เข้าสู่ระบบผ่าน

ผู้กล้าเหนือกาลเวลา นิยาย บท 294

บทที่ 294 วิหคทองกลืนกินเมี่ยเหมิง

ถ้วยแตก

เม็ดบัวกระจายเต็มพื้น แทรกซึมไปตามหยกขาว และแทรกด้วยเสียงลมหายใจหอบถี่ ดวงตาที่แฝงด้วยความไม่อยากจะเชื่อ และจิตใจของจอมเซียนจื่อเสวียนที่หัวใจเต้นระรัวในตอนนี้

“เมื่อครู่ที่ข้าเห็นคือแสงอย่างนั้นหรือ”

จอมเซียนจื่อเสวียนกำลังจะดูให้แน่ใจ แต่แสงทางนั้นก็กะพริบหายวับไปแล้ว!

เขามรรคาทมิฬ แสงที่สาดออกมาจากประตูแตกต่างไปจากศึกที่ศาลเจ้าจวนรัชทายาทในทวีปปักษาสวรรค์ทักษิณตอนนั้นมาก

แสงในวันนั้นสาดส่องอยู่ตลอด อีกทั้งยังสร้างความร้อนแผดเผาน่าสะพรึง ทำให้ทั้งร่างของสวี่ชิงในแสงนั้นเหมือนจะถูกเผาจนหลอมละลาย กายได้รับบาดเจ็บสาหัส

หากไม่มีการฟื้นฟูจากผลึกวารีสีม่วงและการเพิ่มพลังกายเนื้อจากวิหคทอง การแผดเผาจากแสงในประตูเมื่อวันนั้นก็สามารถทำให้เขากลายเป็นเถ้าธุลีได้เลย

จะอย่างไรนี่ก็เป็นเศษเสี้ยวของวิเศษเวท ในขณะเดียวกับที่ส่องสะท้อนจิตใจภายในแล้วก็มีพลังสังหารในระดับหนึ่ง เพียงแต่เนื่องจากพลังประหลาดของมัน ดังนั้นพลังสังหารนี้จึงแตกต่างกันไป

แต่ครั้งนี้ไม่ได้เป็นเช่นนั้น

หลังจากผ่านการสังเวยบูชาครั้งที่สองโดยเซิ่งอวิ๋นผู้ปราดเปรื่อง แสงของประตูนี้ก็เปลี่ยนจากสาดส่องอยู่ตลอดแปรเปลี่ยนเป็นเสี้ยวพริบตา พลังไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป

แสงในประตูสาดออกมาเพียงชั่วพริบตาแล้วหายวับไปทันที

ปรากฏออกมาอย่างรวดเร็ว และหายไปอย่างว่องไว ทำให้คนรู้สึกเหมือนเป็นเพียงภาพมายา โดยเฉพาะเซิ่งอวิ๋นผู้ปราดเปรื่องอยู่ในหมอกดำที่ปล่อยออกมาจากความเย่อหยิ่ง ยิ่งทำให้การปรากฏขึ้นของแสงนี้ถูกบดบังในระดับสูงสุด

นอกเสียจากตั้งใจจับจ้อง ทั้งพลังบำเพ็ญยังต้องอยู่ในระดับสูงพอควร ไม่เช่นนั้นแล้วก็ไม่อาจเห็นรายละเอียดได้เลย

และพลังของมันก็ไม่ใช่แผดเผาอีกต่อไป แต่กลับแปรเปลี่ยนเป็น…ผนึกแช่แข็ง!

แสงที่เพียงฉายวาบก็หายวับไปนั่นเย็นเยียบเป็นอย่างยิ่ง เมื่อตกกระทบมาที่ร่างสวี่ชิงก็แปรเปลี่ยนเป็นพลังผนึกแช่แข็ง แล้วผนึกเขาเอาไว้อย่างรวดเร็ว

ในความรู้สึกของสวี่ชิง แสงที่สาดออกมาจากประตูบานนี้เหมือนพลังวิเศษเย็นเยียบที่ยากจะอธิบายและพรรณา ในเสี้ยวพริบตาที่กระทบมาที่ตัวเขา เขาก็ถูกแช่แข็งทั้งตัวอยู่ที่เดิมทันที

ร่าง วิญญาณเทพ และทุกสิ่งทุกอย่างถูกแช่แข็งผนึกอย่างรวดเร็วในพริบตา เหมือนว่าระดับขั้นชีวิตก็หยุดในเสี้ยวขณะนี้

แต่สิ่งที่แช่แข็งผนึกมีเพียงสวี่ชิงที่อยู่ในสภาวะไฟชีวิตสามดวงเท่านั้น

สวี่ชิงหรี่ตา กำลังจะจุดไฟชีวิตดวงที่สี่ของตัวเอง เขามั่นใจว่าหากจุดไฟชีวิตดวงที่สี่ เปลวเพลิงกำลังรบไฟชีวิตเจ็ดดวงขั้นสูงสุดของตัวเองปะทุสามารถทำให้เขาทำลายสภาวะที่ถูกแช่แข็งผนึกเช่นนี้ได้

เพียงแต่ตอนนี้ ไม่ทันที่สวี่ชิงจะได้จุดไฟ เขาก็พบความแปลกประหลาดของเงาตัวเอง

การผนึกแช่แข็งประเภทนี้มีผลต่อเจ้าเงาน้อยมาก

นี่สามารถเข้าใจได้ ในเมื่อตัวเจ้าเงาเองก็เย็นยะเยือกเป็นอย่างยิ่งเช่นกัน กินสิ่งประหลาดเป็นอาหาร

ความเย็นและการแช่แข็งผนึกต่อสวี่ชิงอาจจะเป็นแค่อุณหภูมิร่างกายปกติสำหรับเจ้าเงา อย่างมากก็แค่รู้สึกเย็นสบายเท่านั้น

ดังนั้นในเสี้ยวพริบตาที่ปรากฏขึ้น เจ้าเงาก็ดูดซับไปคำเล็กๆ ด้วยความตื่นเต้นยินดีอย่างอดไม่ได้ นี่ทำให้ร่างของสวี่ชิงไม่ได้ถูกแช่แข็งผนึกโดยสมบูรณ์

แม้ดูเหมือนยังถูกแช่แข็งผนึก แต่ความจริงแล้วเพียงแค่เสี้ยวความคิด เจ้าเงาเพียงแค่ดูดสุดกำลัง เขาก็จะฟื้นคืนกลับมาได้ทันที

แต่สวี่ชิงไม่ได้ออกคำสั่งกับเจ้าเงาในทันที เขาไม่ได้ขยับ

เพราะเขารู้ว่าโอกาสที่ตัวเองรอมาเนิ่นนานมาถึงแล้ว

“สวี่ชิง เจ้าก็มีวันนี้เหมือนกัน!” เซิ่งอวิ๋นผู้ปราดเปรื่องหัวเราะ ร่างไหววูบพุ่งตรงมาหาสวี่ชิง สีหน้าเผยความเหี้ยมโหดดุดัน ยิ่งมีความลิงโลดที่แปรเปลี่ยนมาจากความตื่นเต้นยินดีอันแรงกล้าฉายออกมา ไม่อาจปกปิดเอาไว้ได้แม้เพียงเล็กน้อย

นี่ก็คือแผนของเขา ความจริงการลงมือทุกอย่างก่อนหน้านี้ล้วนเพื่อหาโอกาสสำแดงประตูเจตจำนงแห่งนิรันดร์โดยไม่ให้คนอื่นสงสัย

ขณะเดียวกันเขาก็ป้องกันการเข้าขัดขวางของคนนอกจากการที่ตัวเองสำแดงวิชานี้อย่างฉับพลันด้วย อย่างไรเสีย คนที่ขัดขวางได้ไม่ได้มีแค่บรรพจารย์หลิงอวิ๋นเท่านั้น ทางเสี่ยเลี่ยนจื่อทางนั้นก็มีความสามารถนี้เหมือนกัน

ส่วนเซิ่งอวิ๋นผู้ปราดเปรื่องก็ไม่คิดว่าสำนักเจ็ดเนตรโลหิตจะทำตามกฎ ก็เหมือนที่สวี่ชิงไม่เชื่อว่าสำนักกระบี่เมฆาจรดฟ้าจะทำตามกฎ

ความจริงแล้วก็เป็นเช่นนี้แทบจะในพริบตาที่เซิ่งอวิ๋นผู้ปราดเปรื่องพุ่งไปหาสวี่ชิง บนท้องฟ้านอกภูเขามรรคาทมิฬ ใบหน้าที่เสี่ยเลี่ยนจื่อแปลงภาพมายามา ดวงตาก็ฉายวาบขึ้นมาอย่างยากจะสังเกตเห็น จากนั้นก็แปรเปลี่ยนเป็นเส้นเลือดมหาศาลพุ่งไปยังเขามรรคาทมิฬ

ท่าทีเช่นนี้คือท่าทีที่ไม่สนใจกฎเกณฑ์อะไรทั้งนั้น กฎเกณฑ์ทุกอย่างล้วนไม่สำคัญเท่าศิษย์หลานของตัวเอง

ท่ามกลางเสียงกรีดหวีดหวิวอย่างเร็วรี่ ใกล้จะประชิดเข้ามาแล้วเต็มที แต่เสี้ยวพริบตาต่อมา แสงกระบี่ก็ท่วมฟ้า กระบี่บินจำนวนนับไม่ถ้วนปรากฏขึ้นขวางอยู่ข้างหน้า แปรเปลี่ยนเป็นร่างของบรรพจารย์หลิงอวิ๋น

“เสี่ยเลี่ยนจื่อ กฎก็คือกฎ!”

เดิมทีบรรพจารย์หลิงอวิ๋นก็สงสัยว่าสวี่ชิงถูกแช่แข็งผนึกจริงหรือไม่ แต่เขาไม่มีเวลาให้สังเกตอย่างละเอียด เพราะเสี่ยเลี่ยนจื่อลงมือแล้ว

ดังนั้นเขาจึงทำได้เพียงแค่ขัดขวางเสี่ยเลี่ยนจื่อทันทีเท่านั้น ไม่ว่าจะอย่างไร เขาจะปล่อยให้เสี่ยเลี่ยนจื่อลงมือช่วยไม่ได้

เสี่ยเลี่ยนจื่อทำท่าโมโหเดือดดาล คิดจะพุ่งออกไป ดังนั้นบรรพจารย์หลิงอวิ๋นจึงขัดขวางสุดกำลัง

เสียงดังสนั่นหวั่นไหวสะท้อนก้อง ทั้งสองคนพลังบำเพ็ญใกล้เคียงกัน แม้บรรพจารย์หลิงอวิ๋นจะด้อยกว่าเล็กน้อย แต่ถ่วงเวลาสักชั่วขณะหนึ่งนั้นก็สามารถทำได้อยู่

ส่วนนายกองทางนั้นก็ตาแดงก่ำเช่นกัน คำรามออกมาคิดจะพุ่งออกไป แค่แสงกระบี่ทางหนึ่งกะพริบวูบ ผู้บำเพ็ญระดับแก่นลมปราณของสำนักกระบี่เมฆาจรดฟ้าเข้าทำการขัดขวางทันที

ขณะเดียวกัน ทางสำนักเจ็ดเนตรโลหิต นายท่านเจ็ดก้าวออกมาอย่างรวดเร็ว จะไปเข้าใกล้ไปยังเขามรรคาทมิฬ แต่ทางสำนักกระบี่เมฆาจรดฟ้า เงาร่างของเจ้าสำนักกระบี่เมฆาจรดฟ้าก็ปรากฏลงมาทันที ขวางนายท่านเจ็ดเอาไว้

ในช่วงเวลาเดียวกันนี้ การถูกขัดขวางเช่นนี้จากบรรพจารย์หลิงอวิ๋นและคนทั้งหลาย เซิ่งอวิ๋นผู้ปราดเปรื่องก็ประชิดมาข้างหน้าสวี่ชิง ฉวยโอกาสที่ตอนนี้เขาถูกผนึก ดวงตาของเซิ่งอวิ๋นฉายความละโมบออกมา เมี่ยเหมิงที่อยู่ข้างหลังปรากฏขึ้นทันที ท่ามกลางเสียงหัวเราะอันเหี้ยมเกรียมของเขาและเสียงร้องแปลกประหลาดของเมี่ยเหมิง ก็พุ่งเข้าไปใกล้สวี่ชิงทันที

บทที่ 294 วิหคทองกลืนกินเมี่ยเหมิง 1

บทที่ 294 วิหคทองกลืนกินเมี่ยเหมิง 2

Verify captcha to read the content.ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผู้กล้าเหนือกาลเวลา