บทที่ 522 จื่อเสวียนบนตะเกียงกระจ่าง (1)
Ink Stone_Fantasy
ได้ยินเสียงจากบรรพจารย์สำนักวัชระ สวี่ชิงเงยหน้ามองวังที่อยู่ไกลๆ ผาดหนึ่ง คล้ายครุ่นคิด จากนั้นก็มองนายกอง พบว่าความตื่นเต้นบนใบหน้าและในดวงตาของนายกองเหมือนว่าจะทะลักออกมา
นี่ไม่ค่อยเหมือนกับความบ้าคลั่งในเวลาที่ได้เห็นของล้ำค่าแบบที่ผ่านๆ มา
“ครั้งที่แล้วโยวจิงทางนั้น ศิษย์พี่ใหญ่ก็เป็นเช่นนี้ เขาเหมือนจะมีความยึดติดอย่างรุนแรงกับการเอาเสื้อผ้าของผู้หญิงไป”
สวี่ชิงแปลกประหลาด ถามขึ้นอย่างอดไม่ได้
นายกองได้ยินก็หัวเราะอย่างหยิ่งทะนง
“เจ้าไม่เข้าใจ ข้าจะบอกเจ้าให้นะอาชิงน้อย นี่เป็นประสบการณ์ของข้า ของล้ำค่าในตัวผู้บำเพ็ญหญิงมีมากที่สุดแล้ว ยิ่งผู้บำเพ็ญหญิงเก่งกาจหน้าตาสะสวยยิ่งเป็นเช่นนี้ คนนับไม่ถ้วนแย่งกันส่งของกำนัล หลายชาติก่อนๆ ของข้าเห็นภาพคล้ายๆ ประเภทนี้มากมาย
“เจ้านึกย้อนถึงโยวจิงในตอนนั้น ก็เป็นแบบนี้ใช่หรือไม่ ของล้ำค่านับไม่ถ้วน”
ในสมองสวี่ชิงมีของล้ำค่านับไม่ถ้วนในถ้ำโยวจิงผุดขึ้นมา ก็เห็นด้วยเป็นที่สุด
“พฤติกรรมส่งของกำนัลเพื่อที่จะเอาใจผู้บำเพ็ญหญิงพวกนั้น ข้าเหยียดหยามนัก ดังนั้น ก่อนหน้านี้ข้าจึงสาบานในใจว่า จะต้องช่วยผู้บำเพ็ญหญิงเหล่านี้แบ่งเบาภาระของกำนัลให้สักหน่อย
“อาชิงน้อย สิ่งที่สำคัญที่สุดในการเป็นมนุษย์ของพวกเราคืออะไร คือความเมตตา ชอบช่วยเหลือผู้อื่น! ดังนั้นพฤติกรรมของข้าคือการมีเมตตา!”
นายกองสั่งสอนชี้แนะออกมาจากใจจริง
สวี่ชิงอึ้งตะลึงเล็กน้อย รู้สึกทะแม่งๆ แต่นายกองไม่ว่าจะเป็นน้ำเสียงหรือสีหน้าล้วนมั่นใจนัก ท่าทางเหมือนมีเหตุผลมาก
“เจ้านี่นะ ยังเด็กมาก ฟังข้าไว้ไม่ผิด ข้าคือศิษย์พี่ใหญ่ของเจ้า ข้าจะหลอกเจ้าหรือไร”
นายกองตบไหล่สวี่ชิง
“ไปเถอะ พวกเรายังมีเวลาอย่างน้อยอีกสามวัน ในตอนที่กลุ่มที่สามมาก็น่าจะเป็นเวลาที่พระจันทร์สีชาดตื่น ในสามวันนี้พวกเราพยายามหาของดีๆ กันสักหน่อย ไปดูก่อนว่าในวังนี้มีของล้ำค่าอะไร”
นายกองเลียริมฝีปาก เรียกสวี่ชิงไปด้วยกัน ทั้งสองคนทูนท่อนแขนขาดไว้บนศีรษะ เดินใกล้เข้าไปที่วังรูปร่างพญาหงส์
เพราะพระจันทร์สีชาดจะตื่นขึ้นทุกเวลา สวี่ชิงจึงไม่ได้ถามต่อ เคลื่อนไปข้างหน้าด้วยความเร็วสูงสุด
ท่อนแขนขาดข้างนี้ก็เคลื่อนไปบนพื้นเลือดเนื้ออย่างรวดเร็วเช่นนี้เอง เข้าใกล้วังพญาหงส์ข้างหน้าขึ้นเรื่อยๆ จวบจนหลังจากนั้นครู่หนึ่ง ท่อนแขนพลันหยุดชะงัก
สวี่ชิงกับนายกองสัมผัสได้ถึงความอันตรายกลุ่มหนึ่งแผ่มาจากข้างหน้า
และจากการสังเกตผ่านร่องนิ้วของท่อนแขนขาด ก็จะเห็นว่าข้างหน้าเป็นกำแพงเลือดเนื้อล้อมเอาไว้รอบหนึ่ง แยกข้างในข้างนอกออกจากกัน
ในกำแพงเลือดเนื้อเป็นพื้นที่ที่ไม่เล็กเลย วังพญาหงส์ข้างในมีทั้งหมดเก้าวัง
ไม่มีรูปสลักองครักษ์ กระทั่งว่าแม้แต่เสียงคำรามก็แผ่วเบากว่าที่อื่น
“เงียบเกินไปแล้ว” สวี่ชิงเอ่ยเสียงต่ำ
“ไม่ค่อยชอบมาพากล” นายกองพยักหน้า
ทั้งสองคนมองหน้ากัน สวี่ชิงออกคำสั่งเจ้าเงาทันที ในพริบตาเงาใต้ร่างเขาก็แผ่ออกไปตรวจสอบ ส่วนนายกองก็ยกมือขึ้นแล้วกัดนิ้วหนึ่งขาดทันที
หลังจากคายออกมา นิ้วก็เปลี่ยนเป็นหนอนผลึกวารี เคลื่อนไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว
สำหรับเรื่องนี้สวี่ชิงไม่แปลกใจ ตลอดทางมาเขาเห็นนายกองทำแบบนี้หลายครั้งแล้ว
นี่เป็นวิธีสำรวจของพวกเขาสองคน ร่วมมือกัน สามารถหาต้นตออันตรายจากหลายๆ ทิศทาง เลี่ยงอันตรายได้
เวลาผ่านไปทีละนิดเช่นนี้เอง ในตอนที่เจ้าเงาของสวี่ชิงเข้าไปใกล้วังพญาหงส์ส่วนนอกยิ่งขึ้น หนอนที่แปลงจากนิ้วของนายกองก็ชอนไชเข้าไปในกำแพงเลือดเนื้อ
กระโดดข้ามไป เพียงพริบตา แสงสีม่วงฉายวาบไปแถบหนึ่ง
ตัวหนอนผลึกวารีนั่นชะงักไปกลางอากาศ เหมือนไม่เห็นอาวุธคมกล้าปรากฏขึ้นแยกร่างมันออกเป็นส่วนๆ
พลังชีวิตของหนอนตัวนี้แข็งแกร่งมาก ต่อให้ถูกฉีกทึ้งก็กลับแปรเปลี่ยนเป็นตัวเดียว อย่างรวดเร็ว พุ่งไปต่อ แต่การจัดค่ายกลที่นี่ไม่ได้มีเพียงวิธีเดียว ไม่นานนักพลังควบคุมเป็นระลอกๆ ปะทุมาอย่างรวดเร็ว เพียงพริบตาหนอนที่เปลี่ยนมามีจำนวนมากมายก็ถูกทำลายทันที กลายเป็นเถ้าธุลีไปหมด
ทั้งยังถูกพลังกำจัดกลุ่มหนึ่งขับไล่ออกไปข้างนอก
พวกนี้ยังไม่นับเป็นอะไร หลังจากหนอนของนายกองกลายเป็นเถ้าถ่านไปแล้ว ก็ยังมีพลังผนึกกลุ่มหนึ่งปะทุมาจากข้างใน ปกคลุมไปยังบริเวณที่หนอนสลายไป
ตรงนั้นมิติบิดเบี้ยว ดวงตาข้างหนึ่งปรากฏออกมาจากสภาวะโปร่งแสง ถูกพลังสะกดควบคุมแหลกละเอียดไปในทันที
นายกองส่งเสียงครางต่ำ กระอักเลือดออกมา ขมวดคิ้ว
“ทำไมที่นี่มีการควบคุมพลังผนึกบรรพกาลด้วย อาชิงน้อย วังนี้ไม่ธรรมดา!”
การสำรวจของสวี่ชิงในตอนนี้ก็เจออุปสรรคขัดขวางเช่นกัน เงาของเขาแค่แผ่เข้าไปในกำแพงเลือดเนื้อ เสียงโหยหวนดังมาจากเจ้าเงาทางนั้น ร่างของมันถูกฟันขาดทันที
แต่เจ้าเงาก็โหดเหี้ยมต่อให้ถูกฟันขาดเป็นท่อน แต่ส่วนที่หลงเหลือในกำแพงเลือดเนื้อระเบิดตัวเองอย่างรวดเร็ว แปรเปลี่ยนเป็นเศษชิ้นส่วนนับไม่ถ้วน ใช้แรงทั้งหมดแผ่ไปรอบๆ จะลึกเข้าไปสำรวจพื้นที่กว้างๆ สักหน่อย
แต่การกระทำนี้กลับกระตุ้นการควบคุมชั้นที่ลึกลงไปอีกขึ้นมา เสี้ยวพริบตาต่อมา ในกำแพงเลือดเนื้อเลือนรางไปทั่วทุกทิศ ระลอกคลื่นพลังน่ากลัวกลุ่มหนึ่งกวาดโหมออกมาจากในนั้น ระเบิดบึ้มมาจากรอบๆ
ยิ่งมีแสงสีม่วงฉายวาบขึ้นในนั้น ทุกที่ที่พาดผ่าน เงาที่ถูกฟันขาดกลายเป็นท่อนนับไม่ถ้วนต่างส่งเสียงโหยหวนน่าเวทนาออกมา สลายไปทั้งหมด ถูกสังหารทันที
กระทั่งยังแผ่ลามออกมาข้างนอก จะไล่ย้อนตามหาต้นกำเนิด
กวาดตามองไป แสงสีม่วงสว่างจ้าขึ้นมาทันที พุ่งไปข้างนอก ยิ่งมีความเย็นยะเยือกโจมตีไปรอบๆ อย่างเร็วยิ่งกว่าแสงสีม่วงซัดมา
สวี่ชิงและนายกองหน้าเปลี่ยนสี สัมผัสได้ถึงความเย็นเยียบ แสงสีม่วงข้างหน้ายิ่งปกคลุมทุกอย่างที่อยู่ในสายตา เข้มข้นจนกลายเป็นสีดำ ทำให้ข้างหน้าพวกเขามืดไปทันที
ทั้งสองคนตอนนี้กำลังจะหลบหลีก แต่ในตอนนี้เอง แสงสีม่วงนั่นไม่รู้ว่าทำไมกลับม้วนกลับไป ทำให้โลกในดวงตาสวี่ชิงและนายกองกลับมาสว่างอีกครั้ง
นอกกำแพงเลือดเนื้อ ส่วนที่เหลือของเจ้าเงาหนีรอดมาได้ ม้วนกลับมาอย่างรวดเร็ว ในยามที่กลับมาข้างกายสวี่ชิงก็เนื้อตัวสั่นเทา ส่งคลื่นอารมณ์น้อยอกน้อยใจและหวาดกลัวมาหาสวี่ชิง


ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผู้กล้าเหนือกาลเวลา