บทที่ 319 แก่นลมปราณวังสวรรค์
แสงสีฟ้าปะทุท่วมฟ้ามาในแผ่นดินเผ่าสิงซากซากสมุทร มาบนแท่นพิธีเซ่นไหว้ของวิเศษเวทต้องห้ามสำนักเจ็ดเนตรโลหิตแห่งนี้
ท่ามกลางแสงที่ปะทุตลอดไม่ขาดสาย ก็สร้างความสนใจในระดับสูงให้กับเผ่าสิงซากสมุทรและลูกศิษย์สำนักเจ็ดเนตรโลหิต
โดยเฉพาะฝ่ายแรกยิ่งฮือฮาไปทั้งเผ่า เผ่าสิงซากสมุทรแทบจะทุกตนหลายวันมานี้ล้วนเห็นแสงสีฟ้าที่สาดแสงมาจากแท่นพิธีเซ่นไหว้ พวกเขาย่อมรู้ดีว่านี่เกิดขึ้นจากอะไร
และเป็นเพราะว่ารู้ดี ดังนั้นหลังจากสังเกตได้ว่าเวลาเนิ่นนานถึงเพียงนี้ ระลอกคลื่นในจิตใจของพวกเขาก็ยิ่งรุนแรง
ส่วนลูกศิษย์สำนักเจ็ดเนตรโลหิตที่ปักหลักอยู่ที่นี่ก็เช่นกัน
นายท่านสามมองไปยังสวี่ชิงที่แสงสีฟ้าลอยเอ่อบนแท่นพิธีเซ่นไหว้ข้างล่าง มองแสงสีฟ้าและกลิ่นอายความตายที่แผ่ออกมาทั่วร่างของเขา ในใจก็เกิดคลื่นถาโถมเช่นกัน
หากไม่รู้ว่าสวี่ชิงทำไปเพื่อเปิดช่องเวทช่องที่หนึ่งร้อยยี่สิบเอ็ด อีกทั้งยังมีอัตราความเป็นไปได้ที่จะหักหลังสำนักน้อยมากแล้วล่ะก็ เขายังรู้สึกว่าสวี่ชิงจะแปรสภาพไปเป็นเผ่าสิงซากสมุทรจริงๆ แล้วหรือเปล่า
สวี่ชิงในเสี้ยวขณะนี้จากการที่พลังเทวรูปบรรพชนศพหลายองค์ผสานเข้าไป ชีวิตของเขาต่ำลงจนใกล้ถึงขีดจำกัดสูงสุดแล้ว กลิ่นอายความตายทั่วทั้งร่างยิ่งเข้มข้น
จนผ่านไปอีกสามชั่วยาม เวลาพลบค่ำผ่านไป จันทร์กระจ่างลอยเด่นกลางฟ้า ร่างสวี่ชิงพลันสะท้านเฮือก เขาสัมผัสได้ถึงขีดจำกัดของตัวเองแล้ว
ผลึกวารีสีม่วงในร่างทั้งมีการควบคุมจากร่างกายเขา ทั้งมีการโจมตีภายนอกจากพลังเทวรูปบรรพชนศพ ในที่สุดก็ทำให้ร่างของเขาห่างจากการแปรสภาพโดยสมบูรณ์เพียงเศษเสี้ยวเท่านั้น
เศษเสี้ยวนี้ซ้ายคือเป็น ขวาคือตาย
นี่คือช่วงระหว่างความเป็นและความตาย
แต่สภาวะนี้เสถียรเอามากๆ น้อยไปนิดเดียวก็ไม่ใช่ระหว่างความเป็นความตาย มากไปนิดเดียว…ก็คือแปรสภาพเป็นเผ่าสิงซากสมุทรจริงๆ
ในช่วงเวลาสำคัญนี้ ดวงตาทั้งสองของสวี่ชิงก็พลันลืมตื่นขึ้น เผยให้เห็นประกายแสงสีฟ้า มาพร้อมด้วยความเย็นชาที่ไม่มีระลอกคลื่นอารมณ์ใดๆ ทั้งสิ้น เขายกมือขวาที่เหมือนกับซากศพขึ้น แล้วชี้ไปที่ชิ้นไม้สีดำที่อยู่ข้างหน้าอย่างช้าเนิบ
ภายใต้การชี้นี้ ชิ้นไม้สีดำชิ้นนั้นก็แผ่ระลอกแข็งแกร่งออกมาทันที
เสี้ยวขณะต่อมา ประตูไม้มายาบานมหึมาบานหนึ่งก็ปรากฏข้างหน้าสวี่ชิง ท่ามกลางเสียงดังสนั่นหวั่นไหว ประตูไม้บานนี้ก็เปิดออกหาสวี่ชิงอย่างช้าๆ
แสงสีขาวเจิดจ้าที่แตกต่างไปจากแสงสีฟ้ารอบๆ สาดมาจากในประตูไม้บานนี้ ปกคลุมไปบนร่างสวี่ชิง!
แสงนี้สว่างกว่า เจิดจ้ากว่า…เมื่อในอดีต มันไม่ได้หมองหม่นไปเพราะความจริงและโลกอันโหดร้าย มันยังคงดำรงอยู่ เพียงแต่เปลี่ยนมาเย็นเล็กน้อย ความอบอุ่นในนั้นซ่อนลงไปลึกขึ้น
แสงของประประตูไม้สีดำก็คือวิธีหยุดช่วงเวลาระหว่างความเป็นความตายที่สวี่ชิงคิดได้
ไม่ว่าจะเป็นการสู้กับเซิ่งอวิ๋นผู้ปราดเปรื่องก่อนหน้านี้ หรือจะเป็นการศึกษาค้นคว้าหลังจากนั้น เขาล้วนรู้เป็นอย่างดีว่าประตูไม้ที่ผ่านการสังเวยบูชาครั้งที่สอง แสงในนั้นจะมีพลังในการผนึกระดับขั้นชีวิตบางอย่าง
พลังผนึกประเภทนี้เหมือนการแช่แข็งผนึก ทำให้คนในเสี้ยวพริบตานั้นอยู่ในสภาวะเหมือนถูกแช่แข็งไปทั้งร่าง
ตอนนี้จากการสาดมาของแสง ร่างของสวี่ชิงก็พลันสะท้านเฮือก สภาวะไม่เสถียรระหว่างความเป็นและความตายภายใต้แสงของประตูเจตจำนงวิญญาณแห่งนิรันดร์บานนี้ก็ถูกหยุดเอาไว้โดยสมบูรณ์ สภาวะไม่เสถียรหยุดนิ่ง
ระดับขั้นชีวิตก็เหมือนถูกหยุดไปด้วยเช่นกัน
ตอนนี้ ภายใต้การจัดการของนายท่านสามที่จับตามองสวี่ชิง แสงสีฟ้าที่มาจากเทวรูปบรรพชนศพรอบๆ ก็สลายไปทันที
จากนั้นขณะเขาประสานปางมือ กระจกสัมฤทธิ์โบราณของวิเศษเวทต้องห้ามของสำนักเจ็ดเนตรโลหิตก็ฉายประกายแสงเจิดจ้าบนท้องฟ้า แปรเปลี่ยนเป็นลำแสง หลังจากที่สาดกระทบไปที่ร่างสวี่ชิงก็หักเหกลับมา
ทำให้ทั้งร่างของสวี่ชิงถูกปกคลุมอยู่ในลำแสงไปโดยสมบูรณ์
สวี่ชิงร่างสะท้านเฮือก สติของเขาตอนนี้ยังคงอยู่ สัมผัสได้แสงที่ปกคลุมทั่วทั้งร่างอย่างรวดเร็ว หาช่องเวทช่องที่หนึ่งร้อยยี่สิบเอ็ดของตัวเอง
นายท่านเจ็ดเคยบอกไว้ จุดช่องเวทของแต่ละคนไม่เหมือนกัน โดยช่องเวทช่องที่หนึ่งร้อยยี่สิบเอ็ดยิ่งเป็นเช่นนั้น
แต่ตอนนี้ ในสภาวะระหว่างความเป็นความตาย อาศัยของวิเศษเวทต้องห้ามของสำนักเจ็ดเนตรโลหิต สวี่ชิงหลังจากสัมผัสทั่วทั้งร่างในที่สุด…ก็หาช่องเวทช่องที่หนึ่งร้อยยี่สิบเอ็ดของตัวเองเจอ
ช่องเวทช่องนี้อยู่ในทะเลความรู้สึกของเขา ไม่ใช่ของจริง แต่อยู่ในสภาวะละม้ายคล้ายภาพมายาอย่างหนึ่ง
ในเสี้ยวพริบตาที่หาเจอ สวี่ชิงก็ไม่ลังเลใดๆ ทั้งสิ้น พลังวิญญาณในร่างกายปะทุขึ้นมาทันที แล้วโหมทะลักสุดพลังไปยังตำแหน่งที่หาเจอในทะเลความรู้สึก ชั่วขณะต่อมา ร่างของสวี่ชิงก็สั่นสะท้าน
การทะลวงเปิดช่องเวทช่องที่หนึ่งร้อยยี่สิบเอ็ดยากกว่าช่องเวทช่องอื่นๆ มาก แต่สวี่ชิงเตรียมตัวเพื่อการนี้มาเป็นอย่างดี พลังวิญญาณในร่างกระตุ้นขึ้นมาจากช่องเวทแต่ละช่องอีกครั้ง รวมอยู่ด้วยกันก่อเป็นเพลิงวิญญาณผืนหนึ่ง แล้วกวาดโหมไปอีกครั้ง
หลังจากนั้นไม่กี่อึดใจ จากเสียงเปรี๊ยะๆ ที่ดังสะท้อนในทะเลวิญญาณ ร่างของสวี่ชิงสะท้านเฮือก ช่องเวทช่องที่หนึ่งร้อยยี่สิบเอ็ดที่อยู่ในสภาวะมายาในทะเลความรู้สึกก็พลัน…ทะลวงเปิดออก!
ระลอกคลื่นพลังเวทที่ไม่เคยมีมาก่อนก็ปะทุออกมาจากในช่องเวทช่องที่หนึ่งร้อยยี่สิบเอ็ดช่องนี้จากการเปิดออก
แข็งแกร่งทรงพลัง สะท้านฟ้าสะเทือนดิน!
พลังที่แผ่ออกมาจากช่องเวทช่องนี้เหมือนช่องเวทสามสิบช่องรวมอยู่ด้วยกัน
เนื่องจากพลังในนั้นมหาศาลท่วมท้น ดังนั้นถึงมีคำกล่าวที่ว่าหนึ่งช่องเปิดไฟชีวิตหนึ่งดวง
ตอนนี้ไฟชีวิตดวงที่สี่ที่ลุกไหม้ในร่างสวี่ชิงจากการปะทุต่อไป แม้สีจะเปลี่ยนไปจากพลังของเผ่าสิงซากสมุทร แต่ไม่นานนัก จากการหลอมรวมของเส้นไฟนับไม่ถ้วน ไฟชีวิตดวงที่ห้าของสวี่ชิงก็ปรากฏขึ้นทันที
สีของไฟชีวิตดวงที่ห้าเป็นสีแดงเพลิง
ภายใต้การโหมลุกไหม้ในตอนนี้ ระลอกคลื่นน่าครั่นคร้ามก็แผ่ออกมาจากในนั้น หลังจากแผ่ไปทั่วร่างสวี่ชิง สภาวะระหว่างความเป็นตายของเขาก็ถูกทำลายลงทันที
หลังจากความโชติช่วงของไฟแห่งชีวิตทำลายสภาวะของเขา กลิ่นอายความตายก็เริ่มหายไป
เนื่องจากพิธียังไม่เสร็จสิ้นโดยสมบูรณ์ สวี่ชิงยังไม่ได้แปรสภาพเป็นเผ่าสิงซากสมุทรโดยสมบูรณ์ จึงยังเปลี่ยนกลับมาได้
โดยเฉพาะพลังผลึกวารีสีม่วง สวี่ชิงนอกจากให้เจ้าเงาปกคลุมไปบนนั้นไม่ให้มันเปิดเผยออกมาข้างนอก ก็ไม่ได้ทำการควบคุมอะไรอีก ดังนั้นการฟื้นฟูพลังชีวิตของเขาจึงเร็วมาก



ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผู้กล้าเหนือกาลเวลา