เข้าสู่ระบบผ่าน

ผู้กล้าเหนือกาลเวลา นิยาย บท 198

บทที่ 198 อย่ามาแย่งความผิดกับข้า!

จวบจนจากไปไกล มาถึงสถานที่ที่ไม่มีผู้คน อู๋เจี้ยนอูสั่นเทิ้มไปทั้งร่าง หน้าซีดขาว ดวงตาฉายแววตื่นกลัว หน้าผากเต็มไปด้วยเหงื่อ ถอนหายใจยาวออกมา

“เกิดอะไรขึ้น ไฟชีวิตสองดวง!! เจ้าดาวพิฆาตดวงนี้เมื่อก่อนก็เก่งกาจปานนั้นแล้ว ตอนนี้เป็นระดับไฟชีวิตสองดวงแล้ว นี่หากอยู่ข้างนอกเขาจะต้องฆ่าข้าอย่างแน่นอน!!”

ในขณะเดียวกับที่จิตใจสั่นสะท้าน อู๋เจี้ยนอูก็หายใจเข้าไม่หยุด เขารู้สึกว่าในช่วงหลายๆ เดือนต่อจากนี้ตนจะไม่ออกจากสำนัก

“ดีที่ข้าหัวไว วันนี้ข้าให้หน้าเขาขนาดนี้ ทั้งยังจ่ายหินวิญญาณค่าปรับให้เขา หากเขาเป็นคนที่มีเหตุผล ครั้งหน้าน่าจะไม่ยึดติดจะฆ่าข้าแล้วกระมัง”

“ปวดหัว…ไม่ได้ ไม่ถึงระดับไฟชีวิตสองดวง ข้าจะไม่ออกมาแม้แต่นอกถ้ำแล้ว!”

นอกหอตระหนักฝัน ท่ามกลางม่านฝน สวี่ชิงสีหน้าแปลกประหลาด

เจ้าใบ้อึ้ง สวีเสี่ยวฮุ่ยนิ่งงงงัน

หลิงเอ๋อร์กะพริบตาปริบๆ ท่าทางเหมือนสงสัยนิดๆ เถ้าแก่โรงเตี๊ยมบนถนนทองผุดที่อยู่ข้างๆ ตะลึงตาค้าง

พวกเขาอยู่ใกล้ๆ เมื่อครู่เห็นอยู่ชัดๆ ว่าทางสวี่ชิงยังไม่พูดอะไรแม้แต่ประโยคเดียว แค่ทำท่าจะลงมือ อู๋เจี้ยนอูคนนั้นก็เริ่มพูดเองคนเดียวอย่างแปลกประหลาด

อีกทั้งเมื่อรวมกับเสียงหัวเราะ รวมกับคำพูดคำจาเสียงดัง ก็เหมือนว่าสวี่ชิงส่งกระแสจิตอธิบายพูดคุยกับเขาจริงๆ อีกทั้งยังเชิญชวนเลี้ยงเหล้าเขาครั้งแล้วครั้งเล่า

เหตุการณ์ทั้งหมดสมจริงนัก น่ากลัวว่าคนนอกที่ไม่เห็นภาพฉากนี้ ได้ยินเพียงแค่เสียง จะต้องคิดว่าเป็นเรื่องจริง คิดว่าอู๋เจี้ยนอูคนนี้เคารพนับถือสวี่ชิงมาก ทั้งสองคนเป็นเหมือนสหายสนิท เคารพนับถือซึ่งกันและกัน

ในขณะเดียวกัน ในความเคารพนับถือนั้น เนื่องจากสวี่ชิงเชื้อเชิญหลายครั้ง ทว่าอู๋เจี้ยนอูไม่มีเวลาจริงๆ ดังนั้นเขาจึงจ่ายค่าปรับที่สวี่ชิงสังหารลูกศิษย์ล่างเขาให้แทนเพื่อเป็นมารยาท

“ทักษะการแสดงของเจี้ยนเจี้ยนน้อยไม่เลวเลย ขนาดข้ายังต้องตะลึง”

เสียงกร๊อบดังขึ้นทำลายความเงียบสงบในห้องส่วนตัว นายกองลุกจากเก้าอี้ กินผิงกั่วกลางเดินมาข้างหน้าต่าง กะพริบตาปริบๆ ให้สวี่ชิง

สวี่ชิงสายตากวาดมองแขนขาของนายกอง ดวงตาฉายแววอัศจรรย์

การฟื้นฟูของนายกองจะเร็วเกินไปแล้ว การงอกขึ้นมาใหม่ของแขนขาที่ขาดทำให้สวี่ชิงรู้สึกไม่เหมือนว่าเป็นเคล็ดวิชากับยาลูกกลอนที่ทำได้ เป็นเหมือนเคล็ดวิชาแปลกประหลาดบางอย่างมากกว่า

ในขณะเดียวกัน ทางงูยักษ์ทางนั้นก็ฉวยโอกาสที่เถ้าแก่โรงเตี๊ยมตะลึงงัน ร่างเพียงเลื้อยก็พุ่งออกมา เลื้อยมาตามหน้าต่างอย่างรวดเร็ว มุ่งตรงมาหาสวี่ชิง

สวี่ชิงดวงตาจ้องเพ่ง แต่หลังจากสังเกตเห็นดวงตาของงูยักษ์ตัวนี้ เขาก็รู้สึกคุ้นเคยนิดๆ เหมือนว่าเคยเห็นจากที่ใดมาก่อน อีกทั้งบนร่างของอีกฝ่ายไม่ใช่แค่ไม่มีจิตสังหารใดๆ ทั้งนั้น แต่ยิ่งเต็มไปด้วยความเบิกบาน

“ฟ่อๆ”

ท่ามกลางความดีใจ ตัวของงูยักษ์ก็หดเล็กลงอย่างรวดเร็ว สุดท้ายก็เปลี่ยนมาเพรียวบาง แล้วพันเข้ากับแขนของสวี่ชิง ทั้งตัวขาวราวหิมะ ดวงตาโต ทำท่าเหมือนน่ารักน่าชัง

“ฟ่อๆๆ”

“ฟ่อๆ”

เถ้าแก่โรงเตี๊ยมบนถนนทองผุดที่อยู่ข้างหน้าต่างเห็นภาพนี้ในใจกรีดร่ำไห้โหยหวน กำลังจะตำหนิ แต่เสี้ยวขณะต่อมาจากการที่สวี่ชิงเงยหน้า มองเขาอย่างเย็นชาแวบหนึ่ง

ตาแก่ฉุกคิดภาพที่ก่อนหน้านี้เกือบถูกสวี่ชิงฆ่าขึ้นได้ ในขณะเดียวกับที่ร่ำไห้ในใจ ความรู้สึกที่เห็นบุตรีที่ตนเองเลี้ยงมาจนเติบใหญ่นั้นเลือกคนรักแทนที่จะเลือกบิดา ทำให้เขาปวดใจนัก

“ไม่ได้ เรื่องนี้ข้าจะประนีประนอมไม่ได้ ไอ้เด็กแซ่สวี่นี่แค่เห็นก็รู้แล้วว่าไม่ใช่คนดี ไม่ใช่คู่ครองที่ดีของหลิงเอ๋อร์” ตาแก่เจ้าของโรงเตี๊ยมสูดลมหายใจลึก ความคิดในใจหมุนเร็วจี๋ รีบพูดขึ้นมาว่า

“ฟ่อๆๆ!”

เขาไม่กล้าพูดภาษามนุษย์ ตอนนี้พูดภาษาของหลิงเอ๋อร์ออกมา

เขาบอกหลิงเอ๋อร์ว่าหากอยากอยู่กับสวี่ชิงไปชั่วนิรันดร์ เช่นนั้นก็ต้องเปลี่ยนร่างถึงจะได้ และหากอยากเปลี่ยนร่างก็ต้องทะลวงระดับสร้างฐาน ดังนั้นตอนนี้ก็ต้องไปแล้ว

หลิงเอ๋อร์มองสวี่ชิงอย่างอาลัยอาวรณ์ ใช้หัวถูแขนของเขาเบาๆ คลายตัวออก เพียงไหววูบก็กลับมาหาตาแก่ ในดวงตาก็ยังคงฉายแววอาลัย

ตาแก่เจ้าของโรงเตี๊ยมโล่งอก แอบได้ใจ จากนั้นก็ทะยานตัว รีบเดินทางจากไป สวี่ชิงยังได้ยินเสียงฟ่อๆ ฟู่ๆ แว่วๆ มาจากที่ไกลๆ

“พอเถอะรองเจ้ากรมสวี่ ไม่ต้องมองแล้ว มาดื่มกับข้าเจ้ากรมคนนี้สักสามสี่จอก” ที่หน้าต่างของห้องส่วนตัว นายกองกวักมือเรียกสวี่ชิง

สวี่ชิงคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก็หันไปหาสวีเสี่ยวฮุ่ยแล้วพยักหน้า ส่งสัญญาณว่าอีกฝ่ายไปได้แล้ว

สวีเสี่ยวฮุ่ยกัดริมฝีปาก ในใจซาบซึ้งเป็นยิ่งนัก ท่ามกลางสายฝนนี้ นางคุกเข่าหมอบคารวะ หน้าผากแตะพื้นดิน หลังจากคารวะอย่างเต็มพิธีถึงจะลุกขึ้น เดินจากไปไกลอย่างโดดเดี่ยว

เจ้าใบ้ไม่ได้จากไป เขานั่งย่อตัวอยู่ข้างนอกหอตระหนักฝัน ซึ่งก็คือบริเวณที่ชายหนุ่มผอมแห้งคนนั้นตาย

สวี่ชิงก็ไม่ได้พูดอะไรมาก ร่างไหววูบก็เดินเข้าไปใกล้หน้าต่าง หลังจากก้าวเข้ามาในห้องส่วนตัวแล้วก็นั่งลง ครั้งที่แล้วที่อยู่กับจางซาน สวี่ชิงสังเกตเห็นว่านายกองท่าทางไม่ดี ดังนั้นเรื่องบางอย่างจึงไม่ได้พูดไป

ตอนนี้หลังจากนั่งลง สวี่ชิงก็มองไปทางนายกอง

“นายกอง จมูกของเทวรูปทำไมจึงระเบิด” สวี่ชิงถามอย่างจริงจังมากๆ

เขารู้สึกว่าคำถามนี้จำเป็นต้องถาม ไม่เช่นนั้นด้วยความช่างสังสัยของนายกองจะต้องไม่มีทางสงบจิตใจปล่อยวางเรื่องนี้อย่างแน่นอน ดังนั้นสวี่ชิงจึงคิดว่าตัวเองควรจะทำให้นายกองสบายใจ

“เจ้าไม่รู้หรือ” นายกองกินผิงกั่ว ยิ้มตาหยีมองสวี่ชิง กวาดสายตาประเมิน

สวี่ชิงอึ้งไปเล็กน้อย ส่ายหน้า

“พอได้แล้วรองเจ้ากรมของข้า ทักษะการแสดงของเจ้าข้าเป็นคนสอนเอง เรื่องจมูกเทวรูปเจ้ากับข้าล้วนรู้ดีว่าเพราะอะไร ข้าไม่เปิดโปงเจ้า”

นายกองกินผิงกั่วหมด ก็เอาสาลี่ออกมาลูกหนึ่ง กัดไปคำใหญ่

“ครั้งนี้ข้าเป็นแพะรับบาปเอง ใครใช้ให้ข้าเป็นผู้บังคับบัญชาของเจ้าเล่า ข้าก็ไม่เอาหินวิญญาณเจ้าแล้ว แต่ข้ามีเงื่อนไขสองข้อ”

นายกองพูดถึงตรงนี้ ในดวงตาก็ฉายความล้ำลึกออกมา ทำท่าเหมือนข้ามองเจ้าทะลุปรุโปร่ง ทำสีหน้าเคร่งขรึมขึ้น

สวี่ชิงขมวดคิ้ว สีหน้าค่อนข้างลังเล เหมือนว่าตัวเขาเองก็ไม่แน่ใจเช่นกัน

บทที่ 198 อย่ามาแย่งความผิดกับข้า! 1

บทที่ 198 อย่ามาแย่งความผิดกับข้า! 2

Verify captcha to read the content.ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผู้กล้าเหนือกาลเวลา