บทที่ 273 ไม่มีแผ่นดินที่ดีงาม
เสร็จศึกนี้ ชื่อเสียงสวี่ชิงก็เลื่องระบือไปทั้งพันธมิตรแปดสำนัก สั่นสะเทือนสำนักน้อยใหญ่ทั้งหนึ่งร้อยสามสิบเจ็ดสำนัก
เซิ่งอวิ๋นผู้ปราดเปรื่องต่อสู้กับแก่นลมปราณวังสวรรค์ได้ ที่สะกดองค์ชายใหญ่ยอดเขาลำดับหนึ่งตอนนั้นไหว นั่นเพราะองค์ชายใหญ่เพิ่งทะลวงขั้นมา วังสวรรค์วังที่หนึ่งยังไม่ทันเสร็จสิ้นก็ออกจากด่านก่อนกำหนด
แต่สวี่ชิงตอนนี้แตกต่างอย่างสิ้นเชิง เขาจัดการสะกดแก่นลมปราณวังสวรรค์หนึ่งวังไปแล้ว
เรื่องนี้ ถ้ามองจากทั้งมณฑลรับเสด็จราชัน คนที่ทำได้มีอยู่น้อยถึงน้อยมาก
โดยเฉพาะ…สวี่ชิงที่ยังไปไม่ถึงปลายทาง เขาแค่เพิ่งจะจุดไฟชีวิตดวงที่สามเท่านั้น
สิ่งนี้ทำให้ท่าทีศิษย์พันธมิตรแปดสำนักที่ปฏิบัติกับสวี่ชิงก็ค่อยๆ เปลี่ยนไป แม้จะมีคนที่มีจิตอริ แต่ส่วนใหญ่ก็เริ่มเคารพศรัทธาขึ้นมาแล้ว และในบรรดาคนเหล่านี้…มีศิษย์หญิงมากที่สุด
ถึงอย่างไรหน้าตาของสวี่ชิงเป็นไม้ตายสังหารที่ก้าวข้ามพลังบำเพ็ญของเขาไปแล้วในสายตานายกอง
ทว่าโลกภายนอกจะเป็นเช่นไร สวี่ชิงก็ไม่ได้ออกจากที่พักอีกเลยหลังจากศึกนี้ ทั้งวันเอาแต่นั่งฝึกบำเพ็ญ ทำให้ตะเกียงแห่งชีวิตทั้งสองดวงของตนเองหลอมรวมได้ดียิ่งขึ้น
นอกจากนี้นายท่านเจ็ดยังบอกว่าศึกกับซือหม่าหรูก่อนหน้า เบื้องหลังที่แท้จริงคือการแลกเปลี่ยนครั้งหนึ่งของตระกูลซือหม่าและเจ็ดเนตรโลหิต
ขณะเดียวกัน หลังจากที่รายละเอียดการเข้าร่วมพันธมิตรของเจ็ดเนตรโลหิตเสร็จสิ้นสมบูรณ์ทั้งหมด การเลือกที่อยู่ก็เสร็จสิ้นแล้วด้วยเช่นกัน
นี่เป็นความลับ ต่อให้เป็นคนที่อยู่ในลำดับก็ยากที่จะล่วงรู้ ทั้งหมดขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของนายท่านเจ็ด
ดังนั้น…นายกองกับสวี่ชิงอีกทั้งองค์ชายสาม ย่อมล่วงรู้เป็นอันดับแรกสุด
และที่จริงการมามณฑลรับเสด็จราชันของสวี่ชิงครั้งนี้ยังมีอีกหนึ่งภารกิจ นั่นคือจางซานก็มากำชับอย่างตื่นเต้นก่อนหน้าที่เขาจะออกเดินทางว่า หากสวี่ชิงรู้ที่อยู่ใหม่ของสำนักแล้วให้รีบแจ้งเขาทันที นี่เกี่ยวข้องถึงผลประโยชน์มหาศาล
อย่างเช่นจุดพรมแดนเชื่อมต่อ อย่างเช่นที่ดินรอบๆ ที่อยู่ใหม่ กระทั่งที่ดินในที่อยู่ใหม่ด้วย จากคำพูดของจางซานแล้ว เรื่องนี้เป็นโอกาสที่หาได้ยากยิ่ง
จางซานคิดว่านายกองพึ่งพาไม่ได้อย่างชัดเจน จึงมากำชับกับสวี่ชิงย้ำๆ ให้เขาอย่าได้ลืมโดยเด็ดขาด
หลังจากที่สวี่ชิงรู้เรื่องนี้ก็แจ้งให้จางซานรู้ทันที ส่วนจางซานก็เป็นคนมีความสามารถ ใช้การส่งข้ามหลายครั้งอย่างไม่เสียดาย เมื่อมาถึงอย่างรวดเร็ว เขาเพียงทักทายสวี่ชิงกับนายกองเล็กน้อยก็เริ่มวุ่นกับธุระของเขา
ทุกอย่างวุ่นวาย ยังมีศิษย์พี่สามอีกคนที่เริ่มดำเนินการเงียบแล้ว
ต่อมาเหล่าองค์ชายองค์หญิงยอดเขาหลายคนที่รู้ข่าวก็เข้าใจถึงความสำคัญเรื่องนี้ ไม่ค่อยออกไปท้าดวล แต่ขบคิดวิธีที่จะหาเงินจากเรื่องนี้กันแทน
แน่นอนว่าปิดข่าวไม่มิดจึงแพร่กระจายไปในพันธมิตรเช่นนี้ ทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างงอกเงยขึ้นมาในบริเวณโดยรอบที่อยู่ที่เจ็ดเนตรโลหิตเลือกไว้อย่างรวดเร็ว
คนทุกสาขาอาชีพจากสำนักต่างๆ ในพันธมิตรก็เคลื่อนไหว ถึงอย่างไรจากการปรึกษาหารือ พันธมิตรจะรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการเคลื่อนย้ายครั้งนี้ทั้งหมดเพื่อแสดงความจริงใจ แน่นอนว่าทุกคนเข้าใจ จะหาผลประโยชน์ทั้งทีก็ไม่ควรน่าเกลียดนัก
เอาเท่าที่พอดี
ไม่เช่นนั้นหากมีการหารืออีกครั้ง มีการเปลี่ยนตำแหน่ง คนทั้งหมดที่ลงมือก็จะเสียหายหลายแสน
ส่วนพันธมิตรก็ไม่ได้ขี้เหนียว ถึงอย่างไรคนที่ได้รับผลประโยชน์ก็คือคนในอย่างพวกเขา สิ่งนี้ถือเป็นการแบ่งสรรปันส่วนของสำนักต่างๆ ไปโดยปริยาย จึงปล่อยให้ข่าวนี้เผยแพร่ไปหนึ่งวัน จากนั้นก็ปิดเมืองหลักสำหรับทำใบรับรองการแลกเปลี่ยนอสังหาริมทรัพย์
ถัดมา การส่งข้ามระลอกแรกของเจ็ดเนตรโลหิตก็เริ่มต้นขึ้น
ที่มาถึงกลุ่มแรกคือศิษย์ของยอดเขาลำดับหกกว่าครึ่ง เนื่องจากทวีปปักษาสวรรค์ทักษิณคือที่หลัก ไม่อาจละทิ้งได้ ย่อมต้องเหลือบางอย่างไว้ จึงมีเพียงศิษย์หกส่วนที่ติดตามนายท่านหกมา
ยังมียอดเขาลำดับหกที่มาด้วยกัน
พวกเขาจะมาสร้างเมืองขนาดใหญ่แห่งหนึ่งบนที่อยู่ใหม่ของสำนัก โครงการนี้ใหญ่โตมาก ไม่เพียงแต่ต้องการผู้บำเพ็ญมาดำเนินการใหสำเร็จ แต่ยังต้องการคนทั่วไปมาช่วยเหลือด้วย เช่นนี้จึงจะดำเนินการได้รวดเร็ว
ดังนั้นไม่นานการส่งข้ามระลอกสองและสามก็ค่อยๆ ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง มีศิษย์และคนทั่วไปของเจ็ดเนตรโลหิตจำนวนมาก ถูกส่งข้ามมาเข้าร่วมการก่อร่างสร้างเมืองแทบทุกวัน
ตำแหน่งที่เจ็ดเนตรโลหิตเลือก คือด้านหนึ่งของกิ่งก้านสาขาแม่น้ำบรรพกาลเร้นหมื่นเทพ เชื่อมกับพันธมิตรทั้งเจ็ดแห่งเดิมด้วยสะพานยักษ์ทั้งแปด และทุกสะพานยักษ์ก็สามารถให้รถม้าแล่นได้นับร้อยคัน
และอีกด้านหนึ่งเป็นที่รกร้าง มองออกไปยังเห็นเทือกเขาล้ำบารมีพ้นเคราะห์ภัยได้ด้วย
รูปร่างของเมืองนี้ก็ยืนยันแล้วเช่นกันว่าจะไม่ใช่สี่เหลี่ยมเหมือนในทวีปปักษาสวรรค์ทักษิณอีก
มองจากท้องฟ้าลงมา เป็นดวงตาขนาดยักษ์ดวงหนึ่ง
ด้านหนึ่งติดกับทะเลต้องห้าม อีกด้านหนึ่งเชื่อมกับเมืองพันธมิตรด้วยสะพานจนกลายเป็นหนึ่งเดียวกัน ยิ่งไปกว่านั้นยังเปิดทางน้ำสายเล็กจากแม่น้ำบรรพกาลเร้นหมื่นเทพ คดเคี้ยวผ่านเมืองของเจ็ดเนตรโลหิตแล้วไหลลงสู่มหาสมุทร
ตำแหน่งตาดำของดวงตานี้ คือตำแหน่งยอดเขาทั้งเจ็ดของเจ็ดเนตรโลหิตในอนาคต รอบด้านเป็นเมือง เขตท่าเรือยังคงถูกจัดการโดยยอดเขาลำดับเจ็ด
เนื่องจากการสร้างสำนักและการสร้างเมือง ช่วงนี้สวี่ชิงจึงยังไม่สามารถจมจ่อมอยู่กับการฝึกบำเพ็ญได้ ในฐานะองค์ชายของยอดเขาลำดับเจ็ด เขามีเรื่องมากมายที่ต้องไปเข้าร่วม
อย่างเช่นเวลานี้ เจ็ดเนตรโลหิตทำการส่งข้ามขนาดใหญ่ครั้งหนึ่ง ครั้งนี้จะให้ประชาชนปริมาณมหาศาลของเจ็ดเนตรโลหิตกับศิษย์อีกส่วนส่งข้ามมาทั้งหมดตามการสร้างแบบจำลองเมืองใหม่
แค่การตรวจสอบล่วงหน้าของค่ายกลก็ดำเนินการเกือบหนึ่งวัน จนถึงช่วงโพล้เพล้ถึงเสร็จสิ้น และศิษย์ยอดเขาอื่นที่มาจากเจ็ดเนตรโลหิตก็เหาะเหินเดินอากาศขึ้นไปตรวจสอบรอบด้านอย่างระมัดระวัง
การส่งข้ามครั้งนี้ มีคนธรรมดาอยู่มากมาย ในฐานะที่เป็นผู้ขับเคลื่อนเศรษฐกิจสำคัญในเจ็ดเนตรโลหิต พลังคุ้มครองคนธรรมดาของเจ็ดเนตรโลหิตจึงแข็งแกร่งมาก แม้แต่สวี่ชิงเองก็ยังถูกจัดให้ไปคอยคุ้มกันอยู่ด้านหนึ่ง
คนที่มากับเขายังมีนายกองกับศิษย์พี่สาม

ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผู้กล้าเหนือกาลเวลา