เข้าสู่ระบบผ่าน

ผู้กล้าเหนือกาลเวลา นิยาย บท 502

บทที่ 502 ศิษย์น้องเล็ก ข้าอยู่นี่!! (1)

……….

กองทัพข้ามเขตแดน พัดหอบรัศมีอำนาจท่วมท้นทรงพลัง ชั่วร้ายในเขตปกครองผนึกสมุทรถอยหลีก

ท้องฟ้าลมพัดกรีดหวีดก้อง พื้นดินเลื่อนลั่นสนั่นหวั่นไหว ยิ่งมีพลังฆ่าล้างสังหารพวยพุ่งจากในนั้นไม่หยุด

เรือลำมหึมาหลายหมื่นในยามที่โลดแล่นอยู่ในหมู่เมฆ สวี่ชิงไปจากทางหัวทางด้านขวาของชิงฉิน มาถึงยังในเรือลำมหึมาของโถงครองกระบี่ที่อยู่ข้างหน้าสุด

เสี่ยเลี่ยนจื่อก็อยู่ในนี้เช่นกัน

สวี่ชิงมาที่นี่เพื่อถามเรื่องเกี่ยวกับแดนต้องห้ามมรณะโดยเฉพาะ เรื่องนี้ตอนนั้นเป็นเขาที่ค้นพบมือยักษ์ในประตูสัมฤทธิ์ ทำให้สวี่ชิงจำได้อย่างแม่นยำ

“แดนต้องห้ามมรณะไม่เหมือนกับแดนต้องห้ามอื่นๆ ที่ล้วนเกิดจากเสี้ยวหน้าเทพเจ้าลืมตาสองครั้ง

“จากเอกสารโบราณที่มีบันทึกเกี่ยวกับแดนต้องห้ามมรณะและการสำรวจมาหลายปี เสี้ยวหน้าเทพเจ้าในห้วงเวลาที่ผ่านมาเนิ่นนานสิ่งที่มองครั้งแรกคือประตูสำริดโบราณที่อยู่ในส่วนลึกของทะเลต้องห้าม ทำให้ที่นั่นแปรเปลี่ยนเข้าไป ครั้งที่สองก็มองไปทางประตูบานนี้เช่นกัน

“ความจริงไม่ใช่แค่แดนต้องห้ามที่เป็นเช่นนี้เท่านั้น พื้นที่ต้องห้ามหลายๆ แห่งก็เช่นกัน ล้วนแต่มีวัตถุพิเศษบางอย่างเป็นต้นกำเนิดพลังทั้งนั้น ดังนั้นมีคนวิเคราะห์ว่าทุกครั้งที่เสี้ยวหน้าเทพเจ้าลืมตาคล้ายกำลังหาวัตถุอะไรบางอย่าง แน่นอน ก็มีคนวิเคราะห์เเหมือนกันว่าเสี้ยวหน้าเทพเจ้ากำลังคัดเลือก รายละเอียดเป็นเช่นไร สุดท้ายก็ยังไม่รู้”

หากเป็นคนอื่นถามเสี่ยเลี่ยนจื่อไม่มีทางพูดละเอียดขนาดนี้ แต่หากเป็นสวี่ชิงก็ไม่เหมือนกันแล้ว

เขาเอ่ยเนิบนาบ บอกข้อมูลที่ตัวเองรู้ทุกอย่างกับศิษย์หลานที่ตัวเองชื่นชอบที่สุดข้างหน้าคนนี้

สวี่ชิงคล้ายครุ่นคิด เขานึกถึงตอนนั้นที่ตัวเองใช้ของวิเศษเวทต้องห้ามเจ็ดสำนัก มองเห็นพิณโบราณเก่าโทรมในพื้นที่ต้องห้ามฐานที่มั่นคนเก็บกวาด มณฑลปักษาสวรรค์ทักษิณตัวนั้น

“ส่วนจักรพรรดิแดนต้องห้ามมรณะความจริงก็คือร่างชีวิตของประตูสำริดโบราณที่แปลงมาจากจากพลังที่แผ่ออกมาจากในพื้นที่ต้องห้ามมาเนิ่นนานหลายปีผสานไปในไอพลังประหลาด

“นี่ก็เป็นเหตุผลที่ว่าทำไมประตูสำริดโบราณเกิดรอยแยกมันถึงไม่มีแรงต้านทานใดๆ ก็ถูกกลืนกิน ความจริงในระดับหนึ่งเจ้าจะมองแดนต้องห้ามเป็นทุ่งหญ้าเพาะเลี้ยงปศุสัตว์ก็ได้”

เสี่ยเลี่ยนจื่อมองสวี่ชิง เอ่ยเสียงแหบแห้ง

“เพียงแต่เจ้าของทุ่งหญ้าเพาะเลี้ยงปศุสัตว์ที่เห็นภายนอกก็แค่ดูแลแทนก็เท่านั้น มันเองก็เป็นลูกแกะเช่นกัน เจ้าของทุ่งหญ้าเพาะเลี้ยงปศุสัตว์ที่แท้จริงกำลังหลับใหลอยู่

“พวกมันล้วนกำลังรอ รอเสี้ยวหน้าเทพเจ้ามองไปครั้งที่สาม ตื่นขึ้นอย่างอย่างแท้จริงท่ามกลางการอาบแสงสายตาครั้งที่สาม ทำให้พื้นที่ที่อยู่กลายเป็นแผ่นดินเทวะ”

คำอธิบายเช่นนี้ สวี่ชิงได้ยินเป็นครั้งแรก หลังจากที่เขาเงียบนิ่งก็พลันเอ่ยขึ้นมา

“เช่นนั้นแดนต้องห้ามปักษาราชันล่ะขอรับ”

“แดนต้องห้ามปักษาราชัน…ต่างออกไป” เสี่ยเลี่ยนจื่อส่ายหน้า

“ต้นกำเนิดของแดนต้องห้ามปักษาราชันไม่ใช่วัตถุแต่เป็นตัววิหคเพลิงสวรรค์ และวิหคเพลิงสวรรค์ไม่จำเป็นต้องหลับ เดิมมันก็ตื่นอยู่แล้ว

“วิหคเพลิงสวรรค์จะรอเทพเจ้าลืมตาครั้งที่สาม หรือจะไม่รอ อาศัยตัวเองยกระดับก็ได้

“ดังนั้นวิหคเพลิงสวรรค์ ไม่เหมือนกัน”

“แกว๊ก!” นอกเรือลำมโหฬาร เสียงหยิ่งทะนงของชิงฉินดังมา

สวี่ชิงประหลาดใจ หันไปมองชิงฉินที่อยู่ข้างนอกเรือ

ชิงฉินไม่ได้บิน มันขี้เกียจยู่นิดๆ ดังนั้นกรงเล็บทั้งสองข้างของมันต่างคว้าเรือยักษ์เอาไว้ข้างละลำ ห้อยอยู่ข้างล่างเหมือนยืนกลับหัว หัวทั้งสามส่ายไปส่ายมากลืนกินหมอกเมฆ

สังเกตถึงสายตาของสวี่ชิง หัวข้างขวาของมันผงกขึ้นมา ในดวงตาฉายระลอกคลื่นอารมณ์ไม่พอใจ

ท่าทางแบบนี้ สวี่ชิงมองออกแล้ว

เขารู้ว่าชิงฉินอยากสังหารล้างเผ่า…

“ผู้อาวุโสพวกเราไม่รีบร้อน มีโอกาสแน่นอน” สวี่ชิงรีบปลอบ

หัวขวาของชิงฉินคราวนี้ถึงได้ห้อยลง กลืนกินเมฆหมอกที่ทำให้เป็นนกจืดชืดได้ หน้าตาท่าทางเหม่อลอยว่างเปล่า

เสี่ยเลี่ยนจือสังเกตเห็นภาพฉากนี้ คล้ายครุ่นคิดอะไร ถอนหายใจอย่างสะท้อนใจออกมา

“อาจารย์ของเจ้าเป็นคนที่มีความสามารถ ชั่วชีวิตนี้รับเจ้ากับศิษย์พี่หญิงของเจ้าสองคนนี้เป็นวาสนาของเขา และก็เป็นวาสนาของพวกเจ้าเช่นกัน ดังนั้นเจ้าจะต้องมีชีวิตให้ดี เติบโตมาให้ดี เรื่องอื่นไม่ต้องขบคิด ฉวยโอกาสที่ข้าตาแก่คนนี้ยังกระโดดโลดเต้นได้ ข้าจะเป็นผู้คุ้มครองเจ้าเอง!”

เสี่ยเลี่ยนจื่อมองสวี่ชิงผาดหนึ่ง ความชื่นชมในดวงตายิ่งเข้มข้นขึ้นอีกหลายส่วน

“เอ๋ ข้ากับศิษย์พี่หญิง ไม่ใช่ว่ายังมีศิษย์พี่ใหญ่กับศิษย์พี่สามของข้าด้วยหรอกหรือขอรับ” สวี่ชิงอึ้ง

“พวกเขาหรือ หึๆ ข้าลืมไปแล้ว” เสี่ยเลี่ยนจื่อแค่นเสียงขึ้นจมูก

“ผู้บำเพ็ญเช่นพวกเราจะได้รับอิทธิพลจากอารมณ์ไม่ได้ ศิษย์พี่สามของเจ้าแต่เดิมก็อยู่ดีๆ อยู่หรอก แต่กลับไปลักลอบคบหากับธิดาเทพของสำนักเซียนล้ำบารมี สุดท้ายหนีงานแต่งงานไม่สำเร็จ ปล่อยให้สำนักเซียนล้ำบารมีจับจุดอ่อนได้ เมื่อปีก่อนถูกพวกเขาลากกลับมาจากนอกทะเล

“ตอนนี้กลายเป็นเมล็ดพันธุ์มนุษย์ของภายในสำนักเซียนล้ำบารมี เจ้าดูสิว่าเขาน่าอนาถเพียงใด นี่ก็คือจุดจบที่พลังบำเพ็ญไม่พอ!” เสี่ยเลี่ยนจื่อท่าทางโมโหที่เขาไม่เอาเรื่องเอาราว

“หากพลังบำเพ็ญของเขาเพียงพอ เหมือนอย่างอาจารย์ของเจ้า แค่ถลึงตา คู่ฝึกเต๋าหรือคนอื่นๆ ใครบ้างจะกล้าพูดว่าไม่”

สวี่ชิงสีหน้าแปลกประหลาด มองบรรพจารย์ผาดหนึ่ง ไม่มั่นใจว่าประโยคนี้ของอีกฝ่ายมีความหมายแฝงอะไรหรือไม่

“ตอนนี้เป็นแบบนี้สภาพน่าอเนจอนาถ อาจารย์เจ้าขี้เกียจจะไปช่วย ข้าก็ไม่อยากจะไปเอาตัวกลับมา

“ส่วนศิษย์พี่ใหญ่ของเจ้าคนนั้น…ไม่รู้ทำไมก็เริ่มหื่นกามขึ้นมาเหมือนกัน เมื่อครึ่งปีก่อนเขียนจดหมายมาหาอาจารย์ของเข้า บอกให้อาจารย์เจ้าไปสู่ขอผู้บำเพ็ญชื่อเถาอะไรนั่น งานการไม่ทำ ไม่ทำหน้าที่ผู้ครองกระบี่ให้ดี แล้วก็ไม่รู้จักขยันฝึกบำเพ็ญ รู้จักแต่หื่นกาม!”

สวี่ชิงกะพริบตาปริบๆ ไม่พูดอะไร

“เป็นเจ้าที่ไม่เลว เจ้าต้องจำเอาไว้ พวกเราผู้บำเพ็ญแม้การฝึกบำเพ็ญไม่ได้บอกว่าตัดขาดซึ่งความรัก แต่เรื่องแบบนี้ไม่ใช่ประเด็นสำคัญ พลังบำเพ็ญถึงจะเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด

“รอเมื่อเจ้าถึงระดับหวนสู่อนัตตา คู่ฝึกเต๋าแบบใดที่หาไม่ได้บ้าง สูงเตี้ยอ้วนผอม ผู้หญิงต่างๆ นานา รังแต่จะเข้าแถวมาให้เจ้าเลือกได้ตามใจ

“ข้าบรรพจารย์คนนี้เป็นคนที่อาบน้ำร้อนมาก่อน เจ้าเชื่อฟังข้าไว้ไม่มีผิดพลาด เจ้าต้องขยันมุมานะบากบั่น!”

เสี่ยเลี่ยนจื่อสั่งสอนชี้แนะออกมาจากใจจริง

สวี่ชิงลังเลเล็กน้อย เอ่ยเสียงต่ำทุ้ม

“ศิษย์พี่รองกับหวงเหยียนทางนั้นไม่ใช่ว่า…”

“นั่นไม่เหมือนกัน!” เสี่ยเลี่ยนจื่อกระแอมทีหนึ่ง กวาดสายตาองชิงฉินที่อยู่ข้างนอก ไม่พูดอะไรอีก

สวี่ชิงแปลกใจเล็กน้อย เขาสังเกตเห็นสายตาของเสี่ยเลี่ยนจื่อ ในสมองมีภาพที่ตอนนั้นตัวเองใช้ของวิเศษเวทต้องห้ามเจ็ดเนตรโลหิตมองไปทางหวงเหยียน อีกฝ่ายรู้ตัวภาพนั้นผุดขึ้นมา

ตอนนั้นเขารู้สึกว่าหวงเหยียนไม่ธรรมดาอยู่นิดๆ

บทที่ 502 ศิษย์น้องเล็ก ข้าอยู่นี่!! (1) 1

Verify captcha to read the content.ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผู้กล้าเหนือกาลเวลา