เข้าสู่ระบบผ่าน

ผู้กล้าเหนือกาลเวลา นิยาย บท 329

บทที่ 329 หนึ่งร่างสามจิตเจ็ดวิญญาณ

เขาไตรวิญญาณสะกดมรรคา เป็นเช่นเดียวกับพันธมิตรแปดสำนัก ล้วนตั้งอยู่ในพื้นที่มณฑลรับเสด็จราชัน อยู่อีกด้านของภูเขาล้ำบารมีพ้นเคราะห์ภัย

เทือกเขาล้ำบารมีพ้นเคราะห์ภัยที่ยิ่งใหญ่นั่นกินอาณาเขตกว้างขวาง ด้านในเต็มไปด้วยหมอกพิษ มีสำนักชั่วร้ายอยู่มากมาย ขณะเดียวกันก็ยังแฝงสิ่งประหลาดนับไม่ถ้วนไว้ด้วย

ในบางระดับก็แทบไม่ต่างอะไรกับพื้นที่ต้องห้ามแล้ว

และเทือกเขานี้ก็แบ่งส่วนใต้ของมณฑลรับเสด็จราชันออกเป็นสองส่วน

เทียบกันแล้ว ด้านหนึ่งยังเป็นแผ่นดินความสุข อย่างน้อยบางครั้งก็ยังมีเสียงหัวเราะดังออกมา แต่อีกด้านหนึ่งกลับเป็นนรก เสียงร้องไห้นั้นเป็นสิ่งฟุ่มเฟือย ความด้านชาถึงเป็นท่วงทำนองหลักเพียงหนึ่งเดียว

นี่ก็คือเขาไตรวิญญาณสะกดมรรคา

และยังเป็นนรกบนดินแห่งโลกมนุษย์นอกเหนือจากพื้นที่ต้องห้ามในมณฑลรับเสด็จราชันด้วย

นี่เทียบเท่ากับอาณาเขตเกือบครึ่งของทวีปปักษาสวรรค์ทักษิณ เต็มไปด้วยรัฐทั้งหนึ่งร้อยสามสิบเจ็ดรัฐ มีทั้งเผ่ามนุษย์และต่างเผ่า

ไม่ว่าจะกลางวันหรือกลางคืน ในรัฐทั้งหนึ่งร้อยสามสิบเจ็ดนี้ไม่ค่อยมีเสียงดังออกมานัก ไม่ใช่ว่าไม่มีคน แต่การมีชีวิตอยู่เดิมทีก็คือความทุกข์ทรมาน สรรพชีวิตถูกชุบเลี้ยงไว้เป็นอาหาร

และอาหาร ก็ไม่มีสิทธิ์มีปากเสียง

ดังนั้น คนที่ใช้ชีวิตอยู่ในหนึ่งร้อยสามสิบเจ็ดรัฐล้วนสูญเสียความสามารถในการพูดไป เสียงที่ส่งออกมาได้มีเพียงเสียงกรีดร้องเท่านั้น

ดังนั้น พื้นดินส่วนใหญ่ของที่นี่ล้วนเงียบงัน ท้องฟ้าของที่นี่ก็เช่นนี้ มีแต่ความมืดมน ตะวันจันทรายากจะสาดส่องเข้ามา เมฆดำหนาทึบปกคลุมจนหมด

มีเพียงดวงไฟสลัวที่จุดด้วยน้ำมันเลือดเนื้อของเผ่าต่างๆ บนภูเขาลูกเล็กที่จากโครงกระดูกหลายกองกองรวมกันเป็นต้นกำเนิดแสงสว่างของนรกบนดินแห่งโลกมนุษย์ผืนนี้

โครงกระดูกที่อยู่บนภูเขาเล็กเหล่านั้น ไม่มีเนื้อเหลืออยู่เลย เป็นโครงกระดูกทั้งหมด มีทั้งที่เหมือนโดนทิ้งไว้นานแล้ว และเหมือนเพิ่งโยนทิ้งไว้ไม่นาน

ทุกๆ ห้าร้อยลี้จะมีกองหนึ่ง มากมายเต็มไปหมด ราวกับสถานที่นี้กลายเป็นป่าเขาไป

จินตนาการได้ว่าหลายหลายปีที่ผ่านมา คนธรรมดาของเผ่าต่างๆ ที่ตายลงที่นี่มีจำนวนนับไม่ถ้วน

และเพราะความตายระดับนี้ ทำให้สถานที่นี้มีแต่ปราณแห่งความตาย น่าหดหู่ถึงที่สุด

สีพื้นดินกลายเป็นสีม่วงคล้ำจากการที่เลือดสดซึมลงไปหลายต่อหลายครั้ง เม็ดทรายแต่ละเม็ดเคลือบเชื่อมติดกันราวกับเป็นพรม ดูน่าขนลุกขนพองอย่างยิ่ง

ยังมีกลิ่นเหม็นที่แผ่กระจายทั้งฟ้าดิน หากคนปกติสูดเข้าไปเพียงครั้งเดียวจะต้องสำรอกออกมาอย่างทนไม่ไหวแน่นอน แม้แต่น้ำดีก็คงสำรอกออกมาด้วย

แต่ที่นี่ก็ยังมีต้นไม้ เพียงแต่ต้นไม้เหล่านั้นล้วนเป็นสีแดง สูดรับเลือดที่อยู่ในดินเพื่อเลี้ยงชีพ แต่ละต้นเต็มไปด้วยสิ่งประหลาด ขณะเดียวกันด้านบนบางครั้งก็มีพวกศพแห้งไร้เนื้อหุ้มห้อยอยู่ด้วย

ศพเหล่านี้ปลิวไหวไปมาท่ามกลางสายลม ราวกับเนื้อแห้งที่ตากลมไว้

หากมองอย่างละเอียด จะเห็นว่าบนตัวศพเหล่านั้น ยังทาสิ่งของที่ปล่อยกลิ่นอายบางอย่างออกมาด้วย

สิ่งนี้จะดึงดูดพวกนกดุร้ายรวมถึงสิ่งประหลาดที่กระจายอยู่รอบๆ เข้ามา และพวกมันก็จะกลายเป็นวัตถุดิบเสริมที่ปรุงไปพร้อมกับศพ

นอกจากต้นไม้ ที่นี่ยังมีทะเลสาบเลือดอีกด้วย

นรกบนดินแห่งโลกมนุษย์ผืนนี้ ในทะเลสาบเลือดมีฟองเดือดปุดๆ ขึ้นมาอย่างเงียบงัน บางครั้งก็จะมีศิษย์ของเขาไตรวิญญาณสะกดมรรคาเดินผ่านมา และคุกเข่าลงดื่มอึกหนึ่ง สีหน้าก็เผยความพึงพอใจ

เรือเวทของสวี่ชิง เหินผ่านท้องฟ้าเงียบๆ เขามองทุกอย่างที่อยู่เบื้องล่างอย่างสงบ

นายกองเองก็นิ่งเงียบไม่พูดจา ขนาดเหยียนเหยียนที่โหดเหี้ยมหนักหนา หลังจากที่เห็นทั้งหมดยังสติหลุดลอย

สวี่ชิงกับนายกองเคยเห็นขั้วอำนาจที่เรียกตนเองว่าอนุไตรวิญญาณในภูเขาล้ำบารมีพ้นเคราะห์ภัยมาแล้ว แต่เมื่อมาเทียบกับที่นี่ กระทั่งคำว่าอนุก็ยังเรียกไม่ได้เสียด้วยซ้ำ

เทียบกันไม่ได้เลย

“ดูเหมือนว่ารัฐทั้งหนึ่งร้องสามสิบเจ็ดรัฐ ตอนนี้คงจะเหลือไม่ถึงร้อยแล้ว และนี่ก็เป็นสาเหตุว่าเพราะอะไรช่วงนี้เขาไตรวิญญาณสะกดมรรคาจึงออกมาภายนอกเพื่อปล้นรัฐเล็กๆ

“ตัวเลขหนึ่งร้อยสามสิบเจ็ดนี้เหมือนจะมีความหมายพิเศษกับไตรวิญญาณ ทุกครั้งที่พวกเขากินจนพร่องไปจึงต้องชดเชย”

นายกองมองแผ่นดินใหญ่ เอ่ยเสียงแผ่ว

“แต่พลังบำเพ็ญระดับไตรวิญญาณ เหตุใดจึงยังต้องกลืนกินเลือดเนื้อเผ่าต่างๆ สำหรับพวกเขาแล้ว น่าจะไม่มีความหมายใดถึงจะถูก” เหยียนเหยียนที่อยู่ข้างๆ ไม่เข้าใจอย่างมาก

“ไตรวิญญาณ แปรมาจากสามจิตของจักรพรรดิภูตคีรีใต้”

สวี่ชิงเล่าเรื่องที่อาจารย์พูดมาก่อนหน้าให้นายกองกับเหยียนเหยียนฟัง ขณะเดียวกันเขาก็สัมผัสได้ว่าเงาเขาจักรพรรดิภูตที่ย้ายมาในทะเลความรู้สึกของตนเอง ตอนนี้แตกต่างไปจากก่อนหน้าอยู่บ้าง

ราวกับ จักรพรรดิภูติคีรีที่ย้ายมา ในอาณาเขตนี้มีชีวิตขึ้นมา

สิ่งนี้ทำให้ในใจสวี่ชิงรู้สึกประหลาดมาก ขณะเดียวกันก็มีการคาดเดาที่มากขึ้น

เมื่อนายกองได้ยินก็เหมือนครุ่นคิด พยักหน้า

“เช่นนั้นก็ไม่แปลกแล้ว หนึ่งร่างสามจิตเจ็ดวิญญาณ ในนี้แฝงไว้ด้วยกฎเกณฑ์บางอย่างที่พวกเราไม่รู้จัก”

หลังจากสวี่ชิงสัมผัสจักรพรรดิภูติคีรีในทะเลความรู้สึก จากนั้นมองไปที่ทะเลสาบเลือดด้านล่างแห่งหนึ่ง เห็นศิษย์เขาไตรวิญญาณสะกดมรรคาที่กำลังตักน้ำอยู่ข้างทะเลสาบเลือด เอ่ยเสียงขรึม

“จากความหมายของอาจารย์ หลังจากที่จักรพรรดิภูตตนนั้นดับสูญลง ก็ทำให้มณฑลรับเสด็จราชันเปลี่ยนไป เช่นนั้นจะสามารถเข้าใจเช่นนี้ได้หรือไม่ว่าว่าคนที่เกิดขึ้นในผืนแผ่นดินนี้ ร่างกายของทุกคนล้วนแฝงสายเลือดส่วนหนึ่งของจักรพรรดิภูตเอาไว้

บทที่ 329 หนึ่งร่างสามจิตเจ็ดวิญญาณ 1

Verify captcha to read the content.ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผู้กล้าเหนือกาลเวลา