เข้าสู่ระบบผ่าน

ผู้กล้าเหนือกาลเวลา นิยาย บท 483

บทที่ 483 ก้าวหนึ่งสู่ห่านป่าเดียวดาย ก้าวหนึ่งสู่มาร (1)

บนหุบเหวมหาสมุทร เรือใบไม้แล่นเร็วรี่ เร็วกว่าก่อนหน้านี้เกือบสิบเท่า ก้าวไปในหุบเหวมหาสมุทรอย่างบ้าคลั่ง ท่าทางเหมือนกลัวว่าจะทำให้สวี่ชิงเสียเวลา

โดยเฉพาะเมื่อสังเกตได้ว่าสวี่ชิงสีหน้าเคร่งขรึม ความเร็วจึงเร่งขึ้นอีก

หลังจากรู้ข่าวของเผ่าควันขจร สวี่ชิงทิ้งความคิดที่จะแวะที่เขาหมอกดำ เขาคิดว่าจะเดินทางไปเขาประกายอรุณในทันที ขณะเดียวกันในใจก็เกิดหมอกคลุมเครือมหาศาล

ด้านหนึ่งเขากังวลกับสงครามในเขตสงครามทางตะวันตกและเหนือสองเขตนี้ อีกด้านหนึ่งคือข้อมูลของเผ่าควันขจรทำให้เขายากที่จะไม่คิดเชื่อมโยงไปถึงคนร้ายเบื้องหลังที่คาดเดาเอาไว้จากในแผ่นหยกที่เจ้าวังมอบให้

“เรื่องที่สนามรบ ไม่ใช่สิ่งที่ข้าจะทำอะไรได้…สิ่งเดียวที่ข้าทำได้คือทำภารกิจที่เจ้าวังมอบให้ให้สำเร็จ” นานหลังจากนั้น สวี่ชิงพึมพำ

เช่นนี้เอง เวลาไหลไป หลายวันผ่านพ้น ในหลายวันนี้ตาข่ายบนท้องฟ้า กระแสแสงไหลวนมากกว่าที่ผ่านมามาก ผ่านจากจุดนี้สวี่ชิงสามารถวิเคราะห์สถานการณ์ศึกทางตะวันตกและทางเหนือทั้งสองแห่งได้ว่าน่าจะมาถึงระดับดุเดือดอย่างยิ่ง

เขาถอนหายใจในใจ เงยหน้าทอดสายตามองไปยังฟ้าดินในที่ไกล

สุดท้าย ในคืนวันที่สี่ ภูเขาประกายอรุณก็สะท้อนในสายตาสวี่ชิง

ภูเขาลูกนี้พิเศษมาก สีของมันไม่ใช่สีดำ แต่เป็นเจ็ดสี

มองเผินๆ เหมือนประกอบขึ้นมา แต่ความจริงแล้วเป็นก้อนเดียวกัน

อีกทั้งขนาดก็ใหญ่กว่าภูเขาทุกลูกที่สวี่ชิงได้เห็นมาตลอดทางอย่างชัดเจน มันตั้งตระหง่านอยู่บนหุบเหวมหาสมุทร สูงเสียดฟ้า ส่วนที่อยู่เหนือผิวน้ำก็สูงประมาณหมื่นจั้งเลยทีเดียว

ใต้แสงจันทร์ สีสันเจ็ดสีของเขาประกายอรุณถูกสะท้อนออกไปรอบๆ เกิดเป็นลำแสง ทำให้คนรู้สึกงดงามพร่างพราย

จะสามารถเห็นรางๆ ว่าใต้หุบเหวมหาสมุทรยังมีภูเขาที่น่าตื่นตะลึงยิ่งกว่า พื้นที่ที่แผ่ออกไปกว้างใหญ่ไพศาล

โดยเฉพาะในยามที่เข้าไปใกล้ สวี่ชิงยังสัมผัสได้ถึงพลังกดดันเป็นระลอก แผ่ออกมาจากภูเขาลูกนี้ ในขณะที่ปกคลุมรอบๆ ลมสุริยะที่นี่ก็รุนแรงเป็นอย่างยิ่ง ทุกที่ที่พัดผ่าน ไม่เพียงแต่มีเสียงลมดังก้อง ยังมีรอยแยกมิตินับไม่ถ้วนปรากฏขึ้น ผสานตัวอย่างรวดเร็วแล้วเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว เกิดขึ้นซ้ำไปมาเช่นนี้

มองภูเขาลูกนี้ ในใจสวี่ชิงซับซ้อนเล็กน้อย ยิ่งเกิดความรู้สึกกระวนกระวายขึ้นมานิดๆ อารมณ์เหล่านี้ซ้อนสอดประสานด้วยกัน สุดท้ายก็แปรเปลี่ยนเป็นความว้าวุ่น

ด้านหนึ่งคือภารกิจที่เจ้าวังมอบให้ แต่ที่มากกว่าคือ…ที่นี่เป็นสุสานของบิดามารดาเขา

สวี่ชิงยืนอยู่บนเรือ จ้องมองเขาประกายอรุณที่อยู่ไกลๆ นานหลังจากนั้นเขาสะกดความคิดทุกอย่าง สูดลมหายใจลึก เดินออกไปจากเรือ เข้าไปใกล้เขาประกายอรุณในหุบเหวมหาสมุทรอย่างรวดเร็ว

ส่วนเรือใบไม้…แทบจะในพริบตาที่สวี่ชิงออกไปก็ดำลงไปทันที กลัวว่าหากจากไปช้าจะเป็นการรบกวนสวี่ชิง เพียงพริบตาก็ดำลงไปยังจุดลึกของหุบเหวใต้ทะเล เลียบลงไปกับพื้น จากไปอย่างรวดเร็ว

ศีรษะที่อยู่บนหางสิงโตหินทอดสายตามองภาพฉากนี้ สีหน้าก็ฉายความอิจฉาอย่างรุนแรงออกมา…

หลังจากนั้นหนึ่งก้านธูป สวี่ชิงเข้าใกล้ภูเขาประกายอรุณ ที่นี่เขาสัมผัสได้ถึงปราการป้องกันไร้รูปร่างชั้นหนึ่งล้อมรอบเขาประกายอรุณ เหมือนเป็นเกราะขนาดมหึมา ครอบภูเขาลูกนี้เอาไว้ข้างในตั้งแต่ข้างบนถึงข้างล่าง

นี่คือค่ายกลใหญ่โถงครองกระบี่เขาประกายอรุณ

ค่ายกลนี้ป้องกันมิให้ผู้ที่ไม่ได้รับอนุญาตทุกคนเข้าไป ต่อให้เป็นผู้ครองกระบี่ของต่างมณฑลอยากเข้ามา ก็ต้องมีสิทธิ์ถึงจะเข้าได้ มีเพียงผู้ครองกระบี่ของมณฑลนี้เท่านั้นจึงจะเข้าไปได้อย่างราบรื่น

แต่เนื่องจากที่นี่ยังเป็นพื้นที่ลับที่เจ้าวังครองกระบี่แบ่งเขตด้วยตัวเอง ดังนั้นผู้ครองกระบี่ของมณฑลนี้ก็มีสถานที่มากมายในภูเขาประกายอรุณแห่งนี้ที่ไม่อาจเข้าไปได้เช่นกัน

มีเพียงใช้แต้มความชอบแลกสิทธิ์ในการเข้าไปในพื้นที่ลับจึงจะสามารถเข้าไปได้โดยไม่มีอะไรขัดขวางอย่างแท้จริง

แต่ว่าทุกอย่างนี้สำหรับสวี่ชิงในตอนนี้ก็ไม่เป็นปัญหา แผ่นหยกที่เจ้าวังมอบให้ ระดับความสูงส่งของอำนาจดุจเจ้าวังมาด้วยตัวเอง

ดังนั้นการมาถึงของเขาจึงไม่ทำให้เกิดระลอกคลื่นค่ายกลใดๆ และจะไม่มีพื้นที่ลับแห่งใดที่ห้ามไม่ให้เขาเข้า

‘ไปทำการสืบให้เสร็จก่อน แล้วค่อยไปหาหลุมฝังศพของท่านพ่อท่านแม่’

ดวงตาสวี่ชิงฉายแววเด็ดเดี่ยว เอาแผ่นหยกที่เจ้าวังมอบให้ออกมา ภายใต้สถานการณ์ที่ไม่เกิดระลอกคลื่นใดๆ ทั้งสิ้น ก็เดินเข้าไปในค่ายกลเขาประกายอรุณ ย่างก้าวเข้าไปในภูเขา

ทันทีที่ฝีเท้าเหยียบไปบนภูเขาประกายอรุณ ในใจสวี่ชิงก็เกิดระลอกคลื่นอารมณ์ การสัมผัสรับรู้ถึงสายเลือดอันราวเลือนทำให้เขาลมหายใจหอบถี่ หัวใจยิ่งมีความเจ็บปวดส่งมา

นั่นคือสัมผัสรับรู้ของท่านพ่อท่านแม่

เมื่อพลังบำเพ็ญถึงระดับเขาระดับนี้จะสามารถสัมผัสรับรู้ได้ถึงสายเลือด และเพราะสัมผัสรับรู้ประเภทนี้ทำให้สวี่ชิงยกมือไปตามสัญชาตญาณ กดไว้ที่หัวใจ

“ท่านพ่อ…ท่านแม่…” สวี่ชิงพึมพำ ดวงตาแดงเล็กน้อย

แม้ในสายตาคนนอก สวี่ชิงเป็นคนที่สังหารอย่างเด็ดเดี่ยวไม่ลังเล ลงมือโหดเหี้ยม อีกทั้งระลอกคลื่นอารมณ์ก็ไม่ชัดเจน แต่นี่เกิดจากชีวิตบังคับ ไม่ใช่นิสัยของเขา

ตอนนี้ บนเขาประกายอรุณลูกนี้ ในสมองของเขามีภาพแต่ละฉากๆ ที่เมืองเป็นหนึ่งปรากฏขึ้นมาอย่างควบคุมไม่ได้

นานจากนั้น สวี่ชิงก้มหน้า ซ่อนกลิ่นอายทั้งหมดลงไป และสะกดระลอกคลื่นในใจเอาไว้ เขารู้ตัวเองตอนนี้ต้องทำภารกิจของเจ้าวังให้สำเร็จก่อน

เขาจึงเดินขึ้นไปยังยอดเขาเงียบๆ

ที่ไกลโพ้น สวี่ชิงมองเห็นบริเวณใกล้ยอดมีวังเล็กใหญ่หลายร้อยวังสร้างเอาไว้

วัสดุของวังเหล่านี้เป็นหินของภูเขาประกายอรุณ ดังนั้นก็เป็นเจ็ดสีเหมือนกัน อีกทั้งสร้างเอาไว้อย่างโอ่อ่า ภายใต้แสงจันทร์ดูแล้วเต็มไปด้วยความศักดิ์สิทธิ์

งดงามเป็นอย่างยิ่ง

และเทียบกับมณฑลรับเสด็จราชัน โถงครองกระบี่ที่นี่ในด้านของขนาดก็มีขนาดที่ใหญ่กว่ามาก ปกติแล้วผู้ครองกระบี่ที่รักษาการณ์อยู่ที่นี่ ในด้านของจำนวนก็ย่อมมากกว่ามณฑลรับเสด็จราชัน

แต่ว่าตอนนี้เป็นช่วงของสงคราม ผู้ครองกระบี่ของโถงครองกระบี่เขาประกายอรุณเก้าส่วนต่างมุ่งหน้าไปยังสนามรบ ตลอดทางที่สวี่ชิงเดินมาก็สัมผัสได้ว่าในโถงครองกระบี่ที่กว้างใหญ่แห่งนี้เงียบสงัดนัก

จำนวนของผู้ครองกระบี่เหมือนจะไม่ถึงสามสิบคน ขณะที่อำพรางสวี่ชิงสังเกตได้ว่า ผู้ครองกระบี่เหล่านี้ส่วนใหญ่ล้วนลาดตระเวน สีหน้าระแวดระวัง เห็นได้ชัดว่าโลกภายนอกมีคนเล่าลือเรื่องที่มีคนจะโจมตีโถงครองกระบี่พวกเขาก็ได้ยินมาเหมือนกัน

บทที่ 483 ก้าวหนึ่งสู่ห่านป่าเดียวดาย ก้าวหนึ่งสู่มาร (1) 1

บทที่ 483 ก้าวหนึ่งสู่ห่านป่าเดียวดาย ก้าวหนึ่งสู่มาร (1) 2

Verify captcha to read the content.ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผู้กล้าเหนือกาลเวลา