บทที่ 367 เจ้าเล่ห์เหี้ยมโหด
หญิงสาวบนตัวตะขาบส่งเสียงโหยหวนออกมา ร่างเพียงไหววูบตะขาบก็เคลื่อนตัวอย่างรวดเร็วไปบนผนังหลุม คิดจะสลัดกระดาษเงินกระดาษทองพวกนั้นออกไป แต่กลับไม่สามารถทำได้
กระดาษเงินกระดาษทองพวกนี้ก่อตัวจากในร่างของมัน แผ่ลามอย่างรวดเร็ว แผ่ลามไปบนตัวตะขาบทั้งตัว กระทั่งว่าใกล้จะปกคลุมไปยังกายท่อนบนของหญิงสาวทันที
เสียงแปลกประหลาดดังออกมาจากหน้าผีกระดาษเงินกระดาษทองพวกนั้นไม่หยุด แผ่ซ่านไปรอบๆ
“เจ้ากินอิ่มแล้วหรือยัง”
เสียงมากมายคล้ายมีคนนับไม่ถ้วนกำลังกรีดร้องคำราม
ในดวงตาของของนางเผยความเหี้ยมโหดหลังจากพบว่าไม่สามารถควบคุมกระดาษเงินกระดาษทองได้ นางควบคุมร่างมุดเข้าไปในผนังหลุม ร่างก็พลันมุดเข้าไป แล้วหายลับไปจากการร่วงหล่นของดิน
ในเสี้ยวขณะนี้กระดาษเงินกระดาษทองบนใบหน้าศพข้างล่างก็ปลิวลอยขึ้นมา ลอยไปในบริเวณที่ตะขาบเข้าไป
ใบหน้าผีบนนั้นไปพร้อมกับเสียงหัวเราะ ทะลุผนังหลุม ไล่ตามตะขาบไป
เหมือนว่าที่นี่เป็นกับดักจริงๆ แต่เป้าหมายไม่ใช่สวี่ชิง แต่เป็น…ตะขาบแปลกประหลาดตัวนั้น
หรือต้องพูดว่า การปรากฏตัวขึ้นของตะขาบดึงดูดกระดาษเงินกระดาษทองพวกนั้น ทำให้พวกมันเปลี่ยนเป้าหมาย
ความจริงคืออะไร สวี่ชิงก็ไม่รู้แน่ชัดเหมือนกัน ทำได้แค่เพียงคาดเดา
เขามองตะขาบที่จากไปไกล ในใจยิ่งระแวดระวังที่แห่งนี้มากขึ้น เพราะไม่ว่าจะเป็นกระดาษเงินกระดาษทองหรือตะขาบก็ล้วนทำให้เขารู้สึกอันตรายเป็นอย่างยิ่ง
ความรู้สึกประเภทนี้ไม่เกี่ยวกับพลังบำเพ็ญ เหมือนว่าตัวตนพวกนี้ล้วนมีพลังลึกลับ
“ค่อนข้างคล้ายกับจันทร์สีชาด…บางทีลูกกลอนพิษต้องห้ามของข้าอาจจะสังหารพวกมันได้ จันทร์สีม่วงก็ทำได้เหมือนกัน”
สวี่ชิงพึมพำ แต่เขาไม่อยากเปิดเผยตัวตนที่นี่ ตอนนี้ในขณะที่ระแวดระวังตัว เขาก็ค่อยๆ เข้าใกล้ศพข้างล่างพวกนั้นอย่างระวัง เก็บเศษชิ้นส่วนที่กระจายอยู่รอบๆ และเก็บถุงเก็บของบนศพเหล่านี้ไป
ลงลึกต่อไปพลางเปิดถุงเก็บของพวกนี้ออกดู ในนั้นล้วนมีเศษชิ้นส่วนจำนวนหนึ่งอยู่จริงๆ ด้วย รวมๆ แล้วมีประมาณร้อยกว่าชิ้นเห็นจะได้
หลังจากเก็บพวกมัน สวี่ชิงก็ลงลึกต่อไปด้วยความระแวงระวัง
และเมื่อถึงที่ระดับความลึกนี้ แม้กลิ่นเหม็นคาวจะรุนแรงขึ้น เสียงร้องงิ้วก็ชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ ความเย็นเยือกและไอพลังประหลาดก็รุนแรงตามไปด้วย แต่เศษชิ้นส่วนรอบๆ ก็ปรากฏมากขึ้นอีกเล็กน้อย
เมื่อสวี่ชิงเห็นก็เก็บไปอย่างรวดเร็ว
เวลาค่อยๆ หมุนผ่านไปเช่นนี้เอง หนึ่งวันผ่านไป
ระหว่างนั้นสวี่ชิงเห็นศพหลายร่าง เน่าเปื่อยอย่างรุนแรง แยกไม่ออกว่าใช่คนที่เข้ามาด้วยกันหรือไม่
ข้างๆ ศพเหล่านี้มักจะมีเงาผีประดุจสุนัขเร่ร่อนจำนวนหนึ่ง กำลังกัดกิน
อีกทั้งบนร่างของศพเหล่านี้ไม่มีถุุงเก็บของ
นี่ยิ่งทำให้สวี่ชิงระแวงระวัง ความเร็วที่ลงลึกก็ลดลงเล็กน้อย
ขณะเดียวกันเขาก็ได้เจอกับผีแปลกประหลาดจำนวนไม่น้อย อย่างเช่น ยักษ์ที่ทั่วทั้งตัวเหมือนภูเขาเนื้อ บนท้องมีปากแผลขนาดมหึมากำลังกลืนและคายดิน
ยกตัวอย่างอีกเช่นต้นไม้ลักษณะเหมือนดวงตาที่โตอยู่บนผนังหลุม พวกมันจ้องมองสวี่ชิง แผ่ความน่าขนลุกออกมา
แล้วยังมีนางรำที่เหมือนเซียนหญิงแต่งกายงดงามจำนวนหนึ่ง
พวกนางลอยออกมาจากในผนังหลุม ร่ายรำด้วยทะลุผ่านผนังหลุมอีกด้านหนึ่งไปด้วย ดูเหมือนจะงดงาม แต่ความจริงแล้วพวกนางล้วนไร้ใบหน้า
หากเปลี่ยนเป็นคนขี้ขลาด เกรงว่าตอนนี้คงจะต้องตกใจกลัวจนขาอ่อน คิดอยากจะไปจากที่นี่อย่างแน่นอน
ที่นี่มืดอับปิดทึบ กลิ่นเหม็นเน่าทรมาน ไม่ว่าจะเป็นผีประหลาดที่ปรากฏขึ้นหรือจะเป็นเสียงร้องงิ้วอยู่ตลอดนั่น ก็ล้วนทำให้วิญญาณสั่นสะท้านไปตามสัญชาตญาณ ขนลุกตั้งชัน
แต่สวี่ชิงยังรับได้ เขาเคยเห็นความโหดร้ายมากมายในโลกมนุษย์ ที่น่ากลัวกว่านี้ก็ใช่ว่าไม่มี
จวบจนวันที่สองจะผ่านไป สวี่ชิงที่ลงลึกลงไปได้ที่ความลึกมาก เศษชิ้นส่วนที่เก็บรวบรวมได้มีมากถึงสองร้อยกว่าชิ้น ความจริงนี่ก็เป็นขีดจำกัดสูงสุดแล้ว
และในตอนที่เขาพิจารณาว่าจะลงลึกต่อไปดีหรือไม่ ทันใดนั้นโลงที่แปลงมาจากเจ้าเงาข้างหลัง ก็ปรากฏขึ้นอีกครั้ง ดวงตาทุกดวงลืมตื่นขึ้น มองไปทางผนังเยื้องๆ อีกฝั่งหนึ่ง
ขณะเดียวกันก็มีระลอกคลื่นพลังชัดเจนรุนแรงส่งมาหาสวี่ชิง
สวี่ชิงใจกระตุกวูบ ในยามที่เงยหน้ามองไป เหล็กแหลมสีดำก็พลันพุ่งออกมา ตรงดิ่งไปที่ผนังหลุม ระเบิดเป็นหลุมใหญ่หลุมหนึ่งทันที เผยให้เห็นตะขาบหญิงสาวที่ลมหายใจรวยรินในนั้น
ร่างตะขาบของนางตอนนี้กลายเป็นกระดาษเงินกระดาษทองไปแล้วโดยสมบูรณ์ แห้งกรอบยับย่น เหมือนเครื่องในถูกกัดกินไปแล้ว เหลือเพียงกระดาษหุ้มชั้นหนึ่ง
ร่างคนตั้งแต่ดวงตาลงมาก็เช่นกัน นอนแผ่อยู่ตรงนั้น ดวงตาว่างเปล่า คล้ายว่ากำลังรอจะสลายไป
สวี่ชิงมองแวบหนึ่งก็ดึงสายตากลับมา กำลังจะจากไป แต่เจ้าเงาที่อยู่ข้างหลังก็ส่งระลอกคลื่นอารมณ์อ้อนวอนมา
“เจ้าอยากให้ข้าช่วยมันอย่างนั้นหรือ” สวี่ชิงประหลาดใจ นี่เป็นครั้งแรกที่เขาสัมผัสระลอกคลื่นประเภทนี้จากเจ้าเงา
“กลิ่นอาย…คุ้นเคย…อยาก…”
สวี่ชิงเงียบนิ่ง ผ่านไปครู่หนึ่งก็พยักหน้า
“ข้าทำได้แค่ลองเท่านั้น ล้มเหลวมันก็จะตายเหมือนเดิม”
โลงที่แปลงมาจากเจ้าเงาสั่นไหวทันที สวี่ชิงมองแวบหนึ่ง ชินชาแล้วกับเรื่องที่อีกฝ่ายถูกบรรจารย์สำนักวัชระสอนสั่งผิดๆ
ตอนนี้เขาเดินไปยังหลุมใหญ่ที่ตะขาบกระดาษอยู่
การมาเยือนของเขาทำให้หญิงสาวที่ตั้งแต่ดวงตาลงไปกลายเป็นกระดาษ ความว่างเปล่าในดวงตาของนางเกิดระลอกคลื่นรางๆ แต่กลับพูดไม่ออก
สวี่ชิงเดินเข้าไปใกล้ข้างหน้าอย่างสงบนิ่ง ก้มหน้ามอง วังสวรรค์วังที่สามในร่างของเขาพลันสั่นไหว พลังลูกกลอนพิษต้องห้ามแผ่ออกมาจากร่างของสวี่ชิง แผ่ลามไปที่ตะขาบหญิงสาวตนนั้น
ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผู้กล้าเหนือกาลเวลา