เข้าสู่ระบบผ่าน

ผู้กล้าเหนือกาลเวลา นิยาย บท 400

บทที่ 400 มารพิษเคลื่อนไหว

พิษนี้ไร้สีไร้กลิ่น ยากจะสังเกตได้ ต่อให้รู้จักพืชสมุนไพรบ้าง ก็ยังไม่อาจสัมผัสได้ในทันที

มีเพียงคนที่ค้นคว้าวิถีพิษมาโดยเฉพาะเท่านั้น ที่สามารถสัมผัสถึงพิษได้ด้วยสัญชาตญาณ

เช่นสวี่ชิง

เขาสัมผัสได้ถึงพิษนี้ในพริบตา คิ้วขมวดเล็กน้อยอย่างที่ไม่สามารถสังเกตเห็น

นี่เป็นพิษที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อน รับรู้ส่วนประกอบสมุนไพรจากการดมไม่ได้ สัมผัสได้แค่ว่าในนี้มีพิษของสิ่งมีชิวิตอยู่ และน่าจะเป็นพิษผสม เพียงแค่ชนิดเดียวผลของมันจะหนักหนามากนัก

‘ยังต้องมีพิษอื่นด้วย ถึงจะกระตุ้นได้’

สวี่ชิงสีหน้าเป็นปกติ แต่ในใจกลับระแวดระวัง ถึงแม้เขาจะไม่กลัวพิษ ในร่างกายมีพิษที่ร้ายแรงยิ่งกว่า แต่ด้วยนิสัยรอบคอบก็ยังทำให้นิ้วของเขาดีดเบาๆ แผ่พิษออกไปรอบๆ

ใช้สิ่งนี้มาปกป้องตนเอง

เช่นนี้หากพิษของอีกฝ่ายเกิดเรื่องเหนือความคาดหมายขึ้นมา สวี่ชิงก็ยังมีวิธีรับมือได้ทัน

เมื่อทำเรื่องเหล่านี้เสร็จสิ้น สวี่ชิงก็สีหน้าไร้อารมณ์ ตั้งใจฟังการบรรยาย

ผู้คนรอบด้านเห็นผีขี้โรคไอออกมาเป็นเลือด แต่ละคนก็มองหน้ากัน ทว่าข่งเสียงหลงกลับนั่งตัวตรง มองเห็นความเคารพศรัทธาในแววตา เห็นได้ชัดว่ารู้จักผีขี้โรคคนนี้ ขณะเดียวกันก็โคจรเลือดลมในร่างกายตามสัญชาตญาณ ก่อตัวเป็นเกราะคุ้มกันรางๆ

ที่คล้ายกับเขายังมีอีกบางส่วน แต่ไม่ใช่ทั้งหมด

เวลานี้ผีขี้โรคที่สวมชุดนักพรตสีดำตรงหน้า ไออย่างรุนแรงขึ้นมาอีกหลายครั้ง ใบหน้าฉายแววอ่อนล้า ยกมือเช็ดมุมปาก

“ไม่เป็นไร นี่คืออาการเรื้อรังตอนที่ข้าไปเป็นสายลับในเผ่าคลื่นศักดิ์สิทธิ์เมื่อครั้งอดีต แล้วถูกเจ้าพวกคลื่นศักดิ์สิทธิ์เล่นงาน ไม่ตายหรอก

“ส่วนเคล็ดวิชาลับซ่อนสิ่งของของผู้ครองกระบี่ มีประโยชน์อย่างยิ่ง หลังจากนี้พวกเจ้าจะได้เผชิญหน้ากับภารกิจและการสู้รบต่างๆ ซึ่งจะข้องเกี่ยวถึงข่าวกรองและการเคลื่อนย้ายสิ่งของ

“เช่นนั้นเมื่อตนอยู่ในถิ่นศัตรูหรือถูกเล่นงานจนตาย จะรับรองได้อย่างไรว่าสิ่งที่เจ้าซ่อนไว้จะไม่รั่วไหลออกไปโลกภายนอก นี่จึงเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด วิชาลับนี้จะสอนวิธีสร้างมิติเล็กๆ ของพวกเจ้าขึ้นมาได้อย่างไร”

ผีขี้โรคเอ่ยแช่มช้า น้ำเสียงแม้จะเหนื่อยอ่อน แต่ก็ยังดังเข้าหูทุกคนอย่างชัดเจน

“ยิ่งไปกว่านั้นมิตินี้จะมีกุญแจลับอยู่ กุญแจลับของทุกคนล้วนแตกต่างกัน เหมือนกับคำสาปของวิญญาณแท้จริง สามารถกำหนดเองได้ แต่ก็อย่าลืมสำรองกุญแจลับนี้ไว้ด้วย พวกเจ้าวางใจได้ ทั้งวังครองกระบี่มีเพียงเจ้าวังเท่านั้นที่มีคุณสมบัติล่วงรู้กุญแจลับของคนทั้งหมด คนอื่นจะล่วงรู้ได้ในเวลาปฏิบัติภารกิจที่จำเป็นเท่านั้น”

เมื่อสวี่ชิงได้ยินก็ครุ่นคิด วิธีการซ่อนของเช่นนี้ค่อนข้างแตกต่าง

ส่วนนายกองข้างหน้าเขา ตอนนี้ดวงตาเป็นประกาย

‘มีเพียงเจ้าวังที่รู้ถึงกุญแจลับของคนทั้งหมด เช่นนั้นถ้าข้าเอากุญแจลับนี้เปลี่ยนเป็นประโยคหนึ่ง เช่นปกป้องเผ่ามนุษย์ จะสามารถเพิ่มความรู้สึกดีอ้อมๆ ได้ใช่หรือไม่ เมื่อคนอื่นรู้ ก็จะเคารพศรัทธา’

ขณะที่นายกองกำลังครุ่นคิดน่าจะทำได้ ผีขี้โรคก็เอ่ยต่อ

“ประโยชน์ที่สำรองไว้คือหลังจากที่เจ้าเสียสละ รับรองได้ว่าผู้ครองกระบี่คนอื่นจะค้นหามิติเก็บของนั่นจากร่างของเจ้า แล้วนำคำสั่งเสียรวมถึงสิ่งของออกมาได้”

นายกองกะพริบตาปริบๆ รู้สึกว่าความคิดของตนไม่ค่อยมงคล จึงล้มเลิกไป

เมื่อผีขี้โรคแนะนำจบ ก็เริ่มถ่ายทอดวิชาที่เกี่ยวข้อง

แม้จะไม่อนุญาตให้คนอื่นเอ่ยปากถาม แต่การถ่ายทอดของผีขี้โรคก็ละเอียดยิบ ทุกขั้นตอนล้วนเป็นรายละเอียด แต่ว่าระหว่างนี้เขาก็กระอักเลือดออกมาอีกหลายครั้ง ร่างกายโซเซเหมือนจะล้ม จนช่วงเช้าผ่านไป เขาจึงเสร็จสิ้นการบรรยาย

ไม่นานผู้ครองกระบี่แต่ละคนก็โคจรในร่างกาย เริ่มทดสอบ

“พวกเจ้ากลับไปฝึกฝนกันเองเถอะ” ผีขี้โรคพูดจบก็ลุกขึ้น และเหมือนจะลุกเร็วเกินไป มุมปากเขามีเลือดสดไหลออกมา หลังจากเช็ดทิ้งไปอย่างไม่ยี่หระ ก็เดินมาถึงประตูตำหนักประสิทธิ์วิชา

ก่อนจะออกไป จู่ๆ เขาก็หันกลับมามองคนทั้งหมดในตำหนัก ยิ้มออกมา

“จริงสิ อันที่จริงบทเรียนของข้าไม่ใช่แค่มาสอนเคล็ดวิชาลับซ่อนสิ่งของของผู้ครองกระบี่กับพวกเจ้า ข้ายังใช้การกระทำบอกกับพวกเจ้าด้วย ในฐานะผู้ครองกระบี่ ต้องคอยรักษาความระแวดระวังเอาไว้ตลอด

“พวกเจ้าไม่เห็นเลยหรือ ว่าข้าไม่ได้ใส่ชุดนักพรตของผู้ครองกระบี่

“หลายวันมานี้พวกเจ้าเคยเห็นคนที่ไม่ใส่ชุดนักพรตผู้ครองกระบี่ในวังครองกระบี่หรือไม่

“มาเรียนที่นี่ ก็ต้องเป็นผู้ครองกระบี่อยู่แล้วใช่หรือไม่ แล้วการระแวดระวังของพวกเจ้าเล่า การเตรียมพร้อมของพวกเจ้าเล่า สามกฎ เจ็ดระเบียบ ทั้งหมดหกสิบเก้าข้อที่ผู้ครองกระบี่ปฏิญาณไปก่อนหน้านี้ลืมสิ้นแล้วหรือ

“แม้จะมีเสื้อผ้าธรรมดาจริง ตามปกติก็ยังต้องให้ผู้ครองกระบี่คอยคุ้มกันและแนะนำสถานะด้วย นี่เป็นเพียงการทดสอบง่ายๆ ส่วนผลการทดสอบ…พวกเจ้าบางคนขี้เกียจเกินไป” ผีขี้โรคพูด มือขวายกขึ้นโบก

ในกลุ่มผู้ครองกระบี่ห้าสิบเอ็ดคน มีสิบกว่าคนล้มตึง จากนั้นก็สลบไสลไป ที่เหลือเหล่านั้นก็พากันมองผีขี้โรค

พวกนายกอง ชิงชิว ข่งเสียงหลงล้วนอยู่ในนี้

“ถ้าหากข้าเป็นศัตรูภายนอกแทรกซึมเข้ามา เช่นนั้นตอนนี้คนเหล่านั้นก็ตาบอดไปแล้ว”

ผีขี้โรคกวาดตามองพวกที่ล้มไปเหล่านั้น ยิ้มออกมา

“ผู้ครองกระบี่รุ่นนี้ ไม่ต่างจากก่อนหน้านี้เท่าไรนัก ทว่าตั้งแต่ต้นจนจบก็ไม่มีใครพบถึงความผิดปกติของชุดข้าเลย ดังนั้นยังไม่ผ่านเกณฑ์

“พวกที่สลบไปแย่มาก พวกเจ้ารองลงมา จะบันทึกเอาไว้ในผลการทดสอบด้วย” ผีขี้โรคพูดจบ ก็สะบัดแขนเสื้อ เสื้อผ้าบนตัวเปลี่ยนกลับมาเป็นชุดนักพรตผู้ครองกระบี่

หลังจากนั้นก็ล้วงเอายาลูกกลอนส่วนหนึ่งออกมา โยนให้ผู้ครองกระบี่ที่สลบไสลเหล่านั้น จากนั้นเขาก็ยิ้มเหมือนไม่ยิ้มให้พวกสวี่ชิง

“แต่ก็ยังมีหลายคน ที่ผ่านเกณฑ์ ดวงตานี้เป็นของใครกัน?” ผีขี้โรคพูดพพลางคว้าลูกตาข้างหนึ่งออกมาจากด้านหลัง

นายกองกระแอมไอ

“แล้วก็เมล็ดแตงนี่”

“แล้วก็ความคิดชั่วร้ายนี่ด้วย”

“แล้วก็ผมเส้นที่จู่ๆ ก็พุ่งออกมานี่”

“และยังมีปราณหมอกนี่ เจ้าคงไม่ได้เป็นทาสของเผ่าควันขจรใช่หรือไม่” ผีขี้โรคกวาดสายตาไล่ไปทางนายกอง เย่หลิง ชิงชิว ซานเหอจื่อรวมถึงหวังเฉิน

“พวกเจ้าห้าคน ผ่านเกณฑ์!”

บทที่ 400 มารพิษเคลื่อนไหว 1

บทที่ 400 มารพิษเคลื่อนไหว 2

บทที่ 400 มารพิษเคลื่อนไหว 3

Verify captcha to read the content.ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผู้กล้าเหนือกาลเวลา