บทที่ 176 วิหคทองหลอมหมื่นวิญญาณ
กางปีกหนึ่งครั้ง คือการระเบิดของการสืบทอดครั้งหนึ่ง!
ไม่รู้ว่าการสั่นไหวอย่างพลิกฟ้าพลิกแผ่นดินในใจสวี่ชิงผ่านไปนานเท่าไรแล้ว วิหคทองที่เขาเห็นอยู่เบื้องหน้า กางปีกครั้งที่สองที่เส้นขอบฟ้า
ครั้งนี้ ความเร็วของมันเพิ่มมากขึ้น คลื่นที่พัดโหมก็น่ากลัวยิ่งกว่าจนทำให้ฟ้าดินเปลี่ยนสี เมฆลมพัดม้วน หัวสมองสวี่ชิงส่งเสียงดังครืนครันอย่างรุนแรง
เขาไม่ทันรู้สึกตัวว่าที่จมูกมีเลือดไหลลงมาแล้ว และเสียงของขวดจับเสียงก็เริ่มอ่อนลงเช่นกัน ยักษ์ราชรถที่สนใจอยู่กับมัน ร่างกายก็สั่นไหวเล็กน้อย ราวกับว่ากำลังจะตื่นจากความเหม่อลอย
จนพริบตาต่อมา วิหคทองที่อยู่สูงขึ้นเรื่อยๆ บนท้องฟ้าสีทอง และ…กางปีกเป็นครั้งที่สามในประสาทสัมผัสของสวี่ชิง!
ครั้งนี้บนปีกสีดำของมันขนนกทุกเส้นล้วนเปล่งแสงเจิดจ้าแยงตา สำแดงออกมาอย่างหมดจด
ท้องฟ้าก็ราวกับถูกแบ่งแยกตามการกางปีก ขณะที่คลื่นพลังน่ากลัวขีดสุดแผ่ซ่านไปทั่วสารทิศอย่างบ้าคลั่ง ท้องฟ้าก็แบ่งแยกจริงๆ
ร่องแยกขนาดยักษ์ร่องหนึ่งปรากฏบนท้องฟ้า และเหมือนว่าเมฆหมอกในท้องฟ้าที่แตกระแหงก็ถูกแยกออกจนเผยโลกอีกด้าน สวี่ชิงมองเห็นเผ่าพันธุ์นับไม่ถ้วนในโลกนั้น รูปร่างก็แตกต่างกัน เวลานี้ต่างพากันเงยหน้าขึ้นฟ้าโห่ร้องตะโกน
และขณะที่พวกเขาแผดเสียงตะโกน เทพวิหคทองนี้ก็โน้มตัวพุ่งไป อ้าปากไปทางโลกผืนนั้น เปล่งเสียงคำรามสะท้อนก้องผ่านกาลเวลา
โลกผืนนั้นภายใต้เสียงคำรามนี้ก็ถูกเปลวไฟสีดำปกคลุม…ขณะที่สวี่ชิงถลึงตาอ้าปากจิตวิญญาณตกตะลึงอยู่ เพียงพริบตาก็เหมือนถูกหล่อหลอม เลือดนับไม่ถ้วนลอยขึ้นฟ้ารวมตัวเป็นสีทองตรงไปที่ปากของวิหคทองอย่างรวดเร็ว
มองไกลๆ เหมือนการดูดน้ำเข้าไปในปาก!
พริบตาต่อมา วิหคทองตนนั้นก็หันหัวมาฉับพลันขณะที่สวี่ชิงกำลังตกตะลึง
สองตาที่เปล่งประกายจ้าข้ามผ่านกาลเวลา จนทำให้กระแสเวลาไหลย้อนกลับ
ข้ามผ่านมิติ จนทำให้มิติแตกแยกเป็นทางใหญ่
ในที่สุดก็มองผ่านจากความโบราณกาลก่อนหน้า จากมิติไร้ที่สิ้นสุด มาที่ตัวสวี่ชิง
สวี่ชิงได้ยินเสียงที่อบอุ่นเสียงหนึ่งท่ามกลางเสียงครืนครันในหัวสมอง
“นี่คือวิชาของจักรพรรดิแห่งข้า วิหคทองหลอมหมื่นวิญญาณ”
พริบตาต่อมา ข้อมูลที่น่ากลัวขีดสุดก็หลั่งทะลักเข้ามาอย่างบ้าคลั่ง ทำให้สวี่ชิงราวกับเรือเล็กที่อยู่ท่ามกลางลมพายุในมหาสมุทร
มุมปาก ดวงตา จมูก หู ทั้งหมดของเขาล้วนมีเลือดสดไหลออกมา ขณะที่เลือดไหลออกมาจากทวารทั้งเจ็ด ภาพทั้งหมดเบื้องหน้าสวี่ชิงก็แตกสลายพังทลายลงในทันทีทำให้เขากลับมาจากสภาพเดิม และขณะเดียวกันเขาก็ได้ยินเสียงโอดครวญสั่นเทาของบรรพจารย์สำนักวัชระอีกด้วย
“นายท่านรีบตื่นเร็ว เจ้ายักษ์นั่น…มันจะตื่นแล้ว!!”
“จบกันจบกัน นายท่าน รีบตื่นเร็วเข้า!!!”
ขวดจับเสียงด้านหน้าราชรถสัมฤทธิ์หยุดส่งเสียงออกมาแล้วด้วยทนรับการจ้องมองจากยักษ์ไม่ไหว ปริแตกลั่นเปรี๊ยะกระจายออกมา
และยักษ์ตนนั้นเวลานี้อารมณ์ก็เริ่มผันผวน หน้าอกพองยุบราวกับพ่นลมหายใจออกมา รยางค์นับไม่ถ้วนก็ล้วนบิดงอ
ลมหายใจของมันมีพลังที่ยากจะพรรณนา ทำให้น้ำทะเลสลายหาย รยางค์ของมันก็น่าตกตะลึงเช่นกัน ระหว่างที่บิดงอก็เกิดรอยแยกที่ไม่รู้จักออกมาหลายทาง
ราวกับว่าเสียงในขวดจับเสียงกระตุ้นความทรงจำบางอย่างที่ขาดหายของมันออกมา มันจึงส่งเสียงฮือฮือในปากเหมือนร้องไห้ อารมณ์ปะทุขึ้นอย่างเห็นได้ชัด สองแขนโบกวาด คลื่นใต้น้ำโถมสูงขึ้นฟ้า
คลื่นใหญ่นับร้อยจั้งกระทั่งถึงพันจั้ง ระเบิดทะเลผืนนี้ มองไกลๆ ราวกับว่าผืนดินเกิดกำแพงน้ำทะเลโค้งขึ้นมาทีละสาย ยิ่งใหญ่อลังการและเผยความพรั่นพรึง
ขณะเดียวกันร่างของยักษ์ตนนี้ก็ค่อยๆ หมุนตัว หันหน้ากลับไปมองราชรถสัมฤทธิ์
ลมหายใจก็เปลี่ยนทิศทางด้วยจากการหมุนตัวของมันด้วย ทำให้น้ำทะเลเดือดพล่านสลายตัวไม่หยุด ทั้งๆ ชั่วขณะหนึ่งเป็นคลื่นใต้น้ำที่น่าตกตะลึงอยู่รอบด้าน ทว่ารอบข้างตัวมันกลับเป็นความว่างเปล่า
พริบตาที่สวี่ชิงลืมตาขึ้น ไม่เพียงแต่ได้ยินเสียงกรีดร้องของบรรพจารย์สำนักวัชระ แต่ยังมองเห็นยักษ์ร่างสูงใหญ่ด้านนอกราชรถสัมฤทธิ์อีกด้วย รูม่านตามืดสนิท
และพริบตาที่เผชิญหน้ากับมัน ลมหายใจของยักษ์ก็แผ่มาทางเขา
ราชรถสัมฤทธิ์ใช้วัสดุพิเศษ ลมหายใจจึงยากที่จะทำลายมันได้ แต่สวี่ชิงที่อยู่ด้านใน…เลือดเนื้อร่างกายของสวี่ชิงไม่สามารถทนรับได้เลย พริบตาต่อมาความเจ็บปวดที่ยากจะพรรณาก็ระเบิดขึ้นทั่วร่าง
ใบหน้า หน้าอก ท้องรวมถึงอวัยวะด้านหน้าของเขาทั้งหมดเลือดเนื้อเหวอะหวะทันที สองมือสองขาด้านหน้าก็เช่นกัน เลือดเนื้อถูกกำจัดทิ้งภายใต้ลมหายใจนี้อย่างรวดเร็วมิอาจต้านทานได้
จู่ๆ ร่มใหญ่สีดำคันหนึ่งก็ปรากฏขึ้นขวางเบื้องหน้าของสวี่ชิงในช่วงวิกฤต ปะทะเข้ากับลมหายใจ
ขณะที่ร่มดำสั่นสะเทือนเข้าต้านทานสุดกำลัง สวี่ชิงก็ชูมือขวาที่เหลือเศษเลือดเนื้อเชื่อมกับกระดูกอยู่ขึ้นอย่างสั่นเทา ล้วงเอายันต์ส่งข้ามไร้ขั้นตอนออกมา บีบมันจนแตก!
ยันต์ส่งข้ามไร้ขั้นตอนที่แตกก็ระเบิดแสงส่งข้ามเจิดจ้าออกมาปกคลุมตัวสวี่ชิงรวมไปถึงร่มดำด้วยในครู่ต่อมา เสียงครืนดังขึ้นทั้งหมดก็สลายไปในชั่วพริบตา!
ลมหายใจของยักษ์ไม่ถูกสกัดไว้จากการหายไปของตัวเขาและร่มดำ หลั่งไหลเข้าไปในราชรถสัมฤทธิ์ หลังจากที่พัดม้วนทะลักออกมา ยักษ์ก็มองไปยังราชรถสัมฤทธิ์ที่ว่างเปล่า เปล่งเสียงสะอื้นไห้รวดร้าวออกมาจากปาก
มันไม่สนใจว่าสวี่ชิงจะมาหรือจะไป มันมองราชรถสัมฤทธิ์ และด้วยคุณสมบัติของขวดจับเสียงก็ไปสะกิดอารมณ์ของมันอย่างชัดเจน จนคิดถึงเจ้านายที่มันเคยอยู่เคียงข้าง
เสียงสะอื้นไห้ สะท้อนก้องไปทั้งฟ้าดิน
ในที่สุดยักษ์ตนนี้ก็คุกเข่าลงเบื้องหน้าราชรถสัมฤทธิ์



ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผู้กล้าเหนือกาลเวลา