เข้าสู่ระบบผ่าน

ผู้กล้าเหนือกาลเวลา นิยาย บท 250

บทที่ 250 การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของมณฑลรับเสด็จราชัน!

สิ่งที่ปรากฏข้างหน้าสวี่ชิงคือทะเลสาบสีฟ้าขนาดมหึมา น้ำดูแล้วใสกระจ่าง เพียงแต่หากพิจารณาอย่างละเอียดแล้วก็จะเห็นว่าน้ำที่นี่เป็นน้ำแข็ง

รอบๆ ยังมีพืชพรรณหลากสีขึ้นอยู่จำนวนหนึ่ง ผสมปนเปไม่เป็นระเบียบ แม้แต่เพดานถ้ำที่ทะเลสาบแห่งนี้อยู่ก็เต็มไปด้วยตะไคร่น้ำ

ความชื้นที่นี่ก็สูงมาก

สวี่ชิงกวาดตามอง ไม่ว่าจะเป็นการสำรวจจากเนตรเงาก่อนหน้านี้หรือสัมผัสของเขาในตอนนี้ ล้วนไม่เจออันตราย ทว่าสวี่ชิงก็ยังคงระมัดระวังเช่นเคย เดินไปทางทะเลสาบ หลังจากเข้าใกล้ก็มองลงไป

ใต้น้ำที่อยู่ในสภาวะเป็นน้ำแข็ง มองเห็นก้นทะเลสาบได้อย่างชัดเจน หลังจากมองเพียงแวบเดียว สวี่ชิงก็เงียบนิ่ง

ที่ก้นทะเลสาบกองเต็มไปด้วยกระดูกและเศษหินนับไม่ถ้วน

กระดูกเหล่านี้มีทั้งผู้ชายมีทั้งผู้หญิง แน่นขนัดกลบทุกที่ที่สายตากวาดเห็น เหมือนว่าเมื่อหลายพันปีก่อน ที่นี่พบเจอกับโศกนาฏกรรม

“ที่นี่เป็นที่ที่ข้าหาเจอโดยบังเอิญ มาอยู่หลายครั้ง ไม่เคยเจออันตราย กระดูกที่ก้นทะเลสาบก็ไม่มีการเปลี่ยนแปลงแปลกประหลาดอะไร” อู๋เจี้ยนอูอยู่ข้างๆ ชะโงกหน้าไปกวาดตามองแวบหนึ่ง กลัวสวี่ชิงจะเข้าใจความปรารถนาดีของตัวเองผิด รีบร้อนอธิบาย

สวี่ชิงพยักหน้า หลังจากตรวจสอบอย่างละเอียดแล้วเขาพบว่าคุณภาพน้ำที่อยู่ในสภาวะน้ำแข็งของที่นี่มีความแตกต่างจากวุ้นเซียนที่บันทึกเอาไว้ในตำรายาของปรมาจารย์ไป่เล็กน้อย

มีกลิ่นหอมเพิ่มขึ้นมา

โดยเฉพาะที่ข้างทะเลสาบ กลิ่นหอมที่มาจากน้ำทะเลสาบคลุ้งไปทั่วอาณาบริเวณ เมื่อกลิ่นเข้ามาในปากในคอก็หวานเอียน ตอนได้กลิ่นทีแรกก็พอทำเนา แต่เมื่อได้กลิ่นนานไปก็จะเกิดความรู้สึกอยากจะอาเจียนจนถึงขีดสุด

นี่ไม่ตรงกับคำบรรยายของวุ้นเซียน

แต่สวี่ชิงเดาว่าก่อนที่จะเจอกับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่นี่เมื่อหลายพันปีก่อนคงจะเป็นหนองน้ำที่ไอเซียนลอยอวลแห่งหนึ่ง

น้ำของที่นี่เป็นไปได้อย่างมากว่าแปรเปลี่ยนมาจากไอเซียนตามที่ในตำรายากล่าวไว้ เพียงแต่ภายหลังประสบกับการเปลี่ยนแปลงที่ไม่สามารถคาดเดาได้ จึงเกิดเป็นวัตถุที่คล้ายวุ้นเซียนแต่ก็ไม่เหมือน

นับว่าเป็นวุ้นเซียนที่คุณสมบัติเปลี่ยนไปอย่างหนึ่ง

ประโยชน์ที่แท้จริงคืออะไรสวี่ชิงยังไม่รู้ แต่เขารู้สึกว่าสิ่งนี้น่าจะมีคุณค่าในการศึกษาค้นคว้าไม่น้อยเลย

ดังนั้นจึงดึงสายตากลับมา กำลังจะเก็บไปอีกสักหน่อย

แต่ตอนนี้เอง สวี่ชิงก็ร้องเอ๊ะออกมาเบาๆ มองไปที่ก้นทะเลสาบอย่างละเอียด

ไฟชีวิตในร่างในเสี้ยวขณะนี้ลุกไหม้รุนแรงยิ่งขึ้น พลังบำเพ็ญทั้งหมดปะทุออกมา เกิดเป็นพายุทะเลเพลิง

อู๋เจี้ยนอูที่อยู่ข้างๆ เบิกตากว้าง ถูกพลังสวี่ชิงหอบม้วนผลักออกไป แต่กลับไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น

“เกิดอะไรขึ้น!”

อู๋เจี้ยนอูกำลังจะอ้าปาก สวี่ชิงก็รวมพลังไฟชีวิตไว้ที่ดวงตาทั้งสองข้าง ทำให้ตาของเขาเองในตอนนี้ยิ่งกว่าดวงดารา แผ่แสงแวววาวพร่างพราวออกมา จับจ้องไปบริเวณก้นทะเลสาบ

ตรงนั้น ในกระดูกและเศษหินมากมาย มีก้อนหินใหญ่ก้อนหนึ่งที่สวี่ชิงรู้สึกคุ้นเคยบางอย่าง

“เจ้ามองอะไรอยู่หรือ ในนั้นมีของดีอะไรอย่างนั้นหรือ น่าเสียดายที่น้ำในทะเลสาบนี่แปลกประหลาด ข้าไม่กล้าลงไป เคยคิดหาวิธีงมกระดูกใต้นั้นขึ้นมาเหมือนกัน แต่ว่าทำไม่ได้…” อู๋เจี้ยนอูสังเกตเห็นสายตาสวี่ชิงก็รีบพูดขึ้นมา

แต่ไม่รอให้เขาได้พูดจบ บริเวณที่สวี่ชิงจับจ้อง ก้อนหินก้อนใหญ่ที่เขารู้สึกคุ้นเคยนิดๆ ก็เหมือนถูกมือมหึมาไร้รูปร่างข้างหนึ่งคว้าเอาไว้แล้วขยับทันที กระชากมาข้างนอก ค่อยๆ ทะลุผ่านผืนน้ำ จนกระทั่งถูกลากออกมาลอยอยู่ข้างหน้าสวี่ชิง

ภาพนี้ทำให้อู๋เจี้ยนอูเห็นแล้วต้องสูดลมหายใจลึก

สวี่ชิงเงยหน้าสำรวจก้อนหินก้อนใหญ่นี้อย่างละเอียด หลังจากนั้นครู่หนึ่งเขาก็หาต้นเหตุของความคุ้นเคยเจอ

นั่นคือกลิ่นอายของดาบสะบั้นไพศาล

ก้อนหินก้อนนี้แฝงไว้ด้วยท่วงทำนองเทพของดาบสะบั้นไพศาล

นี่ทำให้สวี่ชิงรู้สึกแปลกประหลาดอัศจรรย์นัก จึงเก็บมันเอาไว้

เจ้าเงากลับมาอย่างเงียบเชียบ เมื่อครู่เป็นมันที่ไปเอาก้อนหินก้อนใหญ่ออกมา

ในขณะเดียวกันนี้ จากการที่ก้อนหินใหญ่ถูกเอาออกมา บริเวณที่มันตั้งอยู่เมื่อก่อนหน้านี้ก็เผยให้เห็นป้ายหินทรุดโทรมที่แต่เดิมถูกซ่อนเอาไว้ข้างล่าง

ในขณะที่น้ำรอบๆ เกิดระลอกคลื่นช้าๆ โคลนบนป้ายหินก็ไหลไปบริเวณขอบ เผยให้เห็นร่องรอยของตัวอักษรบางตัวและรูปภาพ

สวี่ชิงมองไปทันที

“สระชำระเซียนรัฐม่วงครามหรือ” อู๋เจี้ยนอูที่อยู่ข้างๆ ก็สังเกตเห็นเช่นกัน มองเห็นรอยตัวอักษรชัดเจน ร้องออกมาอย่างตกใจ

สวี่ชิงก็ตกใจเช่นกัน หลังจากสำรวจอย่างละเอียด สังเกตเห็นรูปภาพบนป้ายหินคล้ายกับแผนที่ของทวีปปักษาสวรรค์ทักษิณภาพหนึ่ง

บนนั้นระบุตำแหน่งที่ตั้งของเมืองหลวงรัฐม่วงคราม เป็นผืนอินทนิลในปัจจุบันนี้นั่นเอง ขณะเดียวกันก็ระบุตำแหน่งของสระชำระเซียนแห่งนี้ ข้างๆ ยังมีการระบุตำแหน่งอีกแห่งหนึ่ง เขียนไว้ว่าจวนรัชทายาท

ดูจากตำแหน่งของมันแล้วเป็นศาลเจ้าไพศาลอนันต์ที่สวี่ชิงคิดจะไปเมื่อก่อนหน้านี้นั่นเอง

สวี่ชิงจับจ้องน้ำในทะเลสาบ ที่มาที่ไปของที่นี่กระจ่างแล้ว ในขณะเดียวกันชื่อของรัฐม่วงครามชื่อนี้ก็ลอยเข้ามาในความทรงจำของเขาอีกครั้งหนึ่ง

เขาได้ยินรัฐม่วงครามครั้งแรกคือในตอนที่อยู่ในผืนอินทนิล เมืองหลวงของรัฐม่วงครามเมื่อในอดีต เฉินเฟยหยวนเล่าให้ฟังถึงเรื่องของแปดตระกูล

ตอนนั้นเขาถึงได้รู้ว่าที่แท้เมื่อนานแสนนานมาแล้ว ในทวีปปักษาสวรรค์ทักษิณเคยมีรัฐที่มีสายเลือดแปลกประหลาดอัศจรรย์รัฐหนึ่งด้วย

“มีชีวิตอยู่ด้วยกันกับของวิเศษเวท…”

สวี่ชิงนึกถึงความรู้สึกที่เขารู้สึกต่อเฉินเฟยหยวนในตอนนั้น ทั้งๆ ที่อ่อนแอมาก แต่ก็กลับแข็งแกร่งมากเช่นกัน

นานกว่าสวี่ชิงจะถอนสายตากลับมา เก็บวุ้นเซียนที่คุณสมบัติเปลี่ยนแปลงไปของที่นี่ไปอีกนิด ไม่ได้รั้งอยู่ที่นี่ หันหลังไปจากบริเวณทะเลสาบแห่งนี้

กลับมายังโลกภายนอก

ที่อู๋เจี้ยนอูมาส่งปากทางเข้ารอยแยกภูเขา ตอนนี้เขาถูฝ่ามือทั้งสองข้าง มองสวี่ชิงตาปริบๆ จะพูดอะไรแต่ก็หยุดเอาไว้

“ข้าไม่บอกคนอื่นหรอก เจ้าวางใจได้” สวี่ชิงมองอู๋เจี้ยนอูอย่างมีความหมายลึกซึ้งแวบหนึ่ง ร่างเพียงไหววูบก็แปลงเป็นรุ้งยาวผ่านไป

ทิ้งอู๋เจี้ยนอูเอาไว้คนเดียวอยู่ตรงนั้น ความกลัดกลุ้มเต็มใบหน้า พะว้าพะวังเป็นกังวล

จนกระทั่งหลังจากนั้นครู่หนึ่ง อู๋เจี้ยนอูก็กัดฟันตัดสินใจเด็ดเดี่ยว

‘สนใจอะไรมากไม่ได้แล้ว สวี่ชิงคนนี้แม้จะทำอะไรตามอำเภอใจ แต่ก็น่าจะเป็นคนที่รักษาสัญญา อย่างดี…ในช่วงนี้ข้าไม่กลับสำนัก ฟูกฟักเลี้ยงดูลูกชายสุดที่รักออกมาไม่ได้จะไม่มีวันเลิกราเด็ดขาด!’

เห็นได้ชัดว่าอู๋เจี้ยนอูถูกเรื่องที่เซิ่งอวิ๋นผู้ปราดเปรื่องกำราบยอดเขาลำดับหนึ่งกระตุ้น ตอนนี้ดวงตาแดงก่ำ หันหลังกลับไปที่ถ้ำหินของตัวเอง ดูแลอสูรร้ายท้องโตตัวนั้นต่อไป

ตอนนี้เป็นเวลากลางคืนแล้ว ดวงจันทร์กระจ่างลอยกลางฟ้า แดนต้องห้ามปักษาราชันภายใต้แสงจันทร์ ต้นไม้เหมือนแปรเปลี่ยนเป็นผีร้าย ในขณะที่ดูเหี้ยมเกรียมเป็นอย่างยิ่ง รอบๆ ก็มีเสียงร้องแปลกประหลาดและเสียงคำรามของสัตว์ดังมาเป็นระลอกๆ ดังก้องเป็นระยะ

เงาร่างของสวี่ชิงพุ่งผ่านไปในป่ามืดมิด ทะยานขึ้นลง รวดเร็วว่องไวเป็นอย่างยิ่ง

เรื่องของอู๋เจี้ยนอูเขาไม่ได้มีความคิดที่จะเอาไปป่าวประกาศข้างนอก

ในโลกโลกาวินาศใบนี้ทุกคนมีวิธีเอาตัวรอดของตัวเอง แม้อีกฝ่ายจะประหลาดนิดๆ แต่ก็ไม่ได้เป็นปฏิปักษ์กับตน ยิ่งไปกว่านั้นยังพาเขาไปหาวุ้นเซียน ดังนั้นสวี่ชิงก็คร้านจะสนใจ

เขาแค่รู้สึกว่า ฟ้าดินกว้างใหญ่ เรื่องประหลาดอะไรก็มีทั้งนั้น

‘แต่บางทีก็เป็นไปได้ว่าเรื่องนี้ซ่อนเป้าหมายบางอย่างของอู๋เจี้ยนอูเอาไว้’ สวี่ชิงส่ายหน้า เก็บความคิดลงไป ในราตรีมืดมิดก็หาโพรงต้นไม้แห่งหนึ่งเจอ ตรวจสอบรอบๆ แล้ววางค่ายกลป้องกัน นี่ถึงจะมุดเข้าไป

นอกจากเตรียมตัวพักค้างคืนแล้ว สวี่ชิงก็เอาวุ้นเซียนที่ได้ออกมา

Verify captcha to read the content.ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผู้กล้าเหนือกาลเวลา