บทที่ 413 เทพเจ้าที่น่าสมเพชที่สุดในประวัติศาสตร์
ค่าตอบแทนข่งเสียงหรงค่อนข้างดี ถูกขังอยู่ที่เขตติงสาม
ที่นั่นอยู่ชั้นที่หนึ่ง แสงจึงยังพอลอดลงมาบ้าง นอกจากนี้ในห้องขังก็ไม่มีใครอีก
หลังจากสวี่ชิงสอบถามจึงได้รู้ว่าสิบเขตที่อยู่ด้านหน้าล้วนเตรียมไว้ให้คนของตน ปกติผู้ครองกระบี่ที่ทำผิดเหล่านั้นล้วนถูกขังอยู่ที่นี่ และข่งเสียงหรงก็เป็นแขกประจำของกรมราชทัณฑ์
“น่าเสียดายที่ครั้งนี้กะทันหันเกินไป ข้าไม่ได้เตรียมสุรามา…” ข่งเสียงหรงที่นั่งอยู่ในห้องขังก็เดาะลิ้น มองสวี่ชิงอย่างน่าสงสาร แล้วเลียริมฝีปากตัวเอง
เขากระหายแล้วจริงๆ
สวี่ชิงมองไปรอบๆ เมื่อแน่ใจว่าวันนี้ที่แค่ข่งเสียงหลงที่ถูกขังไว้ ก็ล้วงกาสุราออกมาใบหนึ่งส่งเข้าไป
ดวงตาข่งเสียงหรงเป็นประกาย รีบร้อนคว้าไปเปิดแล้วดื่มอึกใหญ่ จากนั้นก็เรอออกมา หัวเราะอย่างมีความสุข
“สุขเหลือเกิน! ปกติดื่มเป็นประจำไม่ได้รู้สึกอะไร แต่บางครั้งเมื่อไม่ได้ดื่มก็คิดถึง
“มาสวี่ชิง ดื่มกับข้าหน่อย” พูดจบ ข่งเสียงหรงก็ชูกาสุราขึ้น ชนกับสวี่ชิงโดยมีกรงขังขวางกั้น
สวี่ชิงทำปางมือ ฉับพลันดาลประตูใหญ่ห้องขังเขตสามก็กลับมาลงกลอน จากนั้นเขาก็ล้วงกาสุราอีกใบออกมา ดื่มด้วยเช่นกัน
ข่งเสียงหรงยิ่งเริงร่าไปอีก ทั้งสองดื่มกันคนละอึกอย่างมีความสุข ระหว่างนี้สวี่ชิงก็ล้วงเอาผิงกั่วอีกหลายผลส่งให้ข่งเสียงหรง
ทว่าเมื่อข่งเสียงหรงกินไปคำหนึ่ง รู้สึกว่าไม่มีรสชาติ จึงหันไปดื่มสุราต่อ
สวี่ชิงยังพอไหว กินผิงกั่วไปด้วยดื่มสุราไปด้วย ส่วนข่งเสียงหรงดื่มแต่สุรา พูดมากกว่าก่อนหน้านี้มาก พูดไปเรื่อยไม่หยุด
“หลายเขตในชั้นหนึ่งข้าไปอยู่มาหมดแล้ว บางครั้งโชคดีไม่ถูกจับได้ แต่บางครั้งโชคไม่ดีก็มีคนรายงาน ครั้งนี้โชคร้ายยิ่งกว่า ดันมาเจอกับเจ้าวังจังๆ”
พูดถึงเจ้าวัง ข่งเสียงหรงก็ถอนหายใจติดต่อกัน
“จริงสิสวี่ชิง ช่วงนี้เจ้ากำลังทำอะไรอยู่หรือ ข้าเห็นว่าพลังบำเพ็ญของเจ้าเหมือนใกล้จะทะลวงขั้นแล้ว แล้วไยไม่ทะลวงขั้นเสียที ถ้าเจ้าทะลวงขั้นได้เร็ว คราวหน้าหากมีภารกิจที่มีแต้มกองทัพมากอะไร พวกเราจะได้ไปทำด้วยกัน”
สวี่ชิงเงียบนิ่งไปครู่หนึ่ง เขาคิดถึงวิชาระดับจักรพรรดิของอีกฝ่าย ยิ่งไปกว่านั้นยังมีวังสวรรค์อีกสิบวังด้วย จึงพูดถึงวังสวรรค์วังที่ห้าของตนเองออกมาง่ายๆ ขณะเดียวกันก็ถือเป็นการขอเรียนรู้ด้วยเลย
“ข้ามีประสบการณ์เรื่องนี้ ถ้าวิชาระดับจักรพรรดิผสานกับวังสวรรค์ จะแตกต่างกับวิชาธรรมดา จำเป็นต้องมีพิธีกรรมโดยเฉพาะและยังต้องการการคุ้มครองด้วย ตอนนั้นข้าใช้แต้มกองทัพแลกวิชาระดับจักรพรรดิมา เรื่องการคุ้มครองก็ใช้แต้มกองทัพเชิญผู้ดูแลมาช่วยเหลือ เอาล่ะ พูดก็คงจะไม่เท่าไรนัก ข้าทำให้เจ้าดูเลยดีกว่า”
ขงเสียงหรงพูดพลางยกมือขวาขึ้น ทันใดนั้นร่างของเขาก็เปลี่ยนเป็นโปร่งใส วังสวรรค์สิบวังก็ปรากฏขึ้นมาในสายตาสวี่ชิงอย่างชัดเจน
หกวังสวรรค์อยู่ด้านล่างหมอกชีวิต อีกสี่วังสวรรค์อยู่ในหมอกชีวิต
ในสี่วังสวรรค์ด้านหลังมีอยู่สามวังที่ก่อขึ้นจากตะเกียงแห่งชีวิต เปล่งแสงประกายเจิดจ้า รูปร่างแต่ละวังก็แปลกประหลาด แผ่คลื่นพลังที่น่าตกตะลึงออกมาทุกวังสวรรค์
ส่วนวังสวรรค์ที่เหลือก็ไม่ธรรมดา โดยเฉพาะสองวังในนั้นพิเศษมาก
วังสวรรค์วังหนึ่งมีมังกรทองโอบล้อม ทั่วร่างแผ่แสงทอง รู้สึกถึงความไม่ธรรมดาอย่างมาก ตอนสวี่ชิงตรวจดู มังกรทองที่ขดอยู่ก็เงยหน้าขึ้นฉับพลัน จ้องสวี่ชิงดวงสายตาเฉียบคม
วิหคทองด้านหลังสวี่ชิงก็ปรากฏตัวออกมา วนเวียนอยู่ในเขตติงสาม มองไปทางมังกรทอง
ทั้งสองฝ่ายดึงดูดกัน แฝงแววพิจารณาอยู่ด้วย
ส่วนวังสวรรค์ระดับจักรพรรดิอีกวัง คือวังกระบี่วงหนึ่ง รูปร่างคล้ายคลึงกับตำหนักหลักวังครองกระบี่ แผ่พลานุภาพกระบี่ที่ยอดเยี่ยมออกมา กลิ่นอายเฉียบคมมาก
หลังจากสวี่ชิงเห็นก็ใจสั่นสะท้าน เดิมเขาคิดจะขอคำชี้แนะ ไม่คิดว่าข่งเสียงหรงจะสำแดงวังสวรรค์ออกมาให้เขาเห็นจนหมด
ต้องรู้ว่าวังสวรรค์เป็นความลับของคนคนหนึ่ง นอกจากจะเชื่อใจอย่างมากแล้ว ไม่มีทางเปิดเผยออกมาง่ายๆ
แต่ข่งเสียงหรงทางนี้เหมือนจะไม่ได้กลัวเลยแม้แต่น้อย เผยออกมาให้สวี่ชิงเห็นตรงๆ
“ตะลึงอะไรกัน เจ้าพวกนี้ไม่ใช่มีแค่เจ้าที่เคยเห็น พวกเสี่ยวเหอกับเสี่ยวเฉินก็เคยเห็นกันหมดแล้ว”
ข่งเสียงหรงหัวเราะ แม้ว่าว่าพันธนาการยังอยู่ ไม่สามารถแผ่พลังบำเพ็ญออกมาภายนอกได้ แต่แค่แสดงวังสวรรค์และทะเลความรู้สึกของตนเองออกมา ก็ถือว่ายังทำได้อยู่
“เห็นแล้วใช่หรือไม่ นี่คือวังสวรรค์ที่ก่อขึ้นจากวิชาระดับจักรพรรดิ เจ้าคงจะสัมผัสรับรู้กระบี่จักรพรรดิแล้วกระมัง เมื่อครู่ข้าพึ่งเหนี่ยวนำการขับเคลื่อนปราณ เมื่อกระบี่จักรพรรดิของเจ้าถึงขั้นสอง ก็จะสามารถผสานจนกลายเป็นวังกระบี่ได้”
ข่งเสียงหรงบอกประเด็นสำคัญแล้วยังแสดงวังสวรรค์วิชาจักรพรรดิสองวังของตนเพื่ออธิบายให้กับสวี่ชิงฟัง ทำให้สวี่ชิงเห็นได้ชัดเจนมากขึ้น
เมื่อได้เห็นวังสวรรค์ของข่งเสียงหรงกับตา สวี่ชิงก็รู้สึกซาบซึ้ง สีหน้าฉายแววเคร่งขรึม ลุกขึ้นคารวะสุดตัวไปทางข่งเสียงหรง
“ขอบคุณพี่ข่งมากนะขอรับ”
”ระหว่างพี่น้อง ไม่ต้องขอบคุณกันหรอก” ข่งเสียงหรงสลายวังสวรรค์ของตนเอง ดื่มสุราลงไปอึกใหญ่ หัวเราะขึ้นมา
“เจ้ากลับไปผสานกับวิชาระดับจักรพรรดิ เริ่มเปิดวังสวรรค์วังที่ห้า ข้าจะดูว่ามีภารกิจที่ได้แต้มกองทัพเยอะบ้างหรือไม่แล้วจะเรียกเจ้า สำนักงานภาคสนามอย่างเรามีภารกิจไม่น้อย เสี่ยวเหอกับเสี่ยวเฉินพูดกับข้าหลายครั้งว่าให้ข้าหาภารกิจเช่นนี้ให้ พวกเขาก็ขาดแต้มกองทัพแลกสิ่งสืบทอดเช่นกัน”
สวี่ชิงขอบคุณอย่างตั้งใจ จากนั้นก็ดื่มกับข่งเสียงหรงต่ออีกหน่อย ถึงช่วงเลิกเวรจึงจากไป ไม่ได้กลับไปที่หอกระบี่ แต่ไปยังทางใต้ของเมืองเพื่อซื้อขนมดอกกุ้ย
คืนนี้เขาคิดจะกลับไปสำนักย่อยเพื่อพบจอมเซียนจื่อเสวียน
วังสวรรค์วังที่ห้าก่อตัวสมบูรณ์แล้วเมื่อวานนี้ สวี่ชิงตัดสินใจว่าคืนนี้จะนำวิหคทองหลอมหมื่นวิญญาณผสานเข้าไป แล้วก่อร่างวังสวรรค์ระดับจักรพรรดิของตนเองวังแรกขึ้นมา
“แก่นวิญญาณอสูรสมุทรบรรพกาล…ก็ไว้ก่อนแล้วกัน ครั้งหน้าค่อยใช้!”
สวี่ชิงมองอสูรสมุทรบรรพกาลที่ขดอยู่ในช่องเวทดวงชีพตนเอง
อสูรสมุทรบรรพกาลก็เงยหน้าขึ้นมามองสวี่ชิงด้วยการชักนำของกลิ่นอาย
‘ครั้งหน้าแน่นอน!’ สวี่ชิงพึมพำในใจ มาถึงทางใต้เมืองหลวงเขตปกครอง หาร้านขนมดอกกุ้ยเจอจนได้
ขณะเดียวกัน หลังจากที่สวี่ชิงออกจากกรมราชทัณฑ์ เจ้าวังที่นั่งขัดสมาธิอยู่ในตำหนักใหญ่ชั้นแปดสิบเก้า เงยหน้ามองเบื้องบน ขมวดคิ้วขึ้นมา แค่นเสียงเย็นชาขึ้น



ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผู้กล้าเหนือกาลเวลา