เข้าสู่ระบบผ่าน

ผู้กล้าเหนือกาลเวลา นิยาย บท 279

บทที่ 279 งดงามชวนหลงใหล

Ink Stone_Fantasy

เสียงของหญิงสาว ในความงดงามแฝงไว้ซึ่งความเย้ายวนหลายส่วน ในความอ่อนหวานแฝงไว้ด้วยความร้อนแรงหลายส่วน ฟังเผินๆ แล้วเหมือนนกขมิ้นบินออกมาจากหุบเขา ไพเราะดุจเสียงสกุณาขับขาน เสียงใสก้องกังวานแต่ก็อ่อนหวานจับใจ

เต็มไปด้วยความเย้ายวน

สวี่ชิงสั่นสะท้านไปทั่วร่าง หนังศีรษะชาหนึบ ทั้งตัวนิ่งไม่ขยับ

ปล่อยให้หญิงสาวที่อยู่ข้างหน้าเชยคาง ขณะเดียวกันก็เห็นเส้นแสงที่ไหลวนเป็นทางๆ มีร่องรอยหยอกเย้าในดวงตา

เขางงงันเล็กน้อย ที่มากกว่านั้นคือความตื่นตระหนกกดดันมหาศาล และรอบๆ ตอนนี้กลับฟุ้งตลบไปด้วยกลิ่นหอมแปลกประหลาด

นั่นเป็นกลิ่นกายของสตรีผู้นี้

กลิ่นหอมนี้ทำให้สวี่ชิงหัวใจเต้นเร็วขึ้นอย่างไม่เคยมีมาก่อน

ประสบการณ์เช่นนี้เขาไม่เคยสัมผัสมาก่อนในชาตินี้ เป็นครั้งแรกที่ได้พบเจอ

นั่นเป็นความรู้สึกที่ทั้งเป็นวิกฤตชีวิตเป็นตาย และเป็นความรู้สึกที่ไม่อาจแสดงออกมาได้อย่างชัดเจน เหมือนตัวเองกลายเป็นขนมของว่างรสชาติยอดเยี่ยม กำลังถูกคนอื่นลิ้มชิมรส

โดยเฉพาะพลังบำเพ็ญของอีกฝ่าย และสายตาประเมินตั้งแต่หัวจรดเท้าอย่างผู้ล่ามองเหยื่อเช่นนั้น ทำให้จิตใจสวี่ชิงเกิดคลื่นยักษ์ซัดโหม

นายกองที่อยู่ข้างๆ สูดลมหายใจ

“หวงอี้คุนไอ้เวรตะไลเอ๊ย ก็แค่ดัชนีโลกันต์ทมิฬไม่ใช่หรือไร มารดาเจ้าสิ เจ้าถึงกับเรียกบรรพจารย์ของตัวเองมาเชียวหรือ!!” หายกองหายใจถี่กระชั้น แต่คิดอีกทีหนึ่งเรื่องนี้ไม่ถูกต้อง ต่อให้หวงอี้คุนเป็นอัจฉริยะฟ้าประทาน แต่ก็ไม่มีทางที่จะให้บรรพจารย์ของตัวเองมาสร้างความลำบากให้เขาสองคน นอกเสียจากเขาจะเป็นเหมือนกับเซิ่งอวิ๋นผู้ปราดเปรื่องที่เป็นหลานของบรรพจารย์

แต่จากที่เขาเข้าใจ เห็นได้ชัดว่าไม่ใช่

เขาจึงสงบใจอย่างรวดเร็ว ประเมินหญิงสาวที่งามล้ำคนนั้นอย่างระมัดระวัง สังเกตท่าทางของอีกฝ่าย นึกย้อนไปถึงคำพูดของอีกฝ่ายเมื่อครู่ ดวงตาของเขาก็เบิกกว้างทันที การคาดเดาอันเหิมเกริมผุดขึ้นมาในหัวเขาอย่างรวดเร็ว ก่อนจะแปรเปลี่ยนเป็นสายอัสนีฟาดผ่าเปรี้ยงลงมา

“บ้าแล้วๆๆ!” นายกองหลับตาสนิท แกล้งทำเป็นไม่เห็น ในใจเกิดคลื่นยักษ์ซัดถาโถม

“ใบหน้าดวงนี้ของอาชิงน้อย…นี่คือจะสังหารให้สิ้นซากนี่นา!”

ในขณะเดียวกัน ที่ตีนเขา มีเงาสองร่างกำลังพุ่งมาอย่างรวดเร็ว ในนั้นคนหนึ่งคือหวงอี้คุน อีกคนหนึ่งหน้าตาคล้ายกับหวงอี้คุน แต่เห็นได้ชัดว่าเขาอายุมากกว่าเล็กน้อย

ทั้งสองคนประดุจดาวตก ห้อตะบึงมาทางนี้

“ท่านพี่ วันนี้ท่านต้องทวงความยุติธรรมคืนให้กับข้านะ พวกเขาทำเกินไปมากๆ หักนิ้วข้าไปห้านิ้ว เหี้ยมโหดเป็นอย่างยิ่ง ทั้งเทพทั้งมนุษย์ต่างโกรธแค้น เหี้ยมโหดน่าขนลุกจนถึงขีดสุด!!” หวงอี้คุนห้อตะบึงไปอย่างรวดเร็วพลางเอ่ยกัดฟันกรอดอยู่ข้างๆ

“น้องพี่จงวางใจ เรื่องนี้ข้าจะ…หืม”

คนที่อายุมากกว่าเขาข้างๆ นี้ก็คือหวงลิ่งเฟย พี่ชายของเขานั่นเอง พลังบำเพ็ญระดับแก่นลมปราณวังสวรรค์ ตอนนี้กำลังเข้าใกล้เป้าหมายเข้ามาเรื่อยๆ เขาเพิ่งพูดได้ครึ่งหนึ่ง ยังไม่ทันจะพูดจบ ดวงตาของหวงลิ่งเฟยพลันเบิกกว้าง

ฝีเท้าหยุดชะงักทันที มองภาพไกลๆ อย่างไม่อยากเชื่อ

สิ่งที่เห็นในดวงตาของเขาคือบรรพจารย์ของตัวเองเชยคางของสวี่ชิง คล้ายว่ากำลังหยอกเย้า

ส่วนองค์ชายใหญ่ของยอดเขาที่เจ็ดที่อยู่ข้างๆ ก็หลับตาไม่กล้ามองสวี่ชิงที่ถูกบรรพจารย์หยอกเย้า แต่ความตื่นตะลึงที่ฉายออกมาบนใบหน้าของเขาก็คือสิ่งที่ปรากฏขึ้นในใจของหวงลิ่งเฟยในตอนนี้

ภาพนี้ทำให้หวงลิ่งเฟยสูดลมหายใจ ส่วนหวงอี้คุนที่อยู่ข้างๆ กลับรู้ตัวค่อนข้างช้า ตอนนี้ยังคงคำรามเสียงต่ำ

“แล้วก็เจ้าสวี่ชิงนั่น ท่านพี่ต้องช่วยข้า…”

การมาถึงของพวกเขาดึงความสนใจของนายกอง เขาลืมตามอง ขณะเดียวกัน สาวงามล้ำที่เชยคางสวี่ชิงตอนนี้กวาดสายตาไปที่ร่างสวี่ชิง ก่อนจะปล่อยมือแล้วหันไปมองหวงลิ่งเฟยและหวงอี้คุนที่มาที่นี่

ปรายตามองไป ในใจหวงลิ่งเฟยมีสายฟ้าฟาดผ่าเปรี้ยง พลันหันไปตบศีรษะของหวงอี้คุน ทำให้หวงอี้คุนที่ยังคงอ้าปากพูดอยู่นั้นสลบไปในทันที

‘ช่วยบ้าอะไร!’ หวงลิ่งเฟยกรีดร้องคำรามเสียงต่ำในใจ แอบพูดในใจว่าน้องชายของตนคนนี้สมองมีปัญหา ทึบทึ่มมาโดยตลอด ไม่เช่นนั้นก่อนหน้านี้ก็คงไม่ถูกส่งให้ไปสำนักเจ็ดเนตรโลหิต

ต้องรู้ว่าคนอื่นๆ ไม่มีใครไปเลย

มีแค่เขาที่โง่เงาเบาปัญญาให้ไปก็ไป

ไปก็ช่างเถิด นิ้วหายก็หายไปเถิด ตอนนี้ยังเกือบพาตนมาตายด้วย

หวงลิ่งเฟยใจสั่นสะท้าน ไม่อาจลืมภาพที่เห็นเมื่อครู่ได้เลย ในใจก่นด่าสาปแช่งหวงอี้คุนไม่หยุด แอบพูดในใจว่าเจ้าหาเรื่องใครไม่หา ทำไมไปหาเรื่องคนที่บรรพจารย์หมายตาเล่า

“พวกเจ้าสองคนทำไมก็มาเหมือนกันเล่า” คนที่พูดคือหญิงสาวงามล้ำที่ยืนอยู่หน้าสวี่ชิง หันมองหวงลิ่งเฟย

หวงลิ่งเฟยหัวไว ไม่ลังเลแม้แต่น้อย จับหวงอี้คุนที่ถูกตนตบสลบเข้าไปใกล้อย่างรวดเร็ว โยนน้องชายลงบนพื้น ส่วนตัวเองก็คุกเข่า เอ่ยเสียงดังขึ้นว่า

“ท่านบรรพจารย์ วันนี้ศิษย์นัดสวี่ชิง…สหาย! เพราะน้องชายของข้าไม่รู้ความ ไปหาเรื่องสหายสวี่ วันนี้ข้าจึงพามาขอโทษ”

หวงลิ่งเฟยลนลานเป็นอย่างยิ่ง เมื่อครู่คำพูดของเขาชะงักไปเล็กน้อย ไม่รู้ว่าควรจะเรียกสวี่ชิงว่าศิษย์น้องหรือศิษย์พี่ดี จะอย่างไรก็ไม่ดีทั้งนั้น หากบรรพจารย์เข้าใจผิดจะทำอย่างไร แต่เขาหัวไว นึกคำว่าสหายได้อย่างรวดเร็ว

เมื่อพูดจบ เขายิ่งมองไปทางสวี่ชิง ใบหน้าเต็มไปด้วยความจริงใจ

“สหายสวี่ น้องชายของข้าคนนี้สมองไม่ค่อยดีนัก เป็นคนโง่เง่า”

หวงอี้คุนที่อยู่ข้างๆ ตอนนี้ก็ลืมตาขึ้นมาช้าๆ จากการถูกโยนเมื่อครู่นั่น แววตาฉายความงุนงง ได้ยินรอบๆ มีเสียงพูดของพี่ชายตัวเอง แต่ยังไม่ทันที่เขาจะได้สติโดยสมบูรณ์ หวงลิ่งเฟยก็ตบลงมาอีกครั้ง เขาสลบไปอีกแล้ว

“ขอสหายสวี่อย่าได้ถือสา” หน้าผากหวงลิ่งเฟยเต็มไปด้วยเหงื่อ พูดจบหัวใจก็เต้นระรัว ไม่กล้าลุกขึ้น

หญิงสาวงามล้ำที่ยืนหน้าสวี่ชิงคนนั้นได้ยินก็ยิ้มอีกครั้ง ไม่พูดอะไรทั้งนั้น เดินมาข้างหน้าก้าวหนึ่ง แล้วก้าวไปยังท้องฟ้า

ตอนนี้แสงจันทร์สาดส่อง ขับเน้นให้รูปร่างอรชรของนางเหมือนดอกจื่อหลัวหลานที่แย้มบานเต็มที่ แสงจันทร์ที่กระทบต้องบนผิวของนางเหมือนแปรเปลี่ยนเป็นผ้าโปร่งบาง

ทำให้หญิงสาวที่เดิมก็งดงามอย่างผู้ใหญ่อยู่แล้วฉายความงดงามเสน่ห์เลิศล้ำออกมา ยิ่งเมื่ออยู่กลางอากาศ ร่างของนางหยุดชะงักไปเล็กน้อย หันมานิดๆ มองไปยังพื้น หัวเราะเบาๆ เอ่ยขึ้นว่า

บทที่ 279 งดงามชวนหลงใหล 1

Verify captcha to read the content.ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผู้กล้าเหนือกาลเวลา