เข้าสู่ระบบผ่าน

ผู้กล้าเหนือกาลเวลา นิยาย บท 487

บทที่ 487 การช่วงชิงจากเทพเจ้า

……….

ณ จุดลึกหุบเหวสมุทร เสียงคำรามโกรธเคืองกึกก้อง

นิ้วเทพเจ้านิ้วนั้นพุ่งออกมาทันทีท่ามกลางเลือดเนื้อที่เลือนหายไปอย่างรวดเร็วจากร่างที่แหลกสลาย พลังอำนาจกดดันที่แผ่ออกมาพร้อมด้วยพลังทำลายล้าง แผ่ไปรอบๆ อย่างรุนแรง

ศีรษะและสิงโตหินระเบิดไปตั้งนานแล้ว ส่วนชายชราเผ่าจิตรกรรมเห็นได้ชัดว่ามีวิชาพิเศษ ตอนนี้ยังยืนหยัดอยู่ได้ คำพูดที่ตะโกนออกมาเห็นได้ชัดว่าได้ผล

ดังนั้นเพียงพริบตา นิ้วเทพเจ้าที่อยู่ในความโกรธเคืองอย่างมหาศาลก็พลันเปลี่ยนทิศทาง ปลายนิ้วพุ่งไปทางที่สวี่ชิงหนี

แม้องค์ท่านจะสติสัมปชัญญะไม่สมบูรณ์ อีกทั้งเนื่องจากได้รับบาดเจ็บจึงค่อนข้างขี้ลืม แต่กระนั้นก็ยังสามารถจำได้ว่าหน้าตาของสวี่ชิงกับร่างที่ตนเพิ่งผสานไปเมื่อครู่เหมือนกันทุกประการ

ดังนั้น เพียงพริบตา นิ้วเทพเจ้าก็ล้มเลิกไล่ตามชายชราเผ่าจิตรกรรม พุ่งตรงมาหาสวี่ชิง

สวี่ชิงตอนนี้พุ่งออกมาได้ระยะขอบเขตหนึ่งแล้ว สัมผัสได้ถึงการเปลี่ยนแปลงข้างหลัง สีหน้าก็เคร่งเครียด ความจริงนับจากที่เห็นชายชราเผ่าจิตรกรรมวาดร่างเทพเจ้าเป็นหน้าของเขาเองแล้ว สวี่ชิงก็เดาความคิดของอีกฝ่ายออก

แต่พู่กันอยู่ในมืออีกฝ่าย อีกทั้งยังเกี่ยวกับนิ้วเทพเจ้า ดังนั้นสวี่ชิงไม่มีวิธีไปฝืนเปลี่ยนความคิดของเทพเจ้าได้ แต่เขาสามารถวางแผนได้ว่าชายชราเผ่าจิตรกรรมจะหนีไปได้อย่างราบรื่นหรือไม่

ตอนนี้เมื่อนิ้วเทพเจ้าไล่ตามสวี่ชิงไป ชายชราเผ่าจิตรกรรมเร็วจี๋ สีหน้าฉายแววได้ใจ แต่ว่าในใจก็ยังเสียดายอยู่นิดๆ

‘น่าเสียดายนักสุดท้ายแล้วก็ไม่อาจควบคุมเทพเจ้าได้ ต่อให้เป็นแค่นิ้วของร่างแยกเทพเจ้า แต่ความสูงส่งก็ไม่ใช่สิ่งที่ข้าจะไปยุ่งเกี่ยวได้

‘เพียงแต่มีประสบการณ์ครั้งนี้ วันหน้าค่อยวางแผนให้ละเอียด ความเป็นไปได้ที่จะสำเร็จก็มี ในโลกภาพวาดใบนี้ในเมื่อน่าสนใจถึงขนาดนี้ หากข้าควบคุมเทพเจ้าได้ เช่นนั้นอยู่ข้างนอก…’

ชายชราเผ่าจิตรกรรมคิดถึงตรงนี้ในใจก็ฮึกเหิม

‘แต่เสียดายนิ้วเทพเจ้านิ้วนี้แล้ว…’

ชายชราเผ่าจิตรกรรมทอดถอนในใจ กวาดสายตาไปทางทิศที่สวี่ชิงหนีไปไกลๆ อย่างรวดเร็วผาดหนึ่ง

‘แต่ว่าผู้ควบคุมคนนี้ก็มาได้เวลาดีจริงๆ นับว่ามอบความช่วยเหลือในการหลบหนีให้ข้าได้ไม่น้อยเลย เขาก็เป็นคนดีจำนวนไม่มากในโลกภาพวาดใบนี้ เสียดายนิดๆ จริงๆ ขอให้เขาปลอดภัยก็แล้วกัน’

ชายชราเผ่าจิตรกรรมยิ้ม กำลังจะเร่งความเร็ว แต่ในตอนนี้เอง จู่ๆ จิตมุ่งร้ายกลุ่มหนึ่งก็แผ่มาจากข้างหลัง จับเป้าหมายเขาเอาไว้อย่างมั่นคง

ในเสี้ยวพริบจาที่สัมผัสได้ถึงจิตมุ่งร้าย ชายชราเผ่าจิตรกรรมสีหน้าเปลี่ยนไปทันที ในยามที่หันไป หลังจากที่ดวงตาเบิกกว้าง รูม่านตาก็หดเล็กทันควัน

ข้างหลังเขามีอสูรสมุทรบรรพกาลตัวหนึ่งปรากฏขึ้นไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไร

ร่างสีเทาดำปกคลุมไปด้วยเกล็ดแหลมคมมากมาย ในดวงตาขนาดมหึมาฉายแสงเย็นชา จับเป้าหมายเขาเอาไว้อย่างมั่นคง และตัวของอสูรสมุทรบรรพกาลก็มีขนาดถึงหลายร้อยจั้ง ชายชราเผ่าจิตรกรรมไปเทียบกับมันแล้ว ราวกับมดปลวก

ภาพนี้ทำให้ชายชราเผ่าจิตรกรรมสะท้านเฮือก จิตใจสั่นไหว ร้องตกใจเสียงหลง

“วิถีสวรรค์!”

ชายชราเผ่าจิตรกรรมลมหายใจหอบถี่ ในใจเกิดคลื่นยักษ์ท่วมฟ้า สมองมีสายฟ้าฟาดผ่า เพราะอันดับแรกที่เขากลัวคือนิ้วเทพเจ้า อันดับสองก็คือดวงชะตา!

เขตติงหนึ่งสามสองในตอนนี้ก็เป็นพลังทั้งสองประเภทสอดประสาน พลังชะตาสะกดเทพเจ้า ในขณะที่ตัดกรรมเวรทุกอย่าง ก็สะกดนักโทษกึ่งมีชีวิตที่เปลี่ยนไปไม่ค่อยเหมือนเดิมเนื่องจากนิ้วเทพเจ้าเหล่านี้ด้วย

ดังนั้นอย่างแรกแม้เขาจะกลัว แต่ก็ยังพอไหว สภาวะกึ่งเป็นเช่นนี้ทำให้ระหว่างเขากับนิ้วเทพเจ้ามีกรรมหนาต่อกัน

อย่างหลัง…สามารถสยบนิ้วเทพเจ้า ดังนั้นสำหรับพวกเขาที่กึ่งมีชีวิตเหล่านี้ก็คือตัวข่มตามธรรมชาติ!

และวิถีสวรรค์ก็คือต้นกำเนิดของพลังชะตา

ดังนั้น ชายชราเผ่าจิตรกรรมตอนนี้หลังจากที่ดวงตาเบิกกว้าง ก็ร้องน่าเวทนาออกมาตามสัญชาตญาณ คล้ายว่าพบกับศัตรูร้ายตัวฉกาจ ร่างถอยหลังไปอย่างรวดเร็ว คิดอยากจะไปให้ไกลจากอสูรสมุทรบรรพกาลที่อยู่ข้างหลังตัวนี้

“สมควรตายๆๆ”

“ที่นี่…ทำไมจึงมีวิถีสวรรค์ อสูรสมุทรบรรพกาลตัวนี้นี่มันอะไรกัน หรือจะเป็นตัวตนโบราณที่เกิดจากซากดวงอาทิตย์ในหุบเหวสมุทรในโลกภาพวาดใบนี้”

ชายชราเผ่าจิตรกรรมหนังศีรษะชาวาบ ขณะถอยไปอย่างรวดเร็วเขาก็พบว่าอสูรสมุทรบรรพกาลตัวนั้นกำลังอ้าปากกว้าง จิตใจจึงเกิดคลื่นยักษ์ซัดโหม

“ทำไมมันถึงหมายตาข้าเล่า”

ชายชราเผ่าจิตรกรรมโหยหวน วิชาทุกอย่างของเขาเมื่ออยู่ต่อหน้าวิถีสวรรค์ที่เป็นตัวข่มตามธรรมชาติก็ไม่มีผลใดๆ ทั้งสิ้น ตอนนี้ไม่ว่าจะต่อต้านอย่างไรก็ล้วนแต่ไร้ประโยชน์ ท่ามกลางความร้อนรน ร่างของเขาไหววูบ ถลาเข้าไปในโลกม้วนภาพวาด

แต่เสี้ยวขณะต่อมา อสูรสมุทรบรรพกาลก็พุ่งมา จากนั้นก็เข้าไปในภาพวาดด้วย ไล่โจมตีสังหารมา

ภาพผืนนั้นที่ชายชราเผ่าจิตรกรรมอยู่ลอยอยู่บนพื้น เงาร่างสมาชิกในครอบครัวทั้งสี่รุ่นในภาพตอนนี้ทุกคนล้วนฉายแววหวาดกลัว กำลังหายไปคนแล้วคนเล่า คล้ายว่าถูกกลืนกิน

ความหวาดกลัวตลบอวลในภาพวาดผืนนี้ เข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ

แต่เห็นได้ชัดว่าชายชราคนนี้ก็มีความสามารถไม่น้อย แม้เผชิญหน้ากับวิถีสวรรค์ที่เป็นตัวข่มตามธรรมชาติจะไม่อาจต่อกรได้ตรงๆ แต่ก็มีวิธีถ่วงเวลา

นี่ความจริงแล้วเป็นหนึ่งในเหตุผลที่ในตอนที่สวี่ชิงดูดซับซากดวงอาทิตย์ก่อนหน้านี้ก็ไม่ได้ใช้วิธีนี้ออกมา ชายชราในตอนนั้นกำลังวาดรูป อีกทั้งนิ้วเทพเจ้าก็อยู่ข้างๆ หากใช้ก็จะถูกกัดกินได้อย่างง่ายมาก

และตอนนี้นิ้วเทพเจ้าไล่สังหารสวี่ชิง ชายชราเผ่าจิตรกรรมคิดเอาเองว่าวางแผนสวี่ชิง แต่ความจริงแล้วสวี่ชิงก็วางแผนเขาเหมือนกัน

มองจากมุมหนึ่งแล้ว ความจริง…พวกเขาทั้งสองคนไม่มีใครชนะ

ชายชราเผ่าจิตรกรรมอยู่ในอันตราย สวี่ชิงก็อยู่ในอันตรายเช่นกัน

สวี่ชิงในตอนนี้กำลังหนีอย่างเร็วรี่ แต่พลังอำนาจเทพประดุจมหาสมุทรจากนิ้วเทพเจ้า ภายใต้ความรวดเร็วของการเคลื่อนที่ สวี่ชิงก็ยากจะหลบหนี เพียงสามถึงห้าอึดใจ รอบๆ เขาก็รางเลือนและบิดม้วนอย่างรุนแรง

นิ้วเทพเจ้าพุ่งออกมาจากในหมอกหุบเหวมหาสมุทร มาพร้อมด้วยความบ้าคลั่งและยึดมั่น

สวี่ชิงพลันเงยหน้า พลังหมอกพิษในร่างปะทุ พลังต้นกำเนิดเทพพระจันทร์สีม่วงแผ่ขยายออกมาจากในร่างอย่างรวดเร็ว ขณะเดียวกันเงาเขาจักรพรรดิภูตก็ปรากฏอยู่ข้างหลัง วิหคทองปรากฏขึ้นข้างบน ปราณมรรคาในนั้นนั่งสง่างาม ดวงตาฉายประกายคมกล้า

ยิ่งมีแสงพรายรุ้งเจ็ดสีเป็นต้นกำเนิดพลังให้สวี่ชิง แผ่ซ่านไปรอบๆ ทำให้สวี่ชิงในเสี้ยวขณะนี้เต็มไปด้วยความศักดิ์สิทธิ์

บทที่ 487 การช่วงชิงจากเทพเจ้า 1

บทที่ 487 การช่วงชิงจากเทพเจ้า 2

Verify captcha to read the content.ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผู้กล้าเหนือกาลเวลา