เข้าสู่ระบบผ่าน

ผู้กล้าเหนือกาลเวลา นิยาย บท 478

บทที่ 478 เบาะแสที่เจ้าวังทิ้งเอาไว้

……….

คืนวันนั้น หลังจากที่วังอาญาและวังพิธีการทั้งสองวังไปจากเมืองหลวงเขตปกครอง มุ่งหน้าไปยังเขตสนามรบทางเหนือ ผู้ครองกระบี่แสนคนจากวังครองกระบี่ ภายใต้การนำจากเจ้าวังก็ออกเดินทางอย่างยิ่งใหญ่เกรียงไกร

แสนคนนี้ล้วนเป็นกองทำลังยอดเยี่ยมที่ทั้งเขตปกครองผนึกสมุทรสะสมไว้ในหลายร้อยปี

ในนั้นไม่ว่าใครล้วนเป็นผู้โดดเด่นเยี่ยมยอดของแต่ละมณฑลทั้งสิ้น ทั้งยังผ่านการทดสอบแต่ละขั้นๆ สุดท้ายก็กลายเป็นผู้ครองกระบี่

ทุกคนล้วนเคยปฏิบัติภารกิจ ไม่ว่าจะเป็นการสังหารหรือความแข็งแกร่งล้วนผ่านการฝึกฝนมามากมาย

พูดได้กระทั่งว่าพวกเขาถึงจะเป็นแกนหลักของเขตปกครองผนึกสมุทร ได้รับการฝากอนาคตเอาไว้

แต่วันนี้ผู้ครองกระบี่แสนคนนี้ออกเดินทางแล้ว

ไปพร้อมความเด็ดเดี่ยว ความมุ่งมั่นแม้ตายก็ไม่กลัว คำพูดและคำสาบานที่เคยท่องในพิธีเมื่อครั้งอดีต เคลื่อนหน้าไปยังเขตสนามรบทางตะวันตก

สวี่ชิงยืนอยู่บนยอดเขาแห่งหนึ่งนอกเมืองหลวงเขตปกครอง อำพรางตัว ทอดสายตาไปในความมืดทางทิศที่กองทัพจากไป ท่ามกลางลมหนาว เสื้อของเขาถูกพัดสะบัดจนเกิดเสียงดัง ผมยาวของเขาปลิวพริ้ว สะบัดอยู่ข้างหลัง

จ้องมองอย่างเงียบงัน นานหลังจากนั้น ในดวงตาสวี่ชิงฉายแววเฉียบขาด เพียงไหววูบก็ผสานไปในความมืด ก้าวไปบนเส้นทางที่มุ่งสู่มณฑลประกายอรุณ

เหมือนหมาป่าเดียวดายที่เดินอยู่ในความมืด

“มณฑลประกายอรุณ…” สวี่ชิงที่สำแดงความเร็วเต็มอัตราในความมืด ภายใต้การระมัดระวังและการป้องกัน ในใจก็เกิดระลอกคลื่นอารมณ์ขึ้นมา

เพราะเขาประกายอรุณ ก็อยู่ในมณฑลประกายอรุณ

และในตอนที่เขามาเมืองหลวงเขตปกครองเรื่องที่เฝ้าปรารถนาที่สุดก็คือเดินทางไปที่เขาประกายอรุณ เพียงแต่ ไม่ว่าอย่างไรเขาก็คิดไม่ถึงว่าจะเป็นจริงด้วยวิธีนี้

ขณะเคลื่อนไปข้างหน้า สวี่ชิงเอาแผ่นหยกที่เจ้าวังให้ออกมา ถือไว้ในมือเริ่มทำการตรวจสอบ

ก่อนเจ้าวังออกเดินทางพูดกับเขามากมายและแสดงแนวความคิดอย่างชัดเจน

เจ้าเขตปกครองแตกดับอย่างกะทันหัน เต็มไปด้วยปริศนา ไม่ว่าใครล้วนเป็นผู้ร้ายหลังม่านได้ทั้งนั้น

เนื้อหาในแผ่นหยกก็พลันทำให้สวี่ชิงหลังจากนั้นครู่หนึ่งฝีเท้าหยุดชะงัก ลมหายใจถี่กระชั้นขึ้นมาเล็กน้อย

‘ลูกกลอนประกายเคราะห์ชะตาชีวิตหรือ’

สวี่ชิงพึมพำในใจ เขาที่ศึกษาค้นคว้าวิถีโอสถอย่างลึกซึ้ง ไม่เคยได้ยินชื่อลูกกลอนประเภทนี้มาก่อน

ในแผ่นหยกของเจ้าวัง บอกเล่าเน้นย้ำถึงลูกกลอนนี้ นี่เป็นลูกกลอนต้องห้ามประเภทหนึ่งที่ในสมัยจักรพรรดิโบราณเสวียนโยวมีคำสั่งอย่างเข้มงวดห้ามมิให้หลอม ทำลายทิ้งทั้งหมด อีกทั้งยังหาายสาบสูญไปแล้ว

กระทั่งว่าตอนนั้นคำสั่งห้ามลูกกลอนประเภทนี้ยังส่งผลกระทบต่อหมื่นเผ่า ผู้นำระดับสูงของทุกเผ่าต่างเกลียดชังลูกกลอนนี้เข้ากระดูก

ลูกกลอนประกายเคราะห์ชะตาชีวิตไม่มีผลใดๆ กับผู้บำเพ็ญทั่วไป แต่สำหรับผู้ปกครองของทุกเผ่ามันเป็นลูกกลอนเคราะห์ที่ไม่สามารถแก้ได้ กระทั่งว่าถึงแก่ความตายในทันที

เพราะหลักการของมันเกี่ยวกับชะตา

ลูกกลอนนี้สามารถทำให้พลังดวงชะตาในร่างของคนคนหนึ่งระเบิด กระทั่งว่าทำให้แตกดับได้ในทันที และยิ่งในตัวมีดวงชะตารวมอยู่มากเท่าไร พลังของมันก็จะยิ่งรุนแรง ในประวัติศาสตร์ แรกเริ่มลูกกลอนนี้มีไว้เพื่อต่อต้านการปกครองของเผ่าวิญญาณบรรพกาล สร้างออกมาจากแสงของดวงอาทิตย์ที่แตกดับ

หลังจากนั้น ในยุคจักรพรรดิโบราณเสวียนโยว ลูกกลอนนี้ปรากฏขึ้นอีกครั้ง สังหารเผ่ามนุษย์ที่รวบรวมดวงชะตาไปจำนวนไม่น้อย และสังหารผู้ปกครองต่างเผ่ามากมาย กระทั่งว่าจักรพรรดิต่างเผ่าสามองค์ก็ตายด้วยลูกกลอนนี้

ไม่ว่าจะเป็นเผ่ามนุษย์หรือต่างเผ่า ขอเพียงอยู่บนแผ่นดินใหญ่ต้องประสงค์ เช่นนั้นผู้ที่อยู่ตำแหน่งสูงย่อมรวบรวมดวงชะตาของเผ่ามาที่ตัวเอง

ชะตานี้สามารถทำให้ตัวเองมีลิขิตฟ้าในระดับหนึ่ง แต่ขณะเดียวกัน หากดวงชะตาเหล่านี้แปรเปลี่ยนเป็นเคราะห์ พลังสะท้อนของมันก็จะน่าครั่นคร้ามเป็นอย่างยิ่ง

ในการตรวจสอบครึ่งเดือนนี้ของเจ้าวังครองกระบี่ ก็ได้ชี้เบาะแสทุกอย่างไปที่ลูกกลอนประกายเคราะห์ชะตาชีวิต

สวี่ชิงรูม่านตาหดเล็ก ในสมองมีข้อมูลที่เจ้าวังทิ้งไว้ในแผ่นหยก

‘จากการตรวจสอบของข้าในช่วงนี้ การแตกดับของเจ้าเขตปกครองคนก่อนมีความเป็นไปได้มากมาย แต่ในบรรดาความเป็นไปได้ทั้งหลายอันน้อยนิด มีเพียงไม่กี่ข้อ…ที่สามารถส่งผลกระทบถึงกรมราชทัณฑ์ที่ข้าแซ่ข่งผู้นี้ดูแล

‘สิ่งที่สะกดไว้ในกรมราชทัณฑ์คือร่างแยกร่างสุดท้ายของเทพเจ้าแห่งแดนต้องห้ามเซียนที่หลับใหลในห้วงนิทราข้างนอก วิธีสะกดเกี่ยวพันกับดวงชะตา แปรเปลี่ยนให้เป็นพลังลืมเลือน ทำให้ร่างแยกของเทพเจ้าคิดว่าตัวเองเป็นวิญญาณศัสตราของกรมราชทัณฑ์

‘ผู้ที่ตรวจสอบหลังจากนี้สามารถเปิดอ่านเอกสารสำนักคุกเขตติงหนึ่งสามสองได้ เกี่ยวกับกรมราชทัณฑ์ เขตติงหนึ่งสามสองคือภาพเงาและเป็นสัญลักษณ์ หรือจะถามสวี่ชิงผู้เป็นอาลักษณ์ของข้าก็ได้ เด็กคนนี้เป็นผู้ดูแลเขตติงหนึ่งสามสองรุ่นสุดท้าย และเป็นหนึ่งในผู้สืบทอดตำแหน่งที่ข้าเตรียมจะฝึกฝนอบรม เชื่อถือได้

‘กรมราชทัณฑ์เขตติงห้องหนึ่งสามสองก่อขึ้นจากการแผ่พลังออกมาข้างนอกของพลังสะกด ในนั้นมีนิ้วร่างแยกเทพเจ้านิ้วหนึ่ง ยิ่งกว่านั้นคือมีวิญญาณที่ก่อร่างขึ้นจากพลังดวงชะตาของเขตปกครองผนึกสมุทร

‘พลังของร่างแยกเทพเจ้าแห่งแดนต้องห้ามเซียนคือทำให้คนที่จำองค์ท่านได้ทุกคนตกอยู่ในโชคร้ายไม่จบสิ้น จากบันทึกในอดีต โชคร้ายประเภทนี้จะน่ากลัวขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งดับดิ้นไป

‘สำหรับประโยชน์ของวิญญาณแห่งดวงชะตาในเขตติงหนึ่งสามสองคือลบความทรงจำของคนที่เห็นเทพเจ้า ทำให้คนคนนั้นลืมเลือนไป ตัดกรรมเวรจากการนี้

‘ดังนั้น ตามปกติแล้ว ไม่ว่าเขตปกครองจะเกิดเรื่องอะไรขึ้น ต่อให้เจ้าเขตปกครองคนก่อนแตกดับ ก็ไม่มีทางส่งผลกระทบถึงกรมราชทัณฑ์ เพราะกรมราชทัณฑ์ดำรงอยู่มานานมากนัก ผ่านการเปลี่ยนผ่านและขาดช่วงของเจ้าเขตปกครองมากมาย

‘และหลังจากที่ข้าตัดความเป็นไปได้ต่างๆ ไปทีละข้อๆ แล้ว สุดท้ายเป้าหมายอยู่ที่ลูกกลอนประกายเคราะห์ชะตาชีวิต ส่วนทำไมถึงคิดเชื่อมโยงไปถึงลูกกลอนนี้ ผู้ที่ตรวจสอบหลังจากนี้สามารถอ่านเอกสารสำนักตัวอักษรลับที่สิบเก้าได้

‘แต่ว่าทุกอย่างนี้ล้วนแต่เป็นสิ่งที่ข้าตรวจสอบได้จากเบาะแสที่มีอยู่จำกัด ทว่าเวลาไม่คอยข้า อีกทั้งศัตรูอยู่ในที่ลับข้าอยู่ในที่แจ้ง ข้าไม่อาจเปิดเผยสิ่งที่ข้าสงสัยได้ อีกทั้งตอนนี้เขตสงครามอยู่ในช่วงวิกฤต ความปลอดภัยของเขตปกครองผนึกสมุทรสำคัญกว่า ข้ายากที่จะไปตรวจสอบอย่างลับๆ

‘ข้าจึงส่งเลขาติดตามสวี่ชิงไปยืนยันเบาะแสหนึ่ง

‘นั่นก็คือแสงประกายอรุณ

‘เพราะคิดจะกระตุ้นลูกกลอนประกายเคราะห์ชะตาชีวิตจะต้องมีเงื่อนไขข้อหนึ่ง นั่นก็คือแสงก่อนที่ดวงอาทิตย์จะแตกดับ และแสงประเภทนี้มีเวลาคงอยู่สั้นมาก

‘ทว่าแสงนี้กลับเกิดขึ้นบนเขาประกายอรุณบ้างเป็นบางครั้ง

‘แต่ด้วยแผนการและฝีมือของคนที่วางแผน การตรวจสอบนี้น่าจะไม่ได้ผล แต่ตรวจสอบได้หรือไม่ ผลจะเป็นอย่างไร…หากข้าแซ่ข่งผู้นี้รบตาย ขอผู้ที่ตรวจสอบหลังจากนี้ถามสวี่ชิง’

สวี่ชิงยืนอยู่บนที่ราบยามค่ำคืน ก็เก็บแผ่นหยกลงไปเงียบๆ หันกลับไปมองทางเขตสงครามทางตะวันตก นานหลังจากนั้นครู่หนึ่งร่างของเขาก็ไหววูบ ทะยานไปทางมณฑลประกายอรุณอย่างรวดเร็ว

เวลาผ่านไปหลายวันเช่นนี้เอง

ในขณะที่ทุกคนคิดว่าเขายังคงติดตามอยู่ข้างกายเจ้าวัง เดินทางไปยังสนามรบแล้ว สวี่ชิงกระตุ้นแผ่นหยกซ่อนอำพรางที่จอมเซียนจื่อเสวียนมอบให้ตลอดทาง มาถึงยังชายแดนระหว่างเมืองหลวงเขตปกครองกับมณฑลเขาประกายอรุณอย่างเงียบเชียบ

บทที่ 478 เบาะแสที่เจ้าวังทิ้งเอาไว้ 1

บทที่ 478 เบาะแสที่เจ้าวังทิ้งเอาไว้ 2

Verify captcha to read the content.ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผู้กล้าเหนือกาลเวลา