เข้าสู่ระบบผ่าน

ผู้กล้าเหนือกาลเวลา นิยาย บท 419

บทที่ 419 ฝันร้ายขององครักษ์ชุดดำ

ผู้ครองกระบี่คืออะไร

สวี่ชิงพึมพำในใจเสียงต่ำทุ้ม

เขาในอดีตความจริงก็ไม่เข้าใจในความหมายของมันเช่นกัน เขาไม่รู้ว่าอะไรคือผู้ครองกระบี่ กระทั่งว่าความตั้งใจที่อยากเป็นผู้ครองกระบี่ก็ไม่ใช่เพื่อปกป้องเผ่ามนุษย์ยิ่งใหญ่อะไรแบบนั้น

ในเมื่อเขาที่ผ่านความบากลำบากมาตั้งแต่เด็ก ไม่มีทางมีความรู้สึกกับชาติบ้านเมืองของเผ่ามนุษย์สักเท่าไรอยู่แล้ว

ความคิดจริงๆ ของเขาคือหวังว่าตัวเองจะมีชีวิตต่อไป มีชีวิตที่ดีขึ้นอีกนิด มีชีวิตจนถึงฆ่าอีกา ฆ่าเหยี่ยวได้

ส่วนทำไมถึงมาเป็นผู้ครองกระบี่ หนึ่งคือนายกองอยากเป็นผู้ครองกระบี่ สองคือตัวเองเมื่อเป็นผู้ครองกระบี่แล้วจะมีความคุ้มครองเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งชั้น สามคือวางแผนจะใช้พลังอำนาจของผู้ครองกระบี่ไปตามหาร่องรอยของอีกา

กระทั่งว่าในเวลาสำคัญ ฐานะของผู้ครองกระบี่ก็จะเป็นอาวุธสังหารอีกาของเขา

ความคิดเหล่านี้ความจริงแล้วเป็นความคิดที่เห็นแก่ตัว แต่ไม่ใช่มีแค่สวี่ชิงคนเดียวที่คิดเช่นนี้ ผูู้ครองกระบี่หน้าใหม่จากแต่ละมณฑลในทุกครั้ง ความจริงแล้วล้วนมีความคิดประเภทนี้กันทั้งนั้น

นอกจากคนที่ตั้งแต่เล็กก็ใช้ชีวิตในวังครองกระบี่ซึมซับอยู่ทุกวันแล้ว ผู้บำเพ็ญต่างมณฑลไม่มีทางมีจิตใจที่จะปกป้องเผ่ามนุษย์สักเท่าไร

แต่เรื่องพวกนี้ จากพิธีผู้ครองกระบี่ที่มณฑลรับเสด็จราชัน จากการหยั่งใจของมหาจักรพรรดิก็ได้เปลี่ยนแปลงไปเล็กน้อย

แต่ก็แค่เล็กน้อยเท่านั้น เปลี่ยนไปไม่ได้มาก เพียงแค่ทำให้สวี่ชิงเข้าใจความคิดของผู้ครองกระบี่เท่านั้น

จวบจนเขามาเมืองหลวงเขตปกครอง เขาได้พบกับข่งเสียงที่ไม่เหมือนกับคนอื่น ได้พบกับอัจฉริยะหลายคนที่มีใจคิดเปรียบเทียบแข่งขันกับตนแต่ไม่ได้มีจิตคิดร้าย ได้พบกับเจ้าวังที่เข้มงวดแต่ปกป้องคุ้มครองผู้ครองกระบี่อย่างเห็นได้ชัด

ทั้งยังผ่านการให้คำปฏิญาณของผู้ครองกระบี่ ได้ฟังประวัติศาสตร์เผ่ามนุษย์

ทุกอย่างของทุกอย่างพวกนี้ไม่มีทางไร้ร่องรอยจากตัวเขาเหมือนกับสายลมที่พัดผ่าน

จะอย่างไรก็ยังพอหลงเหลืออยู่บ้าง เป็นตะกอนในใจ

ยกตัวอย่างเช่นตอนนี้ เขาได้เห็นภาพที่ทำให้จิตใจของเขาเกิดระลอกคลื่นอีกภาพหนึ่งอีกแล้ว

เด็กหนุ่มลูกครึ่งที่มีช่องเวทหนึ่งร้อยยี่สิบช่องคนนั้น เด็กหนุ่มที่ปรารถนาอยากจะเป็นผู้ครองกระบี่ เด็กหนุ่มที่อยู่ภายใต้การทารุณโหดเหี้ยมจากเผ่าคลื่นศักดิ์สิทธิ์ถึงเพียงนั้นแต่ก็ยังคงไม่ยอมเปิดปากบอกข้อมูล

อีกฝ่ายเอ่ยคำปฏิญาณของผู้ครองกระบี่ด้วยกัน ยิ้ม หลับตา หายไปท่ามกลางการระเบิดของค่ายกล

สวี่ชิงไม่รู้จักคนคนนี้ และได้เจอเป็นครั้งแรก อีกทั้งความตายเขาก็เห็นมามากมายนัก ดังนั้นสิ่งที่ทำให้ใจเกิดระลอกคลื่นตอนนี้ไม่ใช่ความตายของเด็กหนุ่ม

แต่เป็นความฝันและการเลือกของอีกฝ่าย

คนคนนี้ทั้งๆ ที่มีอนาคตที่ดีกว่านี้ได้ แต่เขากลับเลือกเส้นทางที่ไม่อาจกลับคืนมาได้ทางนี้

สวี่ชิงไม่ค่อยเข้าใจ แต่ความจริงเขารู้ ความจริงแล้วตนเข้าใจมัน

เพียงแต่ในใจที่ฝุ่นเกาะหนาเตอะทำให้เขาไม่มีทางยอมรับคนนอกหรือขั้วอำนาจใดได้ง่ายๆ แบบนั้น ยิ่งไม่ต้องพูดถึงการยอมรับและวางไว้ในจุดลึกของหัวใจเลย

ต่อให้เป็นตอนนี้ก็ยังเป็นเช่นนั้น

เพียงแต่ตัวเขาเองรู้ ในสายตาเขา ผู้ครองกระบี่แตกต่างออกไปโดยที่ไม่รู้ตัว

มีความเคารพนับถือเพิ่มมากขึ้น

เขาจะไม่มีความคิดแบบผู้ครองกระบี่ก็ได้ แต่เคารพจริงใจของข่งเสียงหลง เคารพความเข้มงวดของวังครองกระบี่ เคารพคำปฏิญาณของผู้ครองกระบี่ และเคารพเด็กหนุ่มที่กล้าเผชิญหน้ากับความตายคนนี้

ดังนั้นสวี่ชิงจึงประสานหมัด โค้งคารวะไปทางจุดที่เด็กหนุ่มหายไปจนสุดตัว

ตอนนี้ลมพัดมา หอบม้วนฝุ่นควันที่เกิดจากค่ายกลบนพื้นระเบิด พัดเถ้าธุลีที่มาจากเด็กหนุ่มหายไป และพัดกลิ่นที่แฝงอยู่กล่องปรารถนาบนพื้นมายังเบื้องหน้าของทุกคน

กลิ่นนี้พิเศษมาก มีกลิ่นของดอกกุ้ยด้วย

ในดวงตาของข่งเสียงหลงแฝงด้วยความโศกเศร้าโกรธแค้น เดินไปข้างหน้าก้าวหนึ่ง มายังจุดที่ร่างของเด็กหนุ่มสลายไป ย่อตัวลงกอบดินบนพื้นมากำหนึ่ง แล้วใส่ไปในขวดอย่างทะนุถนอม หลังจากเก็บลงไปแล้วถึงได้หยิบกล่องปรารถนาที่เปิดออกขึ้นมา

“ภารกิจของพวกเราเสร็จสิ้นแล้ว” ข่งเสียงหลงถือกล่องปรารถนาเอาไว้ หันหลังให้กับคนทั้งหลาย เอ่ยอย่างแผ่วเบา

สวี่ชิงเงียบนิ่ง คนอื่นๆ ก็ไม่พูดอะไรเช่นกัน

“เด็กน้อย เจ้ากลับเมืองหลวงเขตปกครองเถิด ช่วยข้านำของสิ่งนี้ไปให้กับสำนักงานภาคสนามที” ข่งเสียงหลงเอ่ยเสียงต่ำทุ้ม ยกมือขวาขึ้นสะบัด กล่องปรารถนาพุ่งมาหาสวี่ชิง เขารับมันเอาไว้

ถือไว้ในมือ กลิ่นดอกกุ้ยในนั้นแรงขึ้นมาอีกเล็กน้อย

“พวกเจ้ากลับไปกับเด็กน้อยเถิด ข้าอารมณ์ไม่ค่อยดี คิดจะหาที่ไปเดินเล่นสักหน่อย ไปผ่อนคลายจิตใจคนเดียว”

ข่งเสียงหลงไม่ได้หันกลับมา เอ่ยเสียงสงบนิ่ง

“ได้เลยพี่หลง ท่านไปผ่อนคลายจิตใจคนเดียวก็ดีเหมือนกัน เด็กน้อยพวกเจ้ากลับไปเถอะ ข้ามีธุระส่วนตัวจะไปจัดการเสียหน่อย ไม่กลับไปกับพวกเจ้าแล้ว” ซานเหอจื่อประสานหมัด บนนั้นเส้นเอ็นปูดโปน จู่ๆ ก็เอ่ยขึ้นมา

“พอดีเลย ข้าก็เหมือนกัน ข้าจะกลับบ้านสักหน่อย ช่วงนี้ข้าไม่กลับวังครองกระบี่เหมือนกัน” หวังเฉินสีหน้าอึมครึม เอ่ยออกมาอย่างเรียบเรื่อย พูดจบก็มองไปยังปลายขอบฟ้าไกล

“ข้าจะไปกับพี่หลง” เยี่ยหลิงมองไปทางข่งเสียงหลง สายตามุ่งมั่น

สวี่ชิงมองพวกเขา หลังจากเงียบไปสามสี่อึดใจก็โยนกล่องปรารถนาในมือให้ผู้ครองกระบี่ของสำนักงานภาคสนามคนหนึ่งที่อยู่ข้างหลัง อีกฝ่ายยกมือรับ คิดจะพูดอะไรแต่ก็หยุดเอาไว้

“ข้ามีธุระส่วนตัวต้องจัดการ พวกเจ้ากลับไปเถอะ” สวี่ชิงสีหน้าไร้อารมณ์ เอ่ยเสียงราบเรียบ

คำพูดเขาดังออกมา ซานเหอจื่อและหวังเฉินทั้งยังมีเยี่ยหลิงต่างพากันมองมา สีหน้าเผยความประหลาดใจเล็กน้อย

ข่งเสียงหลงหันมา มองมาทางสวี่ชิงเช่นกัน

“เด็กน้อย เจ้าไม่จำเป็นต้องทำเช่นนี้”

“ข้าจะไปคืนน้ำใจ” สวี่ชิงมองข่งเสียงหลง เอ่ยอย่างจริงจัง

ข่งเสียงหลงเงียบนิ่ง หลังจากนั้นครู่หนึ่งก็พยักหน้า หมุนตัวไหววูบ ทะยานไปที่ไกล

พวกซานเหอจื่อทั้งสามคนล้วนตามไปอย่างรวดเร็ว ทิศทางที่พวกเขามุ่งหน้าไปคือเขตชายแดนเขตปกครองผนึกสมุทร

ที่นั่นเป็นเขตชายแดนของเผ่าคลื่นศักดิ์สิทธิ์เช่นกัน

สวี่ชิงก้าวออกไปเช่นกัน ประดุจลูกธนูพุ่งออกจากคัน ตรงไปหาคนทั้งสี่

เขาย่อมรู้ว่าพวกเขาจะไปทำอะไร

ข่งเสียงหลงออกทำภารกิจแต่ไม่ทำตามกฎเดิมก็ไม่ใช่เรื่องแปลกประหลาดอะไร ยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่าเขาเห็นเด็กหนุ่มคนนั้นถูกองครักษ์ชุดดำทารุณอย่างน่าสังเวชกับตาตัวเอง เรื่องนี้ด้วยนิสัยของข่งเสียงหลงย่อมไม่อาจทนได้

นอกจากนี้ เสียงเย็นชาที่บันทึกในแผ่นหยกขององครักษ์ชุดดำ ตอนนี้ยังดังก้องอยู่ในความทรงจำของสวี่ชิง

สวี่ชิงรู้สึกว่า ในเมื่ออีกฝ่ายมอบของกำนัลให้ผู้ครองกระบี่ เช่นนั้นพวกเขาย่อมต้องไปคืนน้ำใจสักหน่อย แบบนี้ถึงจะมีมารยาท

จากการจากไปไกลของเงาร่างทั้งห้า ผู้ครองกระบี่สำนักงานภาคสนามที่อยู่ที่นี่เหล่านั้นต่างจ้องเพ่งท่ามกลางความเงียบงัน

ในสายตามีความอิจฉาและทอดถอนใจ แต่สุดท้ายหลังจากที่พวกเขาก็ถือกระบี่โค้งคารวะพวกสวี่ชิง ก็เลือกที่จะกลับไป

ไม่ใช่ผู้ครองกระบี่ทุกคนจะไม่รักษากฎระเบียบ

บทที่ 419 ฝันร้ายขององครักษ์ชุดดำ 1

บทที่ 419 ฝันร้ายขององครักษ์ชุดดำ 2

Verify captcha to read the content.ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผู้กล้าเหนือกาลเวลา