เข้าสู่ระบบผ่าน

ผู้กล้าเหนือกาลเวลา นิยาย บท 502

บทที่ 502 ศิษย์น้องเล็ก ข้าอยู่นี่!! (2)

……….

และการมาถึงของกองทัพมณฑลรับเสด็จราชันก็สร้างสนใจให้กับมณฑลบังคับจำนนตั้งนานแล้ว ผู้บำเพ็ญทุกเผ่าต่างสีหน้าตื่นเต้นดีใจ

ระหว่างเส้นทางมา สวี่ชิงใช้อำนาจของตัวเองติดต่อกับโถงครองกระบี่มณฑลบังคับจำนนแล้ว พวกเขาจึงไม่ประหลาดใจ แต่เฝ้ารออยู่นาน

“ขอบคุณอาลักษณ์สวี่ที่ช่วยเหลือ! ขอบคุณสหายทุกท่านจากมณฑลรับเสด็จราชันที่ช่วยเหลือ!

“ขอโปรดสำแดงพลังสะกดควบคุมร่วมกับพวกข้าเพื่อให้ผนึกเสร็จสิ้นสมบูรณ์ด้วยเถิด!”

ผู้อาวุโสใหญ่โถงครองกระบี่มณฑลบังคับจำนนเป็นผู้บำเพ็ญกลางคน หลังจากสายตาของเขากวาดมองกองทัพมณฑลรับเสด็จราชันแล้ว สีหน้าก็ฮึกเหิม

สวี่ชิงพยักหน้า เขารู้ว่าตอนนี้ไม่ใช่เวลามาทักทาย ดังนั้นหลังจากลูบชิงฉินเบาๆ ฉิงฉินคำรามก้องขึ้นมาก็พุ่งออกไปตัวแรก เปล่งแสงเทพของตัวเองทางหนึ่งออกไปทางชุดสวมใส่สำหรับคนตายสีดำ

แสงเทพซัดไป เงาร่างเหี้ยมเกรียมที่ก่อขึ้นจากเงาดำมหาศาลแตกสลายทันที ขณะที่ชุดสวมใส่สำหรับคนตายสั่นคลอนในนั้นก็มีเสียงคำรามโมโหดังออกมา

ขณะเดียวกันนี้ ผู้บำเพ็ญมณฑลรับเสด็จราชันก็พุ่งออกไปอย่างรวดเร็วเช่นกัน ภายใต้การบัญชาจากสำนักต่างๆ ภายใต้ค่ายกลหยินหยางของโถงครองกระบี่ที่ซัดลงมา พวกเขาก็ขัดสมาธินั่งลงไปในค่ายกลอย่างชำนาญ เสียงร่ายคาถาดังก้องขึ้นมาอีกครั้ง

“ข้าผสานซึ่งพลังแห่งฟ้าดิน มรรคาสาปสะกดผี

“วิถีหยินหยางผนึกสูงสุด ห้ามมิให้ขัดขืน”

ฟ้าดินเปลี่ยนสี ลมเมฆหอบม้วน การสะกดควบคุมจากมณฑลรับเสด็จราชัน ภายใต้แสงกะพริบวูบวาบของค่ายกลหยินหยาง ท่ามกลางเสียงร่ายคาถา สะท้อนก้อง ก็พุ่งสะกดไปด้วยเสียงเลื่อนลั่นครืนครัน

ฟ้าดินสนั่นหวั่นไหว ชุดสวมใส่สำหรับคนตายสีดำสั่นคลอนอย่างเห็นได้ชัด และการเข้าร่วมของมณฑลรับเสด็จราชันก็ทำให้ผู้บำเพ็ญทั้งหลายของมณฑลบังคับจำนนที่เหนื่อยล้าไร้เรี่ยวแรงเค้นพลังที่เหลือออกมา ทำให้ผ้าคลุมศพผืนนั้นเคลื่อนไปเร็วยิ่งกว่าเดิม แผ่ปกคลุมไป

และในตอนนี้เอง สวี่ชิงที่ยืนอยู่บนหัวข้างขวาของชิงฉิน บินผ่านเหนือชุดสวมใส่สำหรับคนตายสีดำ แผ่นหยกสื่อเสียงของเขาพลันสั่นขึ้นมา ในนั้นมีเสียงที่ไม่ได้ยินมานานดังขึ้น

“ศิษย์น้องเล็ก ข้าอยู่นี่! ข้าเห็นเจ้าแล้ว ในที่สุดเจ้าก็มา รีบมาช่วยข้าเร็ว!”

สวี่ชิงดวงตาจ้องเพ่ง หลังจากที่เขากับนายกองแยกกันที่ต้นเซียนแท้สิบลำไส้ อีกฝ่ายก็ไร้ซึ่งข่าวคราวมาโดยตลอด หากไม่ใช่เชื่อว่านายกองต่อให้เหลือเพียงแค่ศีรษะก็ไม่มีทางตาย สวี่ชิงคงคิดว่านายกองซี้แหงแก๋ไปแล้ว

ในใจของเขาจึงค่อนข้างเป็นห่วงมาโดยตลอด

จวบจนตอนนี้ ในแดนต้องห้ามอาภรณ์แห่งนี้ เขากลับได้ยินเสียงของนายกอง

สวี่ชิงพลันมองไป

ในชุดสวมใส่สำหรับคนตายสีดำที่ถูกคลุมไปกว่าครึ่ง ในเงาร่างที่ก่อขึ้นจากหมอกมากมายมหาศาล มีเงาร่างหนึ่งโบกมือให้สวี่ชิง ท่าทางคล้ายกับนายกองอยู่หลายส่วน

เนื่องจากอยู่ค่อนข้างไกล รวมกับหมอกคลุมเครือรางเลือน สวี่ชิงจึงมองเห็นเพียงเค้ารางคร่าวๆ เท่านั้น อีกทั้งอีกฝ่ายก็แผ่ไอพลังสีดำออกมาเช่นกัน มองเผินๆ แล้วไม่ต่างอะไรกับหมอกเหี้ยมเกรียมที่เกิดจากแดนต้องห้ามอาภรณ์สักเท่าไรเลย

ดังนั้นหลังจากที่สวี่ชิงมองผาดหนึ่ง ในใจก็เกิดความสงสัย

“ไม่เคยได้ยินว่าพลังของแดนต้องห้ามอาภรณ์ทำให้เกิดภาพหลอนด้วย…”

“ไม่ใช่ภาพหลอน! อาชิงน้อย รีบมาช่วยข้าเร็วเข้า!”

คิ้วของสวี่ชิงพลันเลิกขึ้น ยืนอยู่บนหัวข้างขวาของชิงฉิน ก้มหน้าประเมินอย่างละเอียด สายตาจับจ้องไปที่เงาร่างที่สงสัยว่าเป็นนายกอง ค่อยๆ มองเห็นว่าหมอกดำเดือดพล่านข้างหลังอีกฝ่ายมีมือมากมายก่อตัวขึ้น คล้ายว่ามาพร้อมด้วยความบ้าคลั่งและโมโห จะจับเขาเอาไว้

ภาพนี้เห็นได้ชัดว่าไปก่อเรื่องที่ทำให้สวรรค์โกรธผู้คนเคียดแค้นมาเป็นแน่

เห็นเป็นเช่นนี้ สวี่ชิงจึงแน่ใจในตัวตนของอีกฝ่าย

“ผู้อาวุโสชิงฉิน คนคนนั้นเป็นศิษย์พี่ของข้า รบกวนท่าน…” สวี่ชิงเอ่ยปากขอชิงฉิน

ชิงฉินกำลังแผ่ประกายแสงสีแดงม่วงของตัวเองวูบวาบไปรอบๆ ไม่หยุด ทุกครั้งที่กวาดผ่านไป ล้วนทำให้เงาร่างแดนต้องห้ามอาภรณ์จำนวนไม่น้อยแตกสลายไป และหัวทั้งสามที่ฉวยโอกาสก็ดูดไปดูดมา คล้ายว่ากำลังดื่มเหล้า ดื่มอย่างมีความสุขเสียเหลือเกิน

เมื่อได้ยินคำพูดของสวี่ชิง หัวของชิงฉินก็ไหววูบ

“แกว๊ก!”

เงาร่างใหญ่โตของมันพลันส่งเสียงดังบึ้มก็พุ่งตรงไปในหมอกแดนต้องห้ามอาภรณ์ข้างล่าง ทุกที่ที่พาดผ่าน เงาร่างแดนต้องห้ามอาภรณ์ที่พุ่งออกมาทุกร่างร่างส่งเสียงโหยหวน ไม่ถูกแสงเผาไหม้ ก็ถูกชนจนแตกเป็นเสี่ยงๆ ไม่ก็ถูกกลืนลงไปทั้งเป็น

เพียงพริบตา ชิงฉินก็พาสวี่ชิงลึกเข้าไปในแดนต้องห้ามอาภรณ์

ภาพนี้ดึงความสนใจของโถงครองกระบี่มณฑลรับเสด็จราชันและมณฑลบังคับจำนนทันที ผู้อาาวุโสใหญ่ทั้งสองหน้าพลันเปลี่ยนสี พุ่งออกไปพร้อมกัน

ฐานะของสวี่ชิงในตอนนี้ในสายตาของพวกเขาไม่ธรรมดา จะให้เกิดข้อผิดพลาดไม่ได้

แล้วยังมีเสี่ยเลี่ยนจื่อทางนั้นก็รวดเร็วเช่นกัน ทั้งๆ ที่พลังบำเพ็ญสู้ผู้อาวุโสใหญ่ทั้งสองไม่ได้ แต่เขากลับเป็นคนแรกที่พุ่งไปหาสวี่ชิง

อย่างไรเสียก็เป็นเด็กบ้านตัวเอง ในสนามรบแห่งนี้ ในสายตาของเขาจะเป็นผนึกก็ดี ความเป็นตายของคนอื่นก็ช่าง ความปลอดภัยของคนของตัวเองสำคัญที่สุด ดังนั้นตลอดเวลาที่ผ่านมาเขาไม่ได้จากไปไหนไกล

ตอนนี้ในขณะที่ทั้งสามคนนี้พุ่งออกมา ชิงฉินก็พาสวี่ชิงลึกเข้าไปในแดนต้องห้ามอาภรณ์อีกครั้ง จากการดำดิ่งลงไป ทุกอย่างรอบๆ เปลี่ยนมามืดมิด ไอพลังประหลาดเข้มข้นรวมมาจากทุกทิศ ขณะเดียวกันเสียงคำรามที่มาจากในแดนต้องห้ามอาภรณ์ก็ยิ่งดังเลื่อนลั่น

ส่วนเงารางเลือนของนายกองที่อยู่ข้างหน้าก็ค่อนข้างชัดขึ้นมาจากก่อนหน้านี้ขึ้นอีกไม่น้อย เขากำลังพุ่งออกมาจากในแดนต้องห้ามอาภรณ์อย่างสุดกำลัง แต่มือใหญ่จำนวนนับไม่ถ้วนข้างหลังเขาตอนนี้ใกล้จะไล่ตามมาทันแล้ว

ช่วงเวลาวิกฤตอันตราย นายกองก็สู้สุดชีวิตแล้ว ในดวงตาฉายแววบ้าคลั่ง ทั้งร่างเพียงไหววูบ ทันใดนั้นบนร่างก็มีดวงตานับไม่ถ้วนงอกออกมา หลุดออกจากร่างไปทั้งหมดแล้วตรงดิ่งไปที่มือใหญ่พวกนั้น หลังจากติดไปในนั้นก็ระเบิด

ท่ามกลางเสียงดังสนั่นหวั่นไหว มือใหญ่จำนวนไม่น้อยระเบิด ฉวยโอกาสนี้ นายกองพุ่งออกมาทันที ตรงมาหาสวี่ชิง

“ศิษย์น้องเล็ก!” มือขวานายกองยกขึ้น คิดจะคว้าไปทางชิงฉิน และระยะห่างของทั้งสองฝ่ายตอนนี้เหลือเพียงแค่ร้อยจั้งเท่านั้น

สำหรับชิงฉินแล้ว ระยะร้อยจั้งแค่ยื่นหัวไปก็ได้แล้ว แต่ในเสี้ยวพริบตาที่หัวข้างขวาของชิงฉินจะยื่นเข้าไป จู่ๆ สีหน้าของหัวทั้งสามก็เปลี่ยนไปในทันที ขนทั้งตัวตั้งชัน

อันตรายเป็นตายรุนแรงผุดขึ้นมาในใจ

Verify captcha to read the content.ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผู้กล้าเหนือกาลเวลา