เข้าสู่ระบบผ่าน

ผู้กล้าเหนือกาลเวลา นิยาย บท 317

บทที่ 317 สถานที่ต้องห้าม

เสียงขลุ่ยลอยล่อง

จากนั้นไม่กี่วัน พันธมิตรแปดสำนักก็ค่อยๆ สะท้อนเข้ามาในดวงตาสวี่ชิง

แสงโพล้เพล้สาดส่องพันธมิตรแปดสำนักที่บอบช้ำ แม้น้ำในแม่น้ำจะไม่ใช่สีดำสนิท กลับมาแผ่กลิ่นอายวิญญาณเซียนใหม่อีกครั้ง แต่รอยแผลบนผืนดินไม่ใช่สิ่งที่เวลาไม่กี่วันจะขจัดออกได้

มองไกลๆ สิ่งปลูกสร้างหลายแห่งที่กำลังซ่อมแซม เหมือนกับบาดแผลที่ค่อยๆ สมานตัวช้าๆ

กลิ่นอายประหลาดที่ลอยคละคลุ้งขึ้นฟ้าเป็นสาย ราวกับหยาดน้ำตาท้องนภา

ทั้งหมดนี้ กลายเป็นความเจ็บปวดที่ซ่านกำจายไปทั่วทั้งเมือง บรรยายหายนะในวันนั้นได้เป็นอย่างดี

แม้ไอพลังประหลาดจะน้อยลงกว่าตอนที่สายตาเทพเจ้าสาดส่องออกมาจากกล่องไม้วันก่อนพอสมควร แต่ก็ยังคงฟุ้งกระจาย ยังดีที่การโจมตีที่รุนแรงกะทันหันจะหยุดไปแล้ว เพียงแต่การบาดเจ็บทางจิตวิญญาณยังยากที่จะสลายไปในเวลาอันสั้น

หายนะนี้ ไม่เพียงแต่ส่งผลกระทบถึงเจ็ดเนตรโลหิต แต่เป็นทั่วทั้งพันธมิตรแปดสำนัก แม้จำนวนคนที่ตายจะไม่มาก แต่ผลกระทบมหาศาล

เรือเวทของสวี่ชิง ร่อนลงมาจากฟากฟ้า

มองทั้งหมดตรงหน้า มองกลุ่มคนที่ดวงตาไร้ซึ่งประกายเหล่านั้น เขาหลุบสายตาลง

จนหลังกลับมาถึงเจ็ดเนตรโลหิต เขาก็มองเห็นเหล่าองค์หญิงองค์ชายยอดเขาลำดับหกที่กำลังเศร้าโศก เห็นผู้บำเพ็ญยอดเขาต่างๆ ที่เงียบนิ่ง มองเห็นภูเขาที่ยุ่งเหยิงไปหมด

เห็นคนเหล่านี้ สวี่ชิงก็เงียบนิ่ง

เขาเดินเงียบๆ เข้าร่วมกับขบวนช่วยเหลือ

เวลาไหลผ่านไปช้าๆ เช่นนี้ เพียงพริบตาก็ผ่านไปสิบกว่าวัน

ตอนนี้ สวี่ชิงไม่เห็นเสี่ยเลี่ยนจื่อกับนายท่านเจ็ด เขาเห็นนายกอง เห็นศิษย์พี่หญิงสอง เห็นศิษย์พี่สาม ในสีหน้าของพวกเขาแฝงความซับซ้อนเอาไว้

โดยเฉพาะนายกอง เขารู้ความสัมพันธ์ระหว่างสวี่ชิงกับนายท่านหก ตบลงบนบ่าเขาเงียบๆ ถอนใจเบาๆ

สวี่ชิงยังคงเงียบนิ่ง

เมื่อผ่านการฟื้นฟูไปเดือนกว่า ไอพลังประหลาดในพันธมิตรแปดสำนักก็สลายไปแล้วแปดถึงเก้าส่วน ที่เหลือเหล่านั้นต้องใช้เวลาที่ยาวนานกว่านี้ถึงขจัดได้อย่างหมดจด

สำนักต่างๆ ที่ผ่านความเจ็บปวด จิตวิญญาณก็ฟื้นฟูกลับมาเช่นกัน และสำหรับการจัดการเรื่องครั้งนี้ พันธมิตรแปดสำนักก็มีบทสรุปร่วมกันออกมา

พันธมิตรแปดสำนักรายงานขึ้นไปที่โถงครองกระบี่ ขอให้โถงครองกระบี่ยกระดับความอันตรายของเทียนประทีปเพิ่มขึ้นไประดับแรกสุด และขอให้โถงครองกระบี่ลงมือ เพิ่มความเข้มงวดในการจับกุมเทียนประทีป

นอกจากนี้ พันธมิตรแปดสำนักก็ประกาศออกไปภายนอก นับจากนี้…จะไม่ตายไม่เลิกรากับเทียนประทีป

แม้จะประจักษ์ถึงความน่ากลัวของสายตาในกล่องไม้แล้ว แต่หากแม้แต้ความแค้นก็ยังไม่กล้าแสดงออกมา พันธมิตรแปดสำนักไม่จำเป็นต้องให้เทียนประทีปลงมือ แต่ภายในก็คงย่อยยับไปก่อนแล้วเรียบร้อย

เรื่องภายนอกทำเช่นนี้ ส่วนเรื่องภายใน…บรรพจารย์หลิงอวิ๋นถูกตัดคุณสมบัติเรือนอาวุโส แม้สำนักกระบี่เมฆาจรดฟ้าจะยังเป็นหนึ่งในพันธมิตรแปดสำนัก แต่ทรัพยากรทั้งหมดหลังจากนี้หนึ่งร้อยปีก็ตกต่ำที่สุด

นี่เป็นการลงโทษสำนักกระบี่เมฆาจรดฟ้าสถานหนัก ในนี้เจ้าสำนักก็เช่นกัน ล้วนถูกลงโทษ จนกว่าพวกเขาจะสังหารพ่อลูกเซิ่งอวิ๋นผู้ปราดเปรื่องได้ จึงจะกลับมาเป็นดังเดิม

ส่วนของวิเศษเวทต้องห้ามของสำนักกระบี่เมฆาจรดฟ้า พลานุภาพของมันก็ลดต่ำลงมาครึ่งหนึ่ง เพราะนายท่านเจ็ดกับเสี่ยเลี่ยนจื่อสะกดต้นไม้ของวิเศษต้องห้ามที่มาปรากฏที่เจ็ดเนตรโลหิตไว้ได้สำเร็จ จนกลายเป็นของวิเศษเวทต้องห้ามของเจ็ดเนตรโลหิตไปแล้วครึ่งหนึ่ง

จากนั้นคือการระดมพลังเผยแพร่ข่าวสุดกำลังของสำนักทั้งหนึ่งร้อยสามสิบเจ็ดในพันธมิตรแปดสำนัก เริ่มสืบค้นเกี่ยวกับสมาชิกของเทียนประทีปและกล่องไม้นั่น ก็ทำให้ทั่วทั้งมณฑลรับเสด็จราชันให้ความสำคัญมาก

การวิเคราะห์หลังเหตุการณ์ สิ่งที่อยู่ในกล่องไม้ใบนั้น…บางทีอาจไม่ใช่สายตาของเสี้ยวหน้าเทพเจ้า เพียงแค่คล้ายคลึงเท่านั้น

แต่รายละเอียดเป็นเช่นไร ยังผ่านไปไม่นาน เบาะแสยังน้อยเกิน จึงไม่อาจเข้าใจได้ชัดเจน

แต่สิ่งที่ยืนยันได้ก็คือ แม้พลานุภาพของมันจะมาก แต่ก็ไม่ได้มากจนถึงขนาดกับไม่อาจต้านทานได้ เพียงแต่เบื้องหลังของเรื่องนี้ ความลึกลับที่ซ่อนอยู่ ยังคงเป็นจุดที่ทำให้คนพรั่นพรึงได้มากที่สุด

เทียนประทีป…ครอบครองพลังแห่งเทพเจ้าบางส่วนแล้วจริงๆ

ในตอนนี้สวี่ชิง เลือกจะออกจากเจ็ดเนตรโลหิต เขาจะไปที่แผ่นดินของเผ่าสิงซากสมุทรเสียรอบหนึ่ง หรือก็คือสถานที่ที่ของวิเศษเวทต้องห้ามของเจ็ดเนตรโลหิตตั้งอยู่นั่นเอง

จะไปที่นั่นเพื่อเปิดช่องเวทที่หนึ่งร้อยยี่สิบเอ็ดของตนเอง

ก่อนหน้านี้ สวี่ชิงไม่ได้ใส่ใจพยายามว่าจะเปิดช่องเวทที่หนึ่งร้อยยี่สิบเอ็ดได้หรือไม่เท่าไรนัก แต่ตอนนี้ไม่ใช่แล้ว

เขาคิดจะทำตามความคิดตอนกลับมาของตนเองให้สำเร็จ เช่นนั้นเขาก็ต้องทำให้ตัวเองแกร่งขึ้น เขาต้องทำให้ถึงที่สุด

ก่อนจะไป สวี่ชิงเจอนายท่านจเจ็ดที่ด้านหน้าหลุมศพนายท่านหก

หน้าหลุมศพ นายท่านเจ็ดนั่งอยู่ตรงนั้น ในมือหิ้วกาสุราอยู่

นายท่านเจ็ดในความทรงจำสวี่ชิง เป็นคนที่ไม่สะทกสะท้านกับสิ่งใดเลย ดวงตามีวิสัยทัศน์ ราวกับว่าควบคุมทุกอย่างไว้ในมือได้ แต่นายท่านเจ็ดในสายตาสวี่ชิงตอนนี้แตกต่างกับก่อนหน้านี้

ผมเผ้ากระเซอะกระเซิง ในดวงตาเขามีเส้นเลือด ใบหน้าเต็มไปด้วยความรู้สึกโทษตัวเอง และมีระลอกคลื่นวุ่นวายแผ่ออกมาจากเขาเป็นระยะ ราวกับว่า…เขากำลังเลือกทะลวงขั้น

แต่เห็นได้ชัดว่าทะลวงขั้นไม่ใช่เรื่องง่าย หลังจากที่ได้ยินว่าสวี่ชิงจะออกไปด้านนอก นายท่านเจ็ดก็หันมามองสวี่ชิง เมื่อโบกมือก็มีกวานสวรรค์ม่วงสูงสุดปรากฏขึ้นในมือเขา หลังจากส่งให้สวี่ชิง เขาก็ล้วงหยกดำออกมา

หยกดำนี้ราวกับเป็นก้อนเลือดที่แห้งกรัง แผ่กลิ่นอายประหลาด ประโยชน์ของมันใกล้เคียงกับตุ๊กตาตัวตายตัวแทน มอบให้สวี่ชิงด้วยเช่นกัน

“เจ้าสี่ อาจารย์ไม่ได้คาดหวังสิ่งอื่นใด แค่หวังว่าเจ้ากับศิษย์พี่และศิษย์พี่หญิงของเจ้า ใช้ชีวิตกันอย่างสงบสุข นายท่านหกของเจ้าจากไปแล้ว ข้าอาลัยอาวรณ์เหลือเกิน ข้าไม่อยากเห็นวันนึงที่พวกเจ้าต้องจากไปต่อหน้าข้า

“โลกนี้ไม่เที่ยง โลกนี้ไม่เที่ยงเลย อาจารย์คำนวณเอาไว้แล้ว แต่ไม่อาจคำนวณเรื่องนี้ได้ เหตุใดจึงเป็นเช่นนี้…”

พูดพลาง นายท่านเจ็ดก็ถอนหายใจ ส่งแผ่นหยกให้สวี่ชิง นี่คือสิ่งยืนยันเพื่อเข้าไปในสถานที่ต้องห้ามของเจ็ดเนตรโลหิต และรวมไปถึงพวกความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับของวิเศษเวทต้องห้าม

สวี่ชิงรับไปเงียบๆ หลังจากคารวะสุดตัว ก็หันหน้ามองไปยังหลุมศพของนายท่านหก

ผ่านไปครู่หนึ่ง เขาก็โขกศีรษะคารวะไปทางหลุมศพแรงๆ จากนั้นก็มองท่านอาจารย์ มองความรู้สึกโทษตัวเองที่ใบหน้าของอาจารย์ เอ่ยเสียงแผ่วว่า

“ท่านอาจารย์ พวกเราล้างแค้นให้นายท่านหกก็พอ”

สายตานายท่านเจ็ดเปลี่ยนเป็นล้ำลึก เงยหน้ามองออกไปไกลๆ ค่อยๆ เผยความดุดันถึงที่สุดออกมา

บทที่ 317 สถานที่ต้องห้าม 1

Verify captcha to read the content.ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผู้กล้าเหนือกาลเวลา