บทที่ 38 สังหารให้สิ้นซาก
“ไอ้เด็กเวรไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง!”
หัวหน้าฐานที่สวมชุดคลุมยาวสีทองสีหน้าย่ำแย่สุดขีด ไม่ว่าอย่างไรเขาก็คิดไม่ถึงเลยว่ากำลังคนของตัวเองจะจัดการเด็กคนนี้ไม่ได้
โดยเฉพาะเมื่อครู่เขายังคุยโวไปว่าจัดการได้ภายในหนึ่งก้านธูป ตอนนี้หนึ่งก้านธูปก็ได้ผ่านไปแล้วจริงๆ แต่ฝ่ายที่ถูกจัดการกลับเป็นองครักษ์ของตัวเอง
“ไอ้พวกไร้ประโยชน์!” ประกายเย็นเยือกฉายวาบขึ้นในตาของหัวหน้าฐาน เขาก้าวข้ามธรณีประตูออกไปก้าวหนึ่ง มุ่งหน้าไปหาสวี่ชิงทันที
ระลอกคลื่นพลังวิญญาณนอกร่างของเขาปะทุแข็งแกร่งขึ้นตามฝีเท้าที่ก้าวไปข้างหน้า ร่างกายก็แผ่เลือดลมที่น่าหวาดกลัวยิ่งกว่าออกไป ร่างใต้เสื้ออาภรณ์ขยายใหญ่ขึ้น ทำให้เงาของเขาดูแล้วราวกับภูเขาลูกหนึ่ง
กระทั่งว่ายังมีแสงสีแผ่ซ่านออกมาจากร่างของเขารางๆ เสียด้วยซ้ำ
หัวหน้าฐานก็เป็นผู้ฝึกกายาเหมือนกัน!
แต่เห็นได้ชัดว่าเคล็ดวิชาที่ฝึกฝนไม่ได้เป็นระดับต่ำแบบเคล็ดคีรีสมุทร แต่เป็นวิชามหาวัชระ เคล็ดวิชาชั้นยอดจากสำนักวัชระ
ตอนนี้ด้วยการโคจรอย่างเต็มที่ รัศมีอำนาจปะทุ ฝีเท้าของเขาก็รวดเร็วขึ้นในพริบตา แปรเปลี่ยนเป็นเงามหึมาพุ่งตรงมายังสวี่ชิง
รวดเร็วยิ่งยวด เพียงพริบตาก็มาอยู่หน้าสวี่ชิงแล้ว เหวี่ยงหมัดหนึ่งออกมาทันที การเหวี่ยงของหมัดนี้ ทั่วร่างของเขาเปล่งแสงทองเจิดจ้า เต็มไปด้วยอำนาจกดดัน
สวี่ชิงกวาดตามองชายชราชุดผ้าแพรปักดิ้นที่ยืนอยู่หลังธรณีประตูคอยมองมาทางนี้กับหัวหน้าเหลยที่ถูกหิ้วอยู่ในมือเขา ฝืนสะกดความกังวลลงไป หรี่ตาลงเล็กน้อย
เขารู้ดีว่าทันทีที่ตนชิงความได้เปรียบมาได้ เช่นนั้นก็เป็นไปได้อย่างมากว่าอีกฝ่ายจะใช้หัวหน้าเหลยมาข่มขู่
เรื่องแบบนี้เป็นสิ่งที่สวี่ชิงไม่อยากเห็น และวิธีป้องกันไม่ให้ภาพนั้นปรากฏขึ้นก็คือลงมือจู่โจมทันที!
จู่โจมโดยให้อีกฝ่ายไม่ทันได้ตั้งตัว
ดังนั้นแล้วสวี่ชิงจึงหรี่ตา ชกหมัดออกไปปะทะกับหัวหน้าฐานเช่นกัน
เสียงดังสะเทือนเลื่อนลั่น ร่างของสวี่ชิงถอยไปข้างหลังเจ็ดแปดก้าว แต่ก็ไม่ได้ถอยตรงไปเสียทีเดียว ทว่าเบี่ยงไปข้างๆ สามสี่ก้าว
ตอนนี้แสงอาทิตย์อยู่ข้างหลังเขา เงาที่สะท้อนอยู่บนพื้นก็ไหววูบไปตามการเคลื่อนไหวของเขา
และหัวหน้าฐานที่ปะทะกับสวี่ชิงก็สัมผัสถึงพลังที่มาจากเขา ตอนนี้ทั่วทั้งร่างสั่นสะท้าน ถอยไปข้างหลังเช่นกัน
แต่ในขณะที่เงยหน้าขึ้นมาในดวงตาของเขากลับฉายแววดูถูก ร่างเพียงไหววูบก็พุ่งมาหาสวี่ชิงอีกครั้ง พลังบำเพ็ญในกายโคจรอย่างเต็มกำลัง เกิดเป็นเสียงดังสะเทือนเลื่อนลั่น
เขาพูดจาดูถูก สายตาเหยียดหยาม แต่ยามลงมือ…กลับทุ่มสุดกำลัง
เห็นได้ว่าสิ่งที่แสดงออกมาล้วนแต่แกล้งแสดงทั้งสิ้น อย่างไรการจะเป็นหัวหน้าฐานได้ ทำให้คนเก็บขยะกลุ่มหนึ่งยำเกรง แม้จะเป็นลูกศิษย์ของสำนักใหญ่ ก็ไม่มีทางประมาทเด็ดขาด
“วิชามหาวัชระกระบวนที่หนึ่ง!” หัวหน้าฐานคำราม ระหว่างนั้นร่างก็ขยายใหญ่ขึ้นอีก พลังและความเร็วเพิ่มขึ้นพรวดพราด หลังจากที่ประชิดเข้ามาใกล้เพียงแค่เสี้ยวพริบตา ก็ทุ่มพลังลงมาเต็มแรง
สวี่ชิงก้มหน้า ทำให้หัวหน้าฐานมองไม่เห็นดวงตาคู่นั้นของเขา มือทั้งสองข้างพลันยกขึ้นปัดป้อง ถอยไปอีกครั้งท่ามกลางเสียงดังกึกก้อง การไหววูบของเงาที่ฝีเท้าเคลื่อนไหวชัดเจนขึ้นอีกเล็กน้อย
ทว่าไม่มีใครพบเห็น
“วิชามหาวัชระกระบวนที่สอง!” เห็นสวี่ชิงทานรับการโจมตีทั้งสองครั้งของตัวเองได้ ทำให้จิตสังหารในดวงตาของหัวหน้าฐานที่พลังบำเพ็ญถึงระดับรวมปราณขั้นแปดสุดยอดแล้วเข้มข้นขึ้นไปอีก
ทั้งร่างขยายขึ้นอีกครั้ง ซัดหมัดไปหาสวี่ชิงอีกที
แสงสีทองที่ปะทุออกมาจากหมัดนี้ยิ่งเจิดจ้าขึ้นอีก แต่ในพริบตาที่ซัดลงมา สวี่ชิงก็พลันเงยหน้าขึ้น
จิตสังหารในดวงตาของเขาปะทุออกมาอย่างรุนแรง ณ เสี้ยวขณะนี้ เขาย้ายตำแหน่งหลายครั้ง ในที่สุดก็ทำให้เงาของตัวเองตอนนี้ตรงกับชายชราชุดผ้าแพรปักดิ้นที่อยู่ตรงธรณีประตูเสียที
อีกทั้งอาศัยการเคลื่อนไหวซ่อนความบิดเบี้ยวที่เกิดขึ้นในยามที่เขาควบคุมเงา
และสืบเนื่องจากมุมองศาดวงอาทิตย์บนท้องฟ้า เงาในตอนนี้จึงยืดยาวมากจนมาถึงยังบริเวณที่ไม่ไกลจากข้างหน้าชายชราชุดผ้าแพรปักดิ้นมากนัก
ตามการเงยหน้าขึ้นของสวี่ชิง ตามจิตสังหารที่ปะทุขึ้นทั่วทั้งร่างของเขา เขาเมินหมัดที่มาจากหัวหน้าฐาน ร่างพลันกระโดดทะยานขึ้น
และในพริบตาที่ระดับความสูงของเขาเพิ่มขึ้น เงาของเขาก็ข้ามผ่านระยะห่างระหว่างชายชราชุดผ้าแพรปักดิ้นทันที
มีเงาส่วนหนึ่งแผ่ลามออกไปจากเงาที่บิดเบี้ยวอย่างรวดเร็วโดยไม่ทันให้ได้ตั้งตัว ปกคลุมไปยังข้อมือขวาของชายชราชุดผ้าแพรปักดิ้นที่หิ้วหัวหน้าเหลยเอาไว้ทันที!
เงาของสวี่ชิงไม่พาดผ่านร่างของหัวหน้าเหลยเลยแม้แต่น้อย!
นี่ก็คือเหตุผลสำคัญอีกข้อหนึ่งที่เขาปรับฝีก้าวเมื่อครู่นี้
พลังแปลกประหลาดของเงาก็พลันปะทุขึ้นท่ามกลางเสียงคำรามของสวี่ชิงเพียงเสี้ยวพริบตา
ในชั่วขณะนั้นชายชราชุดผ้าแพรปักดิ้นก็หน้าเปลี่ยนสีไปทันใด ความเจ็บปวดอย่างรุนแรงและการปะทุขึ้นของไอพลังประหลาดทำให้มือขวาของเขากลายเป็นสีเขียวคล้ำทันที
การเปลี่ยนแปลงเฉียบพลันนี้ทำให้เขาตกใจคลายมือที่จับร่างของหัวหน้าเหลยเอาไว้ไปโดยสัญชาตญาณ
และในเสี้ยวพริบตาที่เขาคลายมือออก ทางสวี่ชิงทั่วร่างก็ส่งเสียงเลื่อนลั่น พยายามแบกรับหมัดของหัวหน้าฐาน ในขณะที่ความเร็วของเขาปะทุขึ้นเต็มที่ก็พ่นเลือดสดๆ ออกมา
ทั้งร่างแปรเปลี่ยนเป็นรอยเงาหายไปจากที่เดิมทันที แล้วพุ่งไปยังทางชายชราชุดผ้าแพรปักดิ้นทางนั้น
ประกายวาววับประดุจสายฟ้าฟาดสองทางที่แปรเปลี่ยนมาจากเหล็กแหลมและกริช พุ่งประชิดเข้าไปหาชายชราชุดผ้าแพรปักดิ้น ทำให้เขาที่มือขวากลายพันธุ์จำต้องถอยหลังหลบ
และในขณะเดียวกับที่เขาถอยหลบ สวี่ชิงก็พุ่งเข้าไปข้างในคว้าหัวหน้าเหลยเอาไว้
ใช้แรงเหวี่ยงออกไปข้างนอก เงาร่างของกางเขนและเขี้ยวหงส์ทะยานตัวเข้ามาจากกลุ่มคนอย่างเร็วรี่ คว้าตัวเอาไว้แล้วถอยไปอย่างว่องไว
ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วยิ่งนัก รวดเร็วเป็นอย่างยิ่ง!
“เงาของเจ้า!!” ชายชราชุดผ้าแพรปักดิ้นหน้าเปลี่ยนสี พลันมองไปทางสวี่ชิง ทุกอย่างที่เกิดขึ้นเมื่อครู่เกิดขึ้นกะทันหัน เหนือความคาดหมายเกินไป เขาตั้งตัวไม่ทันเลย
หัวหน้าฐานที่อยู่นอกประตูตอนนี้ดวงตาก็หดเล็กลง การเคลื่อนไหวของสวี่ชิงทำให้เขาตื่นตะลึงสุดขีดจริงๆ
สวี่ชิงเช็ดเลือดที่มุมปาก มองทั้งสองคนอย่างเย็นชา เงาร่างของเขาราวกับเหยี่ยวล่าเนื้อภายใต้แสงอาทิตย์ยามเย็น อ้าปากส่งเสียงต่ำทุ้ม
“ตอนนี้เป็นทีของข้าบ้างแล้ว”
เขาพูดจบ ร่างก็ส่งเสียงดังบึ้มแล้วทะยานไปหาชายชราชุดผ้าแพรปักดิ้นทันที เทียบกับคนที่ฝึกกายา สวี่ชิงรู้สึกว่าคนที่ตนต้องฆ่าก่อนเป็นอันดับแรก ควรจะเป็นคนที่ฝึกฝนวิชาเวท


ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผู้กล้าเหนือกาลเวลา