บทที่ 418 ความฝันที่ไม่มีวันเลือนหาย
ฝนยังคงเทลงมา ประพรมพื้นดิน ตกกระทบลงบนปราการ
บริเวณที่ตั้งของค่ายกลส่งข้ามเปิดโล่ง ดังนั้นไม่นานนักน้ำฝนก็ชะล้างคาวเลือดบนพื้นไป
ท่ามกลางสายฟ้าที่ประเดี๋ยวๆ ก็แลบแปลบปลาบ เสียงสายฟ้าฟาดดังสะเทือนเลื่อนลั่น ร่างแยกควันขจรของหวังเฉินกำลังซ่อมแซมค่ายกลอย่างรวดเร็ว และเปลี่ยนสถานที่ปลายทาง
อย่างไรเสียที่นี่ก่อนหน้านี้ก็ถูกองครักษ์ชุดดำของเผ่าคลื่นศักดิ์สิทธิ์ที่แฝงตัวเข้ามาในเขตปกครองผนึกสมุทรยึดครอง ต่อให้ค่ายกลส่งข้ามได้รับการซ่อมแซม แต่ก็ยากจะรับประกันความปลอดภัยของสถานที่ปลายทางในแผนการ
ดังนั้นวิธีที่ปลอดภัยแน่นอนกว่าคือเปลี่ยนสถานที่ส่งข้าม
ในระหว่างที่ซ่อม ข่งเสียงหลงก็เงยหน้าไปมองทางเขตชายแดนเผ่าคลื่นศักดิ์สิทธิ์บ่อยๆ สีหน้าแฝงด้วยความเคร่งขรึม
“ที่นี่มีกับดัก ไม่เหมือนวางไว้เพื่อพวกเราโดยเฉพาะ พวกมันไม่มีทางรู้ร่องรอยของพวกเรา อีกทั้งหากลงมือกับพวกเราก็ไม่มีทางมีคนมาแค่นี้แน่”
“ดังนั้นเหมือนขัดขวางคนที่เข้าใกล้เขตชายแดนทุกคนเสียมากกว่า อีกทั้งน่าจะไม่ได้มีแค่ปราการค่ายกลส่งข้ามที่นี่ที่มีปัญหาเท่านั้น” สวี่ชิงอยู่ข้างๆ เอ่ยเสียงต่ำทุ้ม
“เผ่าคลื่นศักดิ์สิทธิ์น่าจะอยู่ที่เขตข้างหน้าค้นหาคนที่พวกเราจะมารับ” ซานเหอจื่อเดินมาเอ่ยเนิบนาบ
“หรือเส้นทางของเราเส้นทางนี้จะเป็นเส้นทางจริง” เยี่ยหลิงเอ่ยอย่างแปลกใจ จากนั้นก็มองไปรอบๆ ตามสัญชาตญาณ เพราะจากการวิเคราะห์ของพวกเขาก่อนหน้านี้ เส้นทางรับเส้นจริงน่าจะมีผู้แข็งแกร่งคอยติดตามอย่างลับๆ
“ไม่แน่ การกระทำของเผ่าคลื่นศักดิ์สิทธิ์ก็เปิดโปงพวกเขาถึงแค่นี้ ยังไม่ได้ล่วงรู้เรื่องเส้นทางจริงของสายลับฝั่งเรา ดังนั้นที่เขตชายแดนในหลายๆ มณฑลก็น่าจะทำการค้นหาหมด”
ข่งเสียงหลงในตาฉายประกาย
สวี่ชิงแอบพยักหน้า
ภารกิจครั้งนี้ทุกคนล้วนเข้าใจว่าการมารับน่าจะเป็นเรื่องลวง การกลับมาของสายลับที่แฝงตัวในเผ่าคลื่นศักดิ์สิทธิ์คนนั้นจะต้องเป็นแผนการลับลวงพรางอะไรเทือกๆ นั้นแน่นอน
นี่ทำให้เผ่าคลื่นศักดิ์สิทธิ์ยากจะจับเป้าหมายการไล่ล่าสังหารได้อย่างแม่นยำ และในเขตปกครองผนึกสมุทรก็ย่อมมีสายลับของเผ่าคลื่นศักดิ์สิทธิ์เช่นกัน ดังนั้นทิศทางของวังครองกระบี่ในระดับหนึ่งแล้วก็หมายถึงเส้นทางที่แน่นอนของสายลับ
นี่ก็เป็นเหตุผลที่ทำไมสำนักงานภาคสนามถึงต้องแบ่งเป็นกลุ่มย่อยหลายกลุ่ม
สวี่ชิงยังรู้สึกกระทั่งเป็นไปได้ว่ากลุ่มย่อยที่มารับที่เห็นทุกกลุ่มล้วนแต่เป็นหมอกควันลวงเผ่าคลื่นศักดิ์สิทธิ์ บางทีอาจจะมีกลุ่มลับกำลังเคลื่อนไหวอยู่
นอกจากนั้นสายลับที่กลับมาจากเผ่าคลื่นศักดิ์สิทธิ์ตัวจริงคนนั้นไม่จำเป็นต้องไปรับเลยก็เป็นไปได้
นี่เป็นการเดิมพันของทั้งสองฝ่าย
แต่ว่าสวี่ชิงสัมผัสได้ถึงความตกต่ำของเผ่ามนุษย์อีกครั้งผ่านเรื่องนี้
แม้บริเวณชายแดนจะมีกฎเกณฑ์ห้ามผู้บำเพ็ญระดับปราณก่อกำเนิดเหยียบย่างเข้ามา แต่ต่ำกว่าระดับปราณก่อกำเนิดลงมามีผู้บำเพ็ญของเผ่าคลื่นศักดิ์สิทธิ์มากขนาดนี้ นี่ก็บ่งบอกได้ถึงความอ่อนแอของแนวป้องกันเขตปกครองผนึกสมุทรได้แล้ว
หลักเหตุผลนี้ทุกคนล้วนเข้าใจ ต่างเงียบนิ่ง
เวลาไม่นาน ท่ามกลางเสียงระเบิดรัวเป็นชุด ค่ายกลส่งข้ามก็ซ่อมแซมเสร็จ
ไม่ว่าการรับตัวครั้งนี้จะเป็นเรื่องจริงหรือกลลวง พวกเขาก็ยืนยันว่าจะตรงไปข้างหน้าต่อ ตอนนี้ก้าวเข้าไปในค่ายกลส่งข้ามอย่างรวดเร็ว จากการกะพริบแสงวูบวาบของแสงค่ายกล ท่ามกลางฝนห่าใหญ่ เงาร่างของคนทั้งหลายก็หายไป
ในตอนที่ปรากฏตัวขึ้น เขตชายแดนมณฑลเผชิญคลื่น ในหุบเขาซ่อนเร้นแห่งหนึ่ง
“ทุกคนระมัดระวังตัวเอาไว้ ผู้แฝงตัวเข้ามาของเผ่าคลื่นศักดิ์สิทธิ์ที่นี่น่าจะมีไม่น้อย ข้าจะไปสำรวจสถานที่ซ่อนตัวของสายลับที่พวกเราต้องไปรับตัวก่อนสักหน่อย หวังว่าเขาจะยังมีชีวิตอยู่”
ในเสี้ยวขณะที่เดินออกมา ข่งเสียงหลงเอ่ยเสียงต่ำ ขณะเดียวกันก็เอาจานเข็มทิศออกมา
ระหว่างผู้ครองกระบี่ด้วยกันมีวิธีติดต่อลับเป็นชุด อีกทั้งวิธีที่ใช้ของภารกิจทุกครั้งก็ไม่เหมือนกัน มีเพียงผู้รับผิดชอบภารกิจเท่านั้นถึงจะได้รู้
ยกตัวอย่างเช่นจานเข็มทิศ นี่คืออาวุธเวทพิเศษที่ใช้กับภารกิจของภารกิจครั้งนี้ มันจะชี้ไปทางบริเวณที่สายลับที่ต้องมารับตัวอยู่
ภารกิจของพวกเขาคือหาอีกฝ่ายให้เจอผ่านจานเข็มทิศ แล้วไปรับตัว
เรื่องนี้สวี่ชิงเข้าใจ ในตอนฝึกฝนลับวังครองกระบี่ก็ได้เผยแพร่และถ่ายทอดให้
ต่อหน้าทุกคน ข่งเสียงหลงประสานปางมือชี้ไปที่จานเข็มทิศ ทันใดนั้นเข็มบนนั้นก็หมุนเร็วจี๋ ไม่ได้ชี้ทิศทางง่ายๆ แบบนั้น แต่วาดเป็นภาพฉากหนึ่งออกมาในขณะที่หมุน
ในภาพมีจุดแดงจุดหนึ่งห่างจากตรงนี้ไประยะหนึ่ง ตอนนี้กำลังกะพริบแสงริบหรี่
เห็นจุดแดงนี้กะพริบทุกคนก็ถอนหายใจโล่งอก
นี่หมายถึงว่าอีกฝ่ายยังมีชีวิตอยู่
ข่งเสียงหลงก็ตื่นตัว เริ่มจัดหน้าที่ทุกคน
เรื่องรับตัวคนจะบุ่มบ่ามไม่ได้ หากตรงไปเลยเป็นไปได้อย่างมากว่าอาจจะทำให้ตำแหน่งของอีกฝ่ายเปิดเผยได้
ดังนั้นสิ่งที่ต้องทำอันดับแรกคือล่อเผ่าคลื่นศักดิ์สิทธิ์ที่นี่ไป พร้อมกับทำการกำจัดทิ้งให้หมด ขณะเดียวกันนั้นก็ทำการรับตัว สามขั้นตอนนี้ต้องทำพร้อมกันทั้งหมด
สิ่งที่ทางสวี่ชิงต้องทำคือกำจัดทางเขตนี้ให้มากที่สุดเท่าที่ทำได้ คนที่ไปกับเขาคือเยี่ยหลิง
ส่วนคนที่ล่อเผ่าคลื่นศักดิ์สิทธิ์ไปคือพวกซานเหอจื่อและหวังเฉิน
หน้าที่การรับตัวจะเป็นข่งเสียงหลงคนเดียวที่ดำเนินภารกิจให้เสร็จสิ้น
ฟังการจัดการของข่งเสียงหลง สวี่ชิงพยักหน้า วิธีของฝ่ายตนเป็นวิธีธรรมดาๆ มาก และเป็นวิธีที่สมเหตุสมผล ดังนั้นพวกเขาก็แบ่งเป็นสามกลุ่มอย่างรวดเร็ว ต่างฝ่ายต่างลงมือ
สวี่ชิงเพียงไหววูบก็ผสานไปในความมืด เริ่มค้นหาเผ่าคลื่นศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่รอบๆ
เยี่ยหลิงก็เช่นกัน พวกเขาผู้ครองกระบี่สำนักงานภาคสนามกลุ่มนี้ก็แยกย้ายกันไปเช่นกัน
เวลาไหลไป หลังจากนั้นครึ่งชั่วยาม จากเสียงดังกึกก้องของเสียงระเบิด ระลอกคลื่นวิชาเวทก็ดังมาจากที่ไกล
สวี่ชิงเงยหน้าไปมอง นั่นเป็นบริเวณที่ซานเหอจื่อและหวังเฉินอยู่ พวกเขารับผิดชอบดึงความสนใจเผ่าคลื่นศักดิ์สิทธิ์
แต่ไม่นานนักสวี่ชิงก็ขมวดคิ้ว
เพราะการเดินทางของพวกเขาตลอดเส้นทางมานี้ พื้นที่เขตนี้ไม่พบร่องรอยเผ่าคลื่นศักดิ์สิทธิ์ใดๆ ทั้งสิ้น อีกฝ่ายเหมือนไม่มีตัวตน นี่ไม่ตรงกับการวิเคราะห์ของพวกเขาก่อนหน้านี้ที่สรุปได้ว่าอีกฝ่ายกำลังทำการค้นหาตัวสายลับ
“มีอะไรไม่ชอบมาพากล!” สวี่ชิงมีความระแวงระวังภัยที่มากยิ่งกว่า
คนที่รู้สึกว่าไม่ชอบมาพากลเหมือนกันยังมีซานเหอจื่อกับหวังเฉิน ภารกิจตัวล่อของพวกเขา ล่อเผ่าศักดิ์สิทธิ์มาไม่ได้เลย
ภาพแปลกประหลาดนี้ทำให้ทุกคนล้วนรู้สึกเคร่งเครียด
ไม่นานหลังจากนั้น แสงสัญญาณที่เกิดจากวิชาเวททางหนึ่งก็พุ่งขึ้นฟ้า กะพริบวาบบนท้องฟ้า นี่เป็นสัญญาณรวมพลฉุกเฉิน
มองสัญญาณนี้ สวี่ชิงในใจหนักอึ้ง เขารู้ว่าเกิดปัญหาขึ้นแน่แล้ว
เพราะสถานที่ส่งสัญญาณมา เป็นบริเวณที่ข่งเสียงหลงไปรับตัวสายลับ
หากทุกอย่างเป็นไปตามแผน ข่งเสียงหลงไม่มีทางส่งสัญญาณตรงนั้น เขาน่าจะพาคนจากไปไกลแล้วถึงส่งสัญญาณบอกทุกคน
สวี่ชิงรีบเปลี่ยนทิศทางทันที พุ่งตรงไปยังบริเวณที่ส่งสัญญาณ หลังจากหนึ่งก้านธูปในที่สุดเขาก็มาถึง เห็นข่งเสียงหลงและพวกซานเหอจื่อมาจากไกลๆ
ที่นี่เป็นที่ราบแห่งหนึ่ง และบริเวณร้อยจั้งข้างหน้าพวกเขา บนพื้นมีคนหายใจรวยรินนอนอยู่
คนคนนี้เป็นเด็กหนุ่มอายุสิบห้าสิบหกปี ทั่วทั้งร่างเต็มไปด้วยเลือด เต็มไปด้วยบาดแผลนับไม่ถ้วน ส่วนใหญ่ลึกถึงกระดูก
กระทั่งว่ามองให้ละเอียดก็จะเห็นว่านอกจากผิวที่หน้าแล้ว ที่อื่นๆ ล้วนถูกคนแล่ทั้งเป็น!
เห็นได้ชัดว่าได้รับความทรมานและความเจ็บปวดที่ไม่อาจจินตนาการได้
กระดูกของเขายิ่งแหลกไปกว่าครึ่ง ช่องเวททั้งร่างไม่เหลือเลยแม้แต่ช่องเดียว แหลกละเอียดหมด
จากจุดที่แหลกละเอียดก็มองออกได้ว่า เด็กหนุ่มเป็นอัจฉริยะช่องเวทหนึ่งร้อยยี่สิบช่อง
ตอนนี้ตาข้างหนึ่งของเขาบอดไปแล้ว ลูกตาถูกควักมาวางไว้ในปากของเขา หูทั้งสองถูกตัดทิ้ง


ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผู้กล้าเหนือกาลเวลา