บทที่ 323 ใต้ปรโลก
สวี่ชิงเห็นเซิ่งอวิ๋นผู้ปราดเปรื่องแล้ว
เซิ่งอวิ๋นผู้ปราดเปรื่องก็เห็นสวี่ชิงเช่นกัน
แทบจะในเสี้ยวพริบตาที่สวี่ชิงพุ่งตัวมา ร่างของเซิ่งอวิ๋นผู้ปราดเปรื่องก็ถอยหลังไปในทันที รวดเร็วเป็นอย่างยิ่ง จะหลบหนีไป
ความเร็วของเขาเร็วกว่าในอดีต ในขณะที่พลังแก่นลมปราณวังสวรรค์หนึ่งวังปะทุมา วิหคทองในตาขวาของเขาก็ปรากฏออกมา เงยหน้าคำรามขึ้นฟ้า
บนร่างของวิหคทองตัวนี้ถูกอักขระมายานับไม่ถ้วนพันธนาการเอาไว้ ฝั่งหนึ่งหลอมรวมไปกับตาขวาของเซิ่งอวิ๋นผู้ปราดเปรื่อง อีกฝั่งหนึ่งเชื่อมไปในตัววิหคทองตัวนี้
วิธีนี้แสดงให้เห็นฝีมือที่น่าอัศจรรย์เป็นอย่างยิ่ง ทำให้เซิ่งอวิ๋นผู้ปราดเปรื่องควบคุมเคล็ดวิชาระดับจักรพรรดิวิหคทองหลอมหมื่นวิญญาณผ่านวิธีนี้ ตอนนี้ภายใต้การเพิ่มพลังของวิหคทอง ความเร็วของเขารวดเร็วเป็นอย่างยิ่ง
แต่ความเร็วของสวี่ชิงน่าตกใจยิ่งกว่า เพียงพริบตาก็พุ่งเข้าไปในสำนักนำบารมี ตรงไปหาเซิ่งอวิ๋นผู้ปราดเปรื่อง
ในเสี้ยวพริบตาที่ลูกศิษย์สำนักเจ็ดเนตรโลหิตทั้งหลายพุ่งตัวออกไป บุกเขาไปในสำนักนำบารมี บริเวณหุบเขาจันทร์ลับนภาที่สำนักนำบารมีตั้งอยู่จู่ๆ ก็ส่งเสียงสะเทือนเลื่อนลั่นออกมา รอยแยกนับไม่ถ้วนแล่นมาตามพื้น แสงเปลวไฟแต่ละทางๆ ปะทุออกมาจากในนั้น ยิ่งไปกว่านั้นคือมีมือใหญ่ข้างหนึ่งยื่นออกมาจากพื้นดินสำนักนำบารมี
มือยักษ์ข้างนี้มีขนาดถึงร้อยจั้ง ทั้งมือก่อขึ้นจากหินผา บนนั้นเต็มไปด้วยลายเปลวไฟ เหมือนว่าในแขนข้างนี้มีเลือดเป็นหินหนืด
เสียงดังสนั่นหวั่นไหวก้องฟ้า หุบเขาถล่ม เศษหินนับไม่ถ้วนกระเด็นกระดอน
ตอนนี้ หลังจากที่มือยักษ์ข้างนี้ปรากฏขึ้น มันก็กดไปที่พื้น ในขณะที่พื้นดินสั่นไหว ยักษ์หินผาตนหนึ่งที่แผ่แสงเปลวไฟน่าหวั่นเกรงก็กระโดดออกมาจากใต้พื้นดิน
ตัวขนาดหลายพันจั้ง ยืนตระหง่านในฟ้าดิน ขณะเดียวกับที่คำรามอย่างคลุ้มคลั่ง กลิ่นอายที่อยู่เหนือระดับปราณก่อกำเนิดทั้งร่างก็ปะทุออกมาจากร่างของมัน ทำให้รอบๆ เกิดระลอกคลื่นพลังรุนแรง
ยิ่งไปกว่านั้น จะเห็นว่าที่หน้าอกของยักษ์ตนนี้มีโลงศพสีดำโลงหนึ่งฝังเอาไว้
และที่หัวของยักษ์หินผาตนนี้มีเงาร่างอีกสองเงา
สองคนนี้ล้วนใส่ชุดคลุมยาวสีดำ สวมหน้ากากเสี้ยวหน้าเทพเจ้า แต่กลับไม่ใช่นกเขาราตรีและรัชทายาทรัฐม่วงคราม พวกเขาคนหยึ่งยืน คนหนึ่งนั่งย่อตัว
บนร่างของทั้งสองคนมีระลอกคลื่นพลังน่ากลัวแผ่มา ในสายตามที่เผยออกมาจากใต้หน้ากากเสี้ยวหน้าเทพเจ้าแฝงด้วยความเย็นชา
“หาที่นี่ได้เจอเชียวหรือ”
“ก่อนใต้เท้าจะไปพูดไว้ไม่ผิดเลย จะดูถูกขั้วอำนาจใดๆ ไม่ได้เลย”
“เช่นนี้แล้ว ฐานที่มั่นอีกสามแห่งที่เหลือ พันธมิตรแปดสำนักก็คงส่งคนไปแล้วเหมือนกัน”
เทียนประทีปเป็นกลุ่มอำนาจ ดังนั้นในนั้นไม่มีทางมีแค่รัชทายาทรัฐม่วงครามกับนกเขาราตรี แต่มีสมาชิกมากมาย
ผู้เป็นคนสำคัญในนั้นแต่ละคนล้วนมีชื่อเสียง แต่ว่าสมาชิกที่มีมากกว่าคือสมาชิกระดับล่างเหมือนเซิ่งอวิ๋นผู้ปราดเปรื่องพวกนั้น
แม้พวกเขาจะเข้าร่วมกับเทียนประทีปแต่กลับไม่มีคุณสมบัติเป็นสมาชิกคนสำคัญ ไม่มีสิทธิ์สวมหน้ากาก
มีเพียงคนที่เคยทำการแสดงสีเลือด อีกทั้งมีพลังบำเพ็ญอย่างน้อยระดับปราณก่อกำเนิดเท่านั้นถึงจะมีสิทธิ์นั้น
เห็นได้ชัดว่าทั้งสองคนนี้เป็นสมาชิกคนสำคัญของเทียนประทีปในมณฑลรับเสด็จราชัน แทบจะในเสี้ยวพริบตาที่พวกเขาปรากฏตัว สายตาของนายท่านเจ็ดก็จ้องเพ่งไป
การลงมือกับกลุ่มอำนาจเทียนประทีปในสำนักนำบารมีครั้งนี้ เป้าหมายแรกของสำนักเจ็ดเนตรโลหิตก็คือล่อบุคคลสำคัญของกลุ่มอำนาจเทียนประทีปออกมา
เมื่อเห็นว่าปรากฏตัวขึ้น นายท่านเจ็ดก็ก้าวออกไป เหยียบไปในอากาศ พุ่งตรงไปยังยักษ์หินผาตนนี้
ยักษ์จ้องนายท่านเจ็ดเขม็ง ในสายตาฉายความบ้าคลั่ง คนทั้งสองคนที่หัวของมันร่างรางเลือนไปเช่นกัน ลงมือทันทีในเวลาเดียวกัน
แต่ชั่วพริบตาต่อมา จากการที่ทั้งสองฝ่ายเข้าปะทะกัน จากเสียงกึกก้องในฟ้าดิน ร่างของยักษ์หินผาก็สั่นสะท้านบ้าคลั่ง มือขวาที่ยกขึ้นพังทลายไปในทันที
ในขณะที่ถอยไปทีละก้าวๆ คนชุดดำสองคนที่ลงมือพร้อมกับมัน ล้วนสีหน้าเคร่งเครียดขึ้น ต่างถอยหลังไป ในดวงตาฉายแววเคร่งเครียด
นายท่านเจ็ดเพียงคนเดียวโจมตีให้ผู้บำเพ็ญระดับสมบัติวิญญาณทั้งสามนี้ถอยไปทั้งหมดได้
ขณะเดียวกัน ที่พื้น ลูกศิษย์ของสำนักนำบารมีก็กระเด็นกันไปคนละทิศจากการพังถล่มของแผ่นดินและหุบเขา
แม้สีหน้าพวกเขาจะแตกตื่นตกใจ แต่อันตรายที่ประสบไม่ได้มากเท่าไร เพราะเป้าหมายของลูกศิษย์สำนักเจ็ดเนตรโลหิตที่อยู่บนพื้นคือสมาชิกระดับล่างกลุ่มอำนาจเทียนประทีปที่ร่างแผ่ไอพลังสีดำออกมาพวกนั้น
เพียงแต่จากเหตุการณ์เมื่อครู่ บนพื้นก็เละเทะไปหมด สมาชิกระดับล่างเทียนประทีปทุกคนต่างทำการหลบหนีด้วยความเร็วทั้งหมดที่มี
และต่อให้เทียนประทีปกลุ่มอำนาจกลุ่มนี้เป็นสมาชิกระดับล่างก็ล้วนมีความพิเศษและความโหดเหี้ยม ไม่ว่าคนไหนก็ล้วนไม่ธรรมดาทั้งนั้น ตอนนี้จากการกระจายตัวกันไปของสมาชิกพันคน สำนักเจ็ดเนตรโลหิตก็ยากจะสังหารให้หมดได้ในคราวเดียว
แต่ว่าของวิเศษเวทต้องห้ามของสำนักเจ็ดเนตรโลหิตผนึกที่นี่เอาไว้ ในขอบเขตพื้นที่แห่งนี้ ต่อให้สมาชิกเทียนประทีปกระจายตัวกันแต่สุดท้ายก็ไม่อาจหนีไปได้
ขณะเดียวกัน ในตำแหน่งอีกสามตำแหน่งที่เหลือในมณฑลรับเสด็จราชัน การโจมตีจากสำนักโลกันต์ทมิฬ สำนักล่าสิ่งประหลาด และสำนักกระบี่เมฆาจรดฟ้าก็ปะทุขึ้นเช่นกัน ฐานที่มั่นที่พวกเขาไปก็มีสมาชิกของกลุ่มอำนาจเทียนประทีปเช่นกัน
ตำแหน่งทั้งสี่ศึกดุเดือดรุนแรง แต่ทุกอย่างนี้…ล้วนเพื่อล่อเหยื่อทั้งสิ้น
ดูว่านกเขาราตรีและนายของเขาจะปรากฏตัวขึ้นหรือไม่ จะปรากฏตัวขึ้นที่ใด!
นี่ไม่ใช่อุบายอำพราง แต่เป็นแผนการซึ่งหน้า!
ตาข่ายสวรรค์กับดักพิภพวางไว้แล้ว เสี้ยวขณะนี้ ขั้วอำนาจเผ่ามนุษย์ทั้งมณฑลรับเสด็จราชันล้วนจับจ้องมาที่ทั้งสี่จุดนี้ สำนักเซียนล้ำบารมีก็ให้ความร่วมมือด้วย กระทั่งลัทธินอกวิถีก็ร่วมด้วย ฟังคำสั่งของโถงครองกระบี่
ทุกคนล้วนกำลังรอ
ขณะเดียวกัน พวกเขาก็กำจัดความเป็นไปได้ที่กลุ่มอำนาจเทียนประทีปอาจจะส่งเสียงบูรพาฝ่าตีประจิม โจมตีไปที่สำนักของตัวเอง
ส่วนการฆ่าล้างสังหารของสวี่ชิงก็เปิดฉากในเสี้ยวขณะนี้เช่นกัน
จิตสังหารในดวงตาของเขารุนแรง การโจมตีของเขาโหดเหี้ยมเป็นอย่างยิ่ง ชุดสีม่วงเลื่อมลายทั้งชุด กวานสวรรค์ม่วงสูงสุดบนศีรษะ วังแห่งชีวิตสองวังฉายเงาฉัตรออกมา จากแสงเจ็ดสีที่ฉายออกมา จากเปลวไฟสีดำที่แผ่ออกมา พลังบำเพ็ญระดับแก่นลมปราณของเขาสั่นคลอนไปทั่วสารทิศ



ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผู้กล้าเหนือกาลเวลา