวังคนเก็บกวาดพวกนั้นให้มาก
“ตอนกลางคืนอย่าลืมให้อาหารสุนัขพวกนั้น เจ้าพวกนี้ไว้ใจได้มากที่สุดในฐานที่มั่นแล้ว
“แล้วก็เจ้าต้องอย่าลืมกินข้าว อย่ากินกับข้าวเย็นๆ อย่าขี้เกียจ อุ่นให้ร้อนก่อนค่อยกิน…เจ้ากำลังโต จะละเลยไม่ได้
“ไม่เช่นนั้นนะ รอเมื่อเจ้าอายุมาก เจ้าได้ลำบากแน่ จริงสิ วันหลังอย่านอนบนกระดานเตียง ไม่ต้องกลัวว่าจะทำผ้าปูสกปรก ซักเสร็จแล้วอย่าลืมเอาไปตากตอนมีแดด


ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผู้กล้าเหนือกาลเวลา