บทที่ 465 นี่ข้าเห็นอะไรกัน
……….
อนาคต อยู่ในจินตนาการ และอดีตอยู่ในความทรงจำ
เช่นนั้นขณะที่ร่องรอยทั้งหมดของคนผู้หนึ่งถูกลบออกไป ญาติสนิทมิตรสหายของเขาเลือกที่จะลืมเลือน เขาไม่เคยปรากฏชีวิตของทุกคนมาก่อน
ราวกับถูกเว้นว่างไว้
ตอนนี้ เขามีตัวตนอยู่จริงหรือไม่
บางที อาจจะยังอยู่ เพียงแต่ไม่มีใครรู้ ไม่มีใครจดจำได้ ถูกลืมเลือนไปทั้งหมด
แต่บางที อยู่ไปเรื่อยๆ ก็อาจสลายหายไปในความว่างเปล่าจริงๆ ไร้นาม ไร้อดีต ไร้อนาคต ไร้ทุกสิ่ง
นี่ คืออีกความสามารถหนึ่งของเทพเจ้า ความสามารถที่เกี่ยวกับอดีต
ลืมเลือน
ตอนนี้ จากการที่ฉู่เทียนฉวินสำแดงพลังต้นกำเนิดหลักอีกครั้ง ชิ้นส่วนโลกบรรพกาลของเผ่าควันขจรก็ราวกับทั้งหมดชะงักงัน กลายเป็นหยุดนิ่ง
และสิ่งที่ถูกทำให้หยุดนิ่ง ยังมีกายเนื้อของฉู่เทียนฉวิน รวมถึงร่างเงาภูตจักรพรรดิที่ร่อนลงมาเหนือศีรษะเขาด้วย
โลกทั้งใบเงียบงัน ทั้งหมดหยุดชะงัก มีเพียงจิตวิญญาณที่แสงเทพเจ้าห้อมล้อมของฉู่เทียนฉวินพุ่งออกมาจากหน้าผาก กลายเป็นตัวตนเดียวที่ยังขยับได้ในโลกใบนี้
เขาเงยหน้า มองไปรอบๆ สีหน้าเผยความเคารพ
“นี่….คือการเว้นว่างหรือ”
ฉู่เทียนฉวินพึมพำ นี่เป็นครั้งแรกในชีวิตเขาที่สำแดงวิชาเทพถึงขีดสุดเช่นนี้ ในสายตาเขา ฟ้าดินผืนนี้กับความเป็นจริงนั้นแตกต่างกัน
ท้องฟ้าไม่มีตัวตน แผ่นดินใหญ่ก็ไม่คงอยู่ รอบด้านทั้งหมดแทบจะไม่มีตัวตน เขาจักรพรรดิภูตก็เช่นกัน ทั้งหมดเป็นความว่างเปล่า
ราวกับทุกสิ่งที่เห็นด้วยตาก่อนหน้า ล้วนเป็นภาพมายา
มีเพียงปราณหมอกกลุ่มหนึ่งที่ล่องลอยอยู่ในความว่างเปล่า นั่นคือ…จุดที่สวี่ชิงอยู่ก่อนหน้านี้
มองปราณหมอก ฉู่เทียนฉวินรู้ว่านั่นคือจุดที่ตนต้องไป ขอแค่เขาไปที่ปราณหมอกผืนนั้นได้ ปิดประตูความทรงจำคนที่จดจำสวี่ชิงได้ทั้งหมดเสีย วิชาเทพเว้นว่างนี้ก็จะสำเร็จ
ฉู่เทียนฉวินไม่ลังเล จิตวิญญาณไหววูบ พุ่งตรงไปยังปราณหมอก แทรกซึมเข้าไปในพริบตา
ในหมอกลวงตาไร้ที่สิ้นสุดนี้ เบื้องหน้าฉู่เทียนฉวินมีประตูมากมายปรากฏขึ้นนับไม่ถ้วน ประตูเหล่านี้มีทั้งเล็กใหญ่ กลมบ้างเหลี่ยมบ้าง รูปร่างแตกต่างกันไป มีทั้งใหม่และเก่า วัสดุแตกต่างกันเช่นกัน
พวกมันมีมากมายเต็มไปหมด ก่อร่างเป็นเส้นทางเส้นหนึ่ง
“ที่นี่แหละ!” ฉู่เทียนฉวินยกสองมือขึ้นโบก ฉับพลันแสงเทพมนจิตวิญญาณก็ระเบิด ก่อเป็นผนึกหลายสาย ตรงไปเบื้องหน้าประตูเหล่านั้น ประทับลงไปอย่างรวดเร็ว
ไม่นานประตูมากมายก็หมองมัวด้วยผนึกนี้ เปลี่ยนเป็นเลือนราง แม้จะมีประตูบางบานไม่ยอมถูกผนึก เปลี่ยนกลับมาชัดเจนอย่างรวดเร็วจากความเลือนลาง ท้ายสุดด้วยพลังเทพเจ้า ก็ยังต้องหมองมัวอย่างจำยอม
ประตูทุกบาน ล้วนเป็นตัวแทนของความทรงจำที่เกี่ยวกับสวี่ชิงของหนึ่งชีวิต
ในความเลือนรางลงเรื่อยๆ นี้ จิตวิญญาณของฉู่เทียนฉวินก็ทะยานเร็วขึ้น พุ่งไปเบื้องหน้าไม่หยุดยั้ง แสงเทพยิ่งแผ่ซ่านไปทั่ว ประตูรอบๆ ก็ทยอยถูกปิดผนึก
เมื่อเห็นว่าทุกอย่างราบรื่นดี สายตาฉู่เทียนฉวินก็ฉายแววยินดีออกมา
แต่ตอนนี้เอง ในบรรดาประตูมากมายนี้ มีประตูทรงกลมบานหนึ่ง ไม่ได้เลือนรางลงแม้แต่น้อยจากการผนึกด้วยแสงเทพของฉู่เทียนฉวิน แต่หลังจากที่สัมผัสกับแสงเทพ กลับค่อยๆ เปิดออกอย่างไร้ซุ่มเสียงแทน
ดวงตาสีเลือดดวงหนึ่งด้านหลังบานประตูก็ปรากฏออกมาฉับพลัน จ้องฉู่เทียนฉวินเขม็ง
เมื่อมองไป ทั่วทั้งเส้นทางก็บิดเบี้ยวขึ้นมา พลังเทพเจ้าวูบหนึ่งระเบิดออกมาในพริบตา จิตวิญญาณของฉู่เทียนฉวินเปล่งเสียงกรีดร้อง ในช่วงวิกฤติสำคัญมือขวาวิญญาณเทพของเขาก็ปะทุ ก่อเป็นแสงเทพเจิดจ้าไปต้านทาน จากนั้นก็ทะยานออกจากอาณาบริเวณนี้อย่างรวดเร็ว
หลังจากมาถึงจุดปลอดภัย ดวงตาของเขายังคงเหลือความหวาดผวาอยู่
เขารู้ว่าดวงตานั้น…คือเทพเจ้าอีกตน
อันที่จริงสิ่งนี้ก็เป็นสาเหตุที่เขาไม่เข้าไปสำแดงวิชาเทพเว้นว่างนี้ที่สุดขอบเขต
วิชานี้มีอาณาเขตกว้างขวาง บางคนที่เลือกจะลืมไปง่ายๆ และมีบางคนที่ไม่ยอมลืมเลือน ฝ่ายหลัง…จะกลายมาเป็นอุปสรรคของฉู่เทียนฉวิน
ขณะเดียวกันก็ยิ่งทำให้โลกภายนอกสังเกตเห็นได้ง่ายขึ้น ทำให้กับดักสังหารนี้มีระลอกคลื่นลูกยักษ์รออยู่
นอกจากนี้ ยังเป็นไปได้ว่าจะชักนำภัยพิบัติหายนะระดับสะท้านฟ้าสะเทือนดินมา อย่างไรเขาก็ไม่ได้รู้จักสวี่ชิงเพียงแค่ตื้นเขิน หากพบกับตัวตนที่น่ากลัวในบรรดานี้เข้า จะเกิดการเอาคืนที่รุนแรงกับฉู่เทียนฉวินได้
เขาทำได้เพียงฝากความหวังไว้ที่ต้นกำเนิดหลักพลังเทพเจ้า แม้ในกลุ่มคนที่จดจำสวี่ชิงได้จะมีตัวตนที่น่ากลัวอยู่ ตนก็ใช่ว่าจะใช้พลังแห่งเทพเจ้าสร้างผลกระทบไม่ได้ในเวลาสั้นๆ
สิ่งที่เขาต้องการ ไม่ใช่การลืมเลือนไปตลอดกาล เขาแค่ต้องการให้ในโลกที่หยุดนิ่งนี้ไม่มีคนจดจำสวี่ชิงได้ แค่นี้ก็พอแล้ว
พริบตานี้ เขาสามารถสังหารสวี่ชิงได้อย่างแท้จริงที่นี่
“อย่างไรสวี่ชิงก็มีวิชาเทพ ประตูความทรงจำมีเทพเจ้าอยู่ก็ยังพอเข้าใจได้ ยังดีที่ข้ามีแสงเทพอยู่…จึงช่วยข้าต้านทานไว้ได
“แต่ข้าก็ไม่ได้ต้องการผนึกประตูทั้งหมด ขอแค่ล้มเหลวไม่เกินสิบบาน รอจนวิชาเทพของข้าสำแดงเสร็จสิ้น ก็ทำให้เขาบาดเจ็บหนักได้”
ฉู่เทียนฉวินสีหน้าเผยความแน่วแน่ ไหววูบพุ่งต่อไป แผ่แสงเทพผนึกประตูรอบด้านอีกครั้ง และครั้งนี้ผนึกประตูไปไม่ถึงสามสิบบาน จู่ๆ…ก็มีประตูอีกบานหนึ่ง เปิดออกเสียงครืนครัน
เสียงเคี้ยว ดังพลันออกจากด้านใน
เสียงนี้ราวกับฝันร้าย คนที่ได้ยินจะคุ้มคลั่งขึ้นมาอย่างอดไม่อยู่ ราวกับร่างกายตนกำลังถูกกลืนกิน ฉู่เทียนฉวินกรีดร้องออกมาทันที พริบตานั้นขาข้างหนึ่งก็ระเบิดขึ้น กลายเป็นแสงเทพพุ่งออกมาสกัดกั้น
“ไม่เป็นไร เขามีพลังอำนาจเทพสองอย่าง ดังนั้นการมีประตูความทรงจำเทพเจ้าอยู่สองบาน ก็เป็นเรื่องปกติ!”
ร่างของฉู่เทียนฉวินสั่นเทิ้มเล็กน้อย แต่สุดท้ายก็ยังพุ่งไปต่อ แต่…หลังจากผ่านไปห้าสิบประตู ประตูสีเลือดบานหนึ่ง ก็เปิดออกฉับพลัน
สีแดงไร้สิ้นสุด ระเบิดออกมาจากด้านในประตู
“ทำไมยังมีอีก!!”
ฉู่เทียนฉวินตกตะลึง ขาอีกข้างหนึ่งก็ระเบิดตามมา ในใจโหมคลื่นยักษ์ ขณะที่กำลังลังเลว่าจะไปต่อดีหรือไม่ พริบตานั้น เหนือศีรษะเขาก็มีรอยแตกร้าวร่องหนึ่ง แง้มออกมาเหมือนกับบานประตู!
พริบตาที่เสียงลมหายใจดังลอดออกมาจากในรอยแตก จิตวิญญาณฉู่เทียนฉวินก็มีเสียงครืนครันออกมา ดวงตาเขาเบิกกว้าง เห็นว่าในรอยแยกมีร่างมนุษย์ที่ใหญ่โตเหนือจินตนาการร่างหนึ่ง แรงกดดันที่แผ่ซ่านออกมาจากมัน ทำให้เขาร่ำร้องขึ้นมาอีกครั้ง ต้องระเบิดแขนข้างสุดท้ายต้านทาน
“วิ…วิถีสวรรค์!”
เวลานี้จิตวิญญาณฉู่เทียนฉวินเหลืออยู่เพียงครึ่งร่างเท่านั้น ไม่มีแขนขาแล้ว เขามองเส้นทางสายนี้อย่าหวาดผวา ตอนนี้ยังเดินมาไม่ถึงหนึ่งส่วนเลย
ด้านหลัง ยังมีอีกนับไม่ถ้วน
ยังมองไม่เห็นรายละเอียด เพียงเห็นแค่ที่ส่วนลึกสุดเหมือนจะมีเก้าอี้ขนาดยักษ์ตัวหนึ่งอยู่


ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผู้กล้าเหนือกาลเวลา