บทที่ 499 ร่างกายซื่อตรงยิ่งนัก
……….
เรื่องที่สวี่ชิงกำราบเผ่ากระจายวิญญาณ ท่ามกลางการเล่าลือไปไม่ไม่หยุด ไม่เพียงแค่ชื่อเสียงของเขาเลื่องลือไปไกลเท่านั้น อีกทั้งการมอบทรัพยากรจากเผ่าต่างๆ ก็ราบรื่นกว่าแต่ก่อนมากอย่างเห็นได้ชัด อีกทั้งตอนนี้ก็ไม่มีเผ่าใดที่เสนอราคาสูงๆ อีก
อย่างไรเสีย เผ่ามนุษย์ยังไม่ล้ม
อย่างไรเสีย สวี่ชิงกุมพลังทำลายล้างเผ่าเอาไว้
เช่นนี้แล้วความราบรื่นในการรับทรัพยากรก็เป็นเรื่องที่ควรจะเป็น
“เผ่าวารีส่งลูกกลอนสมุทรรักษาบาดแผลให้หนึ่งแสนแปดหมื่นเม็ด ของวิเศษเวทสงครามสามชิ้น
“เผ่าหูทิพย์ขายเลือดสมาชิกเผ่าตัวเองหนึ่งแสนสามหมื่นหยด เลือดนี้แฝงไว้ซึ่งคุณสมบัติยา สามารถควบคุมอาการบาดเจ็บสาหัสได้ในช่วงเวลาสั้นๆ นอกจากนี้ยังส่งของวิเศษเวทสงครามให้หนึ่งชิ้น
“ย่านการค้าเมืองผีสำหรับเรื่องลูกกลอนนั้นให้เปล่า ยิ่งยินดีส่งทหารผีร้ายไปสนามรบ เงื่อนไขคือวิญญาณของเผ่าคลื่นศักดิ์สิทธิ์ในสนามรบ ให้พวกมันเก็บไปได้ตามสบาย
“แล้วก็เผ่ากระจายวิญญาณ เผ่านี้…ยินดีมอบลูกกลอนชั้นยอดให้หนึ่งล้านเม็ด ไม่ต้องการแม้แต่อีแปะเดียว”
ระลอกคลื่นในใจชิงชิวซัดขึ้นลง จากการรายงานข้อมูลที่ตนรวบรวมมาสามวันนี้ให้สวี่ชิง นางสัมผัสได้ว่าเผ่าต่างๆ ในเขตปกครองผนึกสมุทร ล้วนแต่เข็ดขยาดเรื่องที่สวี่ชิงทำเมื่อก่อนหน้านี้
ในฐานะผู้ครองกระบี่ แนวคิดต่อวังครองกระบี่ของชิงชิวชัดเจนมาก
โดยเฉพาะหลังจากเกิดสงครามถูกสวี่ชิงจัดให้มาอยู่กรมอาลักษณ์ นี่ทำให้วิสัยทัศน์ต่อสถานการณ์โดยรวมของนางเปิดกว้างขึ้นอีกไม่น้อยจากการนี้ ได้รับการฝึกฝนอย่างหาโอกาสได้ยาก
ทุกอย่างทำให้นางเข้าใจถึงเรื่องที่สวี่ชิงทำครั้งนี้ความจริงแล้วคือสิ่งที่เจ้าวังอยากทำในตอนนั้น
เพียงแต่จังหวะโอกาสต่างกัน ความยากก็ไม่เหมือนกัน อย่างเช่นก่อนหน้านี้ยามไม่มีสงคราม ทุกฝ่ายต่างตรึงกันไว้ หากทำเช่นนี้ก็จะต้องถูกโจมตีกลับอย่างแน่นอน และเผ่าคลื่นศักดิ์สิทธิ์ก็คอยจับตาจ้องเล่นงานอยู่ จึงทำไม่ได้
การระดมพลก็เช่นกัน เป็นเรื่องละเอียดอ่อน สถานการณ์ซับซ้อน ปัจจัยมากมายที่ถ่วงดุลซึ่งกันและกัน สถานการณ์ซับซ้อนประดุจฟันสุนัขสับหว่าง ทั้งยังคล้ายบ่อโคลน เมื่อเสี่ยงลุยลงไปจะส่งผลกระทบต่อสถานการณ์สงคราม จะเป็นภัยร้ายแรง
มีเพียงสถานการณ์เช่นอย่างตอนนี้ ขณะเดียวกับที่แนวหน้าสถานการณ์ตึงเครียด ก็มัดผู้แข็งแกร่งจากเผ่าต่างๆ ส่วนใหญ่ไว้ที่สนามรบ นี่ถึงจะตัดพันธนาการทุกอย่างได้อย่างแท้จริง เคลื่อนไปได้อย่างว่องไว
แน่นอน เงื่อนไขคือต้องมีคุณสมบัติพลังบำเพ็ญที่สามารถบดขยี้ทุกสิ่ง มีอำนาจเจรจาต่อรองกับเผ่าแข็งแกร่งได้อย่างเท่าเทียม
“การพนันที่ยืนอยู่บนไหล่ยักษ์แบบนี้ดูเหมือนง่าย แต่เงื่อนไขของผู้ที่ลงมือจะต้องสูงมาก ไม่เพียงแต่ต้องมีจิตใจที่เด็ดเดี่ยวมุ่งมั่นเท่านั้น แต่ยิ่งต้องมีความโหดเหี้ยมใจกล้า ทั้งยังต้องบ้าระห่ำมากพอ แต่ก็จะสูญเสียความเป็นเหตุผลและความใจเย็นไปไม่ได้ ต้องมอบทางลงให้กับผู้อื่นอย่างยอดเยี่ยมได้จังหวะ ในขณะที่ใช้การโจมตีแทนการป้องกัน ก็ต้องใช้ทักษะการถอยเป็นบุก…”
ชิงชิวมองสวี่ชิงอย่างรวดเร็วผาดหนึ่ง ต่อให้ในใจจะเกลียดชัง แต่ตอนนี้ในใจของนางก็ยังมีความเคารพเลื่อมใสผุดขึ้นมา
‘ความพอดีต่างๆ ในนั้น ไม่ใช่สิ่งที่คนทั่วไปทำได้ หากเปลี่ยนเป็นข้า…เด็ดขาดเหี้ยมโหดบ้าระห่ำนั้นมี แต่จะควบคุมความพอดีพอเหมาะอย่างไร วิเคราะห์อย่างใจเย็น เจรจาหารืออย่างเป็นเหตุเป็นผลข้าสู้เขาไม่ได้’
สวี่ชิงไม่รู้ถึงสิ่งที่ชิงชิวคิดอยู่ในใจตอนนี้ ดวงตาของเขาฉายแววครุ่นคิด ในใจหลังจากประเมินก็ตอบกลับไปอย่างช้าเนิบ
“ลูกกลอนโอสถที่เผ่ากระจายวิญญาณมอบให้ยังไม่พอ สิ่งที่ข้ามองเอาไว้ในเผ่าพวกเขาไม่ใช่เพียงแค่นี้ ให้พวกเขาเอามาเพิ่มอีกนิด แต่จะบีบคั้นเกินสมควรไม่ได้ ตอนนี้ยังไม่ใช่เวลา ดังนั้นจำนวนพวกนี้หลังจากนี้พวกเราจะซื้อ
“ส่วนเงื่อนไขของย่านการค้าเมืองผี…เรื่องนี้ตามหลักเหตุผลแล้วข้าตกลง แต่บอกพวกเขาว่าต้องให้เจ้าวังตกลงถึงจะดี ดังนั้นข้าจะให้พวกเขาส่งผีร้ายไปสนามรบก่อน ไปพูดคุยกับเจ้าวัง
“ส่วนทรัพยากรของทุกเผ่า ภายในสามวันต้องส่งไปทางเขตปกครองหลวงทางนั้น ให้พวกเรารวบรวมส่งไปสนามรบ
“ด้านเงินทอง หลังจากที่พวกเขาส่งมอบทรัพยากรแล้วให้ไปหาปลัดเขตปกครอง”
จากการมอบหมายของสวี่ชิง ชิงชิวพยักหน้าตอบรับ ในตอนที่กำลังจะถอยออกไป นอกกรมอาลักษณ์ หนิงเหยียนมาถึงอย่างรวดเร็ว
“รายงานอาลักษณ์!”
สวี่ชิงเงยหน้ามองไปทางหนิงเหยียน สำหรับสายตาของสวี่ชิงหนิงเหยียนสั่นสะท้านไปตามสัญชาตญาณเล็กน้อย ยืนตัวตรงแล้วเอ่ยเสียงดัง
“ทูตเผ่าวิญญาณต้นไม้ขอเข้าพบใต้เท้าขอรับ”
แทบจะในขณะเดียวกับที่หนิงเหยียนพูด แผ่นหยกสื่อเสียงของสวี่ชิงก็สั่น เขาเอามันออกมาแผ่ประสาทสัมผัสเทพกวาดไป เสียงของชายชราเจ้าของโรงเตี๊ยมบนถนนทองผุดก็ดังก้องในหัวเขา
“สวี่ชิง ข้าพาเผ่าวิญญาณต้นไม้กลุ่มที่สองมาร่วมสงครามกับเผ่ามนุษย์”
สวี่ชิงซาบซึ้ง รีบลุกขึ้นเดินออกไปข้างนอก ทำการต้อนรับด้วยตัวเอง
เผ่าวิญญาณต้นไม้เดิมก็เป็นพันธมิตรกับเผ่ามนุษย์อยู่แล้ว ก่อนหน้านี้ในตอนที่เจ้าวังออกรบ พวกมันก็ได้ส่งสมาชิกเผ่ากลุ่มหนึ่งไปร่วมกับกองทัพพันธมิตรที่โหวเหยาจัดตั้ง มุ่งหน้าไปยังสนามรบทางเหนือ
ตอนนี้ เผ่าที่เดิมก็ไม่ใช่เผ่าใหญ่อะไรอยู่แล้วกลับส่งกองทัพเสริมทัพที่สองมา เรื่องนี้ในสงครามการปกป้องของเขตปกครองผนึกสมุทรทั้งหมดที่ผ่านมาเกิดขึ้นเป็นครั้งแรก
ไม่นานนัก ข้างนอกตำหนักใหญ่วังครองกระบี่ สวี่ชิงเห็นชายชราเจ้าของโรงเตี๊ยมบนถนนทองผุดยืนและสมาชิกเผ่าต้นไม้วิญญาณหลายพันตนที่ลอยอยู่ข้างหลังเขาตรงนั้น
เงาร่างที่เหมือนต้นไม้ใหญ่ของพวกมันแข็งแรงมาก แผ่กลิ่นอายไม่ธรรมดาออกมา เห็นได้ชัดว่าเป็นผู้โดดเด่นยอดเยี่ยม
ข้างๆ ชายชราเจ้าของโรงเตี๊ยมบนถนนทองผุดยังมีชายชราอีกคนยืนอยู่ด้วย
ชายชราคนนี้เป็นมนุษย์ต้นไม้เช่นกัน ใบหน้าในความล้ำลึกแผ่ความหลักแหลมออกมาด้วย ยิ่งมีระลอกคลื่นไม่ธรรมดาแผ่มาจากร่าง ในดวงตามีพันมรรคา เป็นผู้บำเพ็ญระดับหวนสู่อนัตตาขั้นหนึ่งนั่นเอง
“สวี่ชิง ท่านนี้คือผู้อาวุโสเผ่าวิญญาณต้นไม้” ชายชราเจ้าของโรงเตี๊ยมบนถนนทองผุดเมื่อเห็นสวี่ชิงก็รีบพูดขึ้น
สวี่ชิงสายตาจ้องเพ่ง เดินเข้ามาอย่างรวดเร็ว ประสานหมัดโค้งคารวะ
“คารวะผู้อาวุโสวิญญาณต้นไม้ ขอบคุณเป็นอย่างยิ่งที่ช่วยเหลือ!”
“อาลักษณ์สวี่อย่าได้มากพิธี เดิมท่านก็เป็นเทพวิญญาณของเผ่าเรา พูดถึงฐานะก็อยู่ระดับเดียวกับกับหัวหน้าเผ่าเรา อีกทั้งเผ่ามนุษย์ยังปกป้องคุ้มครองเผ่าเรามานาน เผ่าวิญญาณต้นไม้ย่อมรู้จักบุญคุณ ตอบแทนบุญคุณ
“ก่อนหน้านี้ข้าปิดด่านใกล้จะทะลวงขั้นได้เต็มที ขอบคุณที่เจ้าวังครองกระบี่อนุญาตงดเว้นการออกรบให้ ตอนนี้ข้าทะลวงขั้นสำเร็จ จะเอาตัวรอดเพียงลำพังไปได้อย่างไร”
สวี่ชิงไม่รู้ว่าอะไรคือเทพวิญญาณ แต่คิดว่าน่าจะเกี่ยวกับหลิงเอ๋อร์ จึงโค้งคารวะอีกครั้ง สั่งให้คนมาต้อนรับจัดที่พักอาศัยให้ นัดส่งมอบทรัพยากรสามวันหลังจากนี้ มุ่งหน้าสู่เขตสนามรบทางตะวันตก ส่งไปหาเจ้าวัง
เผ่าต้นไม้วิญญาณนิสัยอ่อนโยน ผู้อาวุโสคนนี้ก็ไม่ได้อาศัยพลังบำเพ็ญของตัวเองดูถูกสวี่ชิง ด้านหนึ่งเป็นเพราะเทพวิญญาณ ด้านหนึ่งคือฐานะในวังครองกระบี่ตอนนี้ของสวี่ชิง
สิ่งที่สำคัญยิ่งกว่านั้นคือ เขารู้ดีเป็นอย่างยิ่งว่าชายหนุ่มข้างหน้าคนนี้ เป็นมิตรได้อย่างเดียวเท่านั้น ห้ามเป็นศัตรู
และตลอดการเดินทาง เขาก็ได้ยินเรื่องเผ่ากระจายวิญญาณเช่นกัน รู้เรื่องการเจรจาหารือของสวี่ชิงกับเผ่าเคียงเซียน ดังนั้นเขามองออกอย่างชัดเจนว่าสวี่ชิงในด้านการแก้ปัญหาเรื่องทรัพยากรตอนนี้เป็นประโยชน์กับแนวหน้าอย่างมหาศาล
เดิมนี่ก็เป็นคุณงามความชอบอย่างมหาศาลอยู่แล้ว
หลังจากนี้ หากอีกฝ่ายสามารถจัดการปัญหาเรื่องกำลังทหารได้ เช่นนั้นหลังจากคุณงามความชอบทั้งสองเรื่องทบรวมกันแล้ว ความยิ่งใหญ่ของคุณงามความชอบนี้ จะทำให้อีกฝ่ายในวังครองกระบี่เขตปกครองผนึกสมุทรมีอำนาจอย่างน่าครั่นคร้าม


ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผู้กล้าเหนือกาลเวลา