เข้าสู่ระบบผ่าน

ผู้กล้าเหนือกาลเวลา นิยาย บท 200

บทที่ 200 ผู้มาเยือนไม่เป็นมิตร

แรงกดดันนี้มีความเผด็จการวูบหนึ่ง แค่เพิ่งปรากฏก็กระพือคลื่นยักษ์ที่ท่าเรือ ทำให้คลื่นสีดำหอบม้วนอย่างรุนแรง กลายเป็นกำแพงน้ำกลางอากาศ ครืนครันเข้ามาทางประตูใหญ่นอกท่าเรือเจ็ดเนตรโลหิต

คลื่นนี้ขนาดค่อนข้างใหญ่มีพลังบ้าคลั่งแฝงอยู่ภายใน กระทั่งกระตุ้นค่ายกลใหญ่เจ็ดเนตรโลหิต ม่านแสงสีแดงสายหนึ่งจากแสงที่เปล่งออกในจุดที่ห่างจากเจ็ดเนตรโลหิตก็ปรากฏขึ้นฉับพลัน เข้าสกัดคลื่นน้ำ

เสียงครืนครันดังออกมาในระยะใกล้เช่นนี้ เพียงพอที่จะสั่นสะเทือนแก้วหูจนหูดับ ทำให้ผู้คนในท่าเรือที่หนึ่งร้อยเจ็ดสิบหกราวกับมีสายฟ้าอัสนีสะเทือนก้องที่ข้างหู

สวี่ชิงเลิกคิ้ว มือขวายกขึ้นโบก พลังเวทในร่างกายก็แผ่ซ่านปกคลุมกู้มู่ชิงและติงเสวี่ยไว้ด้านในฉับพลัน ตัดขาดจากเสียงครืนครันที่สามารถสั่นสะเทือนจิตวิญญาณนี้ไป

แต่ศิษย์เจ็ดเนตรโลหิตที่เหลืออีกสามสิบกว่าคนก็แย่หน่อย พวกเขาแต่ละคนกระอักเลือดสด พากันถอยหนี เสียงนี้สามารถทำอันตรายกับศิษย์ระดับลมปราณได้จริงๆ

สวี่ชิงหรี่ตาลง นายกองที่อยู่ข้างๆ ลูบคาง มององค์หญิงสองที่อยู่ข้างกาย

องค์หญิงสองก็ขมวดคิ้วเช่นกัน นางมองไปทางประตูใหญ่ของเจ็ดเนตรโลหิตไกลๆ เอ่ยขึ้นกะทันหันว่า

“นี่หมายความว่าอย่างไร”

“ไอ๊หยาพี่สาวอย่าเพิ่งโมโหนะ” จากเสียงองค์หญิงสองที่ดังออกมา ก็มีเสียงใสเสียงหนึ่งดังตอบกลับมาจากทางประตูใหญ่ของท่าเรือ

พริบตาต่อมาหนวดของปลาหมึกขนาดยักษ์เส้นหนึ่งก็โผล่พ้นผืนน้ำขึ้นมาจากใต้ทะเลด้านนอกประตูใหญ่ท่าเรือเจ็ดเนตรโลหิต

หนวดปลาหมึกเส้นนี้หนาหลายจั้ง ขนาดความยาวก็ยาวนับร้อยจั้ง ดูแล้วยิ่งใหญ่มาก เวลานี้ผ่านประตูใหญ่ท่าเรือเจ็ดเนตรโลหิตเข้ามาหยุดในอ่าว จากนั้นก็มีหนวดแบบเดียวกันค่อยๆ ยื่นออกมาจากน้ำทะเลเรื่อยๆ

พริบตาต่อมา หัวปลาหมึกที่ใหญ่โตยิ่งกว่าก็โผล่ขึ้นมาจากใต้ทะเล

ด้านบนหัวปลาหมึกตัวนี้มีตัวตนที่เหมือนจะเป็นเด็กสาวคนหนึ่งนั่งอยู่ สาเหตุที่ใช้คำว่าน่าจะ ก็เพราะชุดทะมัดทะแมงสีดำที่นางสวมอยู่ดูแล้วไม่ใช่การแต่งกายของเด็กสาวเลย กระทั่งเส้นผมก็ไม่ใช่ผมยาว แต่สั้นเอามากๆ

ทว่านางก็ดูอ้อนแอ้นบอบบางมาก ขณะพูดเวลานี้ ก็เข้าประชิดชายฝั่งท่าเรือที่หนึ่งร้อยเจ็ดสิบหกทันทีจากการที่ปลาหมึกขนาดยักษ์ตัวนั้นคลานออกมาจากใต้ทะเล

น้ำทะเลสีดำสาดลงมาบนพื้น บางส่วนสาดรดบนตัวศิษย์เจ็ดเนตรโลหิต กระทั่งเผ่าดาราสมุทรที่อยู่ข้างๆ เวลานี้คนในเผ่าส่วนใหญ่ตัวสั่นเทา พากันก้มหน้าลง

ร่างของปลาหมึกยักษ์ตัวนี้ แผ่กลิ่นอายระดับเดียวกับผู้อาวุโสแก่นลมปราณที่น่าตื่นตะลึงออกมา!

เนื่องจากอสูรทะเลที่สะพรึงเช่นนี้มีร่างกายที่ใหญ่โต พลังการต่อสู้จึงมักจะเหนือกว่ากว่าระดับของผู้บำเพ็ญ เวลานี้แรงกดดันบนตัวก็ยิ่งแผ่ความน่าสะพรึงออกไปรอบด้านอย่างเหิมเกริม

เมื่อเห็นภาพนี้ สวี่ชิงก็ถอยหลังหลายก้าวหลบน้ำทะเลที่สาดกระเซ็นมา เงยหน้ามองเด็กสาวชุดดำที่ยืนอยู่บนตัวปลาหมึกขนาดยักษ์อย่างเย็นชา

เด็กสาวคนนี้อายุประมาณสิบห้าสิบหกปี ใบหน้ารูปแตง ริมฝีปากบาง คิ้วและดวงตามีชีวิตชีวาค่อนข้างพริ้มเพรา

เมื่อร่างบางกระโจนลงมาจากที่สูง ก็วิ่งตรงไปหาองค์หญิงสองทันทีโดยไม่แม้แต่จะมองสวี่ชิงและนายกอง

“พี่สาว เรื่องนี้โทษข้าไม่ได้ ต้องโทษเจ้าเสี่ยวผี” พูดพลาง เด็กสาวก็ยกมือขวาโบกไปด้านหลัง ฉับพลันเข็มแหลมหลายเล่มก็ปรากฏออกมากลางอากาศรอบตัวนาง แผ่แสงคมกริบออกมาพร้อมกับพลังที่น่าตกตะลึงพุ่งไปทางปลาหมึก

เป้าหมายไม่ใช่ร่างกายที่มีเนื้อหนังหยาบหนาของมัน แต่เป็นดวงตา

พริบตาต่อมา ปลาหมึกตัวนี้สั่นเทิ้มไปทั้งร่าง ในดวงตาถูกแทงด้วยเข็มแหลมสีดำจำนวนมาก แต่มันกลับไม่กล้าหลบ ทั้งๆ ที่เจ็บปวดก็ไม่กล้าขัดขืน ปล่อยให้เลือดสีดำไหลออกมา

“พี่สาวไม่ต้องโมโหนะ ข้าช่วยตีมันให้แล้ว”

ภาพนี้ปรากฏอยู่ในสายตาสวี่ชิง เขาหดม่านตาลงเล็กน้อย ตอนที่กวาดสายตามองสาวน้อยชุดดำ ก้นบึ้งจิตใจเขาก็ปรากฏระลอกคลื่นขึ้นมา

สำหรับสวี่ชิง อีกฝ่ายแตกต่างกับคนทั้งหมดที่เขาเคยเจอมา ไม่ว่าจะนายกองหรือว่าผู้สืบทอดมรรคาเผ่าศพสิงซากสมุทร กระทั่งผู้อาวุโสสำนักและเจ้ายอดเขาก็ล้วนแตกต่างกับเด็กสาวคนนี้

อีกฝ่ายเหมือนจะดู…บริสุทธิ์กว่า!

ความบริสุทธิ์นี้ ทำให้สวี่ชิงเข้าใจสาเหตุในทันที และสาเหตุนี้ก็คือต้นกำเนิดระลอกคลื่นในก้นบึ้งจิตใจของเขา

‘นางไม่มีไอพลังประหลาด!’

นี่เป็นครั้งแรกที่เขาเห็นผู้บำเพ็ญที่ไม่มีไอพลังประหลาดนอกจากตนเอง ความบริสุทธิ์บนตัวอีกฝ่ายนั้นราวกับเทพธิดา กระทั่งทั้งร่างยังมองเห็นช่องเวทอีกหนึ่งร้อยกว่าช่องอยู่รางๆ กำลังเปล่งแสงออกมา

ไม่ถึงหนึ่งร้อยยี่สิบช่อง

สวี่ชิงกวาดตาดูและมั่นใจว่ามีหนึ่งร้อยสี่ช่อง เห็นได้ชัดว่าเด็กสาวคนนี้ปัจจุบันยังอยู่ในช่วงเปิดช่องเวท สุดท้ายจะต้องไปถึงหนึ่งร้อยยี่สิบช่องแน่นอน กระทั่งมากกว่านี้ก็ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้

ถึงอย่างไรสวี่ชิงตอนแรกก็เคยได้สัมผัสแล้ว ว่าหนึ่งร้อยยี่สิบ…ไม่ใช่ขีดจำกัด

“เหยียนเหยียน ที่นี่คือเจ็ดเนตรโลหิต เจ้า…” องค์หญิงสองขมวดคิ้ว เอ่ยขึ้นอย่างไม่พอใจ

“เอาล่ะๆ พี่สาวข้าผิดไปแล้ว” เด็กสาวชุดดำรีบเดินมาอยู่ข้างกายองค์หญิงสอง กอดแขนกำยำของนางไว้ เอ่ยด้วยเสียงออดอ้อน

ความสัมพันธ์ของนางกับองค์หญิงสองไม่ธรรมดาอย่างเห็นได้ชัด ตอนนี้องค์หญิงสองส่ายหัว มองไปทางนายกอง

“ศิษย์พี่ใหญ่…เหยียนเหยียนไม่ได้เจตนา”

นายกองยิ้มพิจารณาเด็กสาวเสื้อดำคนนั้นครู่หนึ่ง เด็กสาวคนนี้ก็มองนายกองอย่างประหลาดใจ จากนั้นจึงยิ้มบางๆ เผยลักยิ้มสองข้าง

“ดวงตาของเจ้าน่ารำคาญเสียจริง ถ้ายังมองข้าอีก ข้าจะให้เสี่ยวผีควักออกมาเสีย”

เมื่อนายกองได้ยินก็ตาเป็นประกาย พยายามถลึงตาโต ราวกับจะเผยให้เห็นว่าดวงตาของตนเองสวยเพียงใด จากนั้นก็ล้วงผิงกั่วออกมาใบหนึ่ง กัดไปหนึ่งคำ

“ไม่เป็นไร ข้าให้เจ้าเลยก็ได้ มาแลกกับน้ำยาบูรพาสงัดขวดหนึ่ง จะแลกหรือไม่”

เด็กสาวชุดดำเลิกคิ้วงาม

องค์หญิงสองรีบร้อนดึงเด็กสาวชุดดำที่อยู่ข้างๆ เด็กสาวแค่นเสียง สายตากวาดไปทางกลุ่มคน ท้ายสุดก็ไปหยุดอยู่บนตัวสวี่ชิง

เดิมทีก็แค่กวาดตามอง แต่พริบตาต่อมานางก็เห็นใบหน้าของสวี่ชิง

“พี่สาว คนคนนี้ใช่คนสำนักเดียวกับท่านใช่หรือไม่ ข้าอยากเอาใบหน้าของเขามาหลอมทำเป็นหน้ากาก ตอนใส่ออกไปด้านนอกต้องดูดีแน่ๆ”

บทที่ 200 ผู้มาเยือนไม่เป็นมิตร 1

Verify captcha to read the content.ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผู้กล้าเหนือกาลเวลา