บทที่ 524 ชื่อหมู่จุติ (2)
…………….
พื้นดินตลบม้วน ตำหนักวังนับไม่ถ้วนถล่มทลาย เลือดเนื้อที่ปกคลุมทั้งแดนต้องห้ามเซียนสั่นไหว ส่วนหนามแหลมทั้งยี่สิบเจ็ดเล่มก็แผ่แสงเจิดจ้าออกมา
ส่วนหัวใจเวลานี้ก็เต้นจนเลือดเนื้อปลิ้นออกมาด้านนอก ดวงตาสีทองขนาดหมื่นจั้งดวงหนึ่งก่อร่างขึ้นด้านในชั่วพริบตา ลืมตาขึ้นฉับพลัน
ฟ้าดินสะท้านสะเทือน ท้องฟ้าเปลี่ยนสี บิดเบี้ยวไปทั้งแปดทิศ ไอพลังประหลาดปะทุออกไปรอบด้าน
ทั่วทั้งโลกสลัวเลือนรางไปหมด ร่างเงาที่คารวะอยู่รอบๆ นั้นก็พากันกรีดร้อง ขณะที่สลายไปพร้อมๆ กัน ก็ค่ายกลแปดเหลี่ยมที่ถูกดวงตาขนาดยักษ์จับจ้องบนท้องฟ้า แตกสลายกลายเป็นฝุ่นธุลีในพริบตา
ร่างคนในชุดนักพรตทั้งสามร้อยหกสิบคนด้านในก็ทยอยระเบิดกลายพันธุ์ กลายเป็นฝนเลือดโปรบปรายลงมา
ส่วนฝนเลือดเหล่านั้นก็แปรเปลี่ยนไปกลางอากาศ กลายเป็นดวงตาสีทองนับไม่ถ้วน ห้อมล้อมรอบดวงตาหมื่นจั้ง ลืมตาขึ้นทั้งหมด จับจ้องไปบนท้องฟ้า ร่างเพียงหนึ่งเดียวที่อยู่ตรงนั้น!
จุดที่ดวงตาเหล่านี้จับจ้อง มีคนผู้หนึ่งลอยอยู่กลางอากาศ อยู่ในท่าคุกเข่า สองมือปิดดวงตาไว้ราวกับรูปสลัก
จางซืออวิ้นนั่นเอง
ร่างของเขาเจิดจ้าอย่างยิ่ง ไม่ถูกผลกระทบใดแม้แต่น้อยท่ามกลางสายตาจับจ้องของดวงตาเทพเจ้าบนพื้นดิน ราวกับว่าพลังของดวงตานี้ไม่คู่ควรให้เอ่ยถึงแม้แต่น้อย
พระจันทร์สีชาดอยู่ด้านหลังเขา แสงสีเลือดยังคงเจิดจ้า
กลายเป็นสิ่งที่ชัดเจนเพียงหนึ่งเดียวในทั่วทั้งแดนต้องห้ามเซียนแห่งนี้
มุมปากที่ยกขึ้นของเขายิ่งสูงขึ้นไปอีก ทั้งๆ ที่ควรจะน่าสะพรึงกลัว แต่ร่างเขากลับเผยความสง่างามที่ยากจะบรรยายออกมา ปล่อยมือทั้งสองจากหน้าดวงตา ค่อยๆ หยัดกายลุกขึ้นยืน
ระลอกคลื่นที่น่าสะพรึงวูบหนึ่งจากร่างขององค์ท่านปกคลุมฟ้าดิน
เส้นผมเขาเปลี่ยนจากสีดำเป็นสีเลือด ปลิวสยายไปที่ด้านหลังเขาไม่หยุด สุดท้ายก็กลายเป็นแผ่นฟ้า
เหนือศีรษะมีกวานที่มีหนามแหลมงอกเต็มไปหมดจำแลงออกมา เห็นใบหน้าเหี้ยมเกรียมสามดวงที่ถูกผนึกอยู่ด้านในได้อย่างชัดเจนบนนั้น กำลังกรีดร้องโหยหวน
พวกองค์ท่านถูกสร้างขึ้นมาให้กลายเป็นกวาน สวมอยู่บนศีรษะของจางซืออวิ้น
เส้นเลือดทั้งหมดใบบนหน้าจางซืออวิ้น ก็ค่อยๆ เคลื่อนมารวมกันที่หน้าผากของเขา ก่อร่างเป็นตราประทับพระจันทร์สีชาด
ในเบ้าตาทั้งสองราวกับแฝงทะเลเลือดเอาไว้ เปล่งแสงสีแดงน่าพรั่นพรึงออกมา
ชุดนักพรตสีดำทั้งตัวกลายเป็นฝุ่นฟุ้ง ชุดนักพรตสีทองตัวหนึ่งคลุมร่างไว้แทน
ชุดคลุมนี้ตัวใหญ่มาก ชายเสื้อโบกสะบัดสยายไปทั้งแปดทิศบนพื้นดิน
มองไกลๆ ภาพที่น่าตกตะลึงนี้ สั่นสะเทือนจิตใจของสรรพสิ่ง
เส้นผมคือท้องฟ้า ชายเสื้อคือแผ่นดิน
องค์ท่านยืนอยู่ระหว่างฟ้าดิน ราวกับเป็นเจ้าแห่งโลกา
ผนวกกับความงดงามของจางซืออวิ้น เจตจำนงศักดิ์สิทธิ์ไร้เทียมทานก็แผ่ซ่านไปทั้งร่าง
เพียงพอจะทำให้ทุกสรรพชีวิตที่มองเพียงผาดเดียวก็สายโลหิตแตกซ่าน แค่ได้ยินก็จมดิ่งสู่ทะเลทุกข์ไร้อาณา
หากคิดจะมีชีวิตต่อ ทำได้เพียงคารวะเท่านั้น
ตอนนี้ อำนาจเทพโหมขึ้นกระหน่ำ
แทนที่ความบิดเบี้ยวและความเลือนรางทั้งหมดที่เกิดขึ้นจากการเบิกเนตรของดวงตายักษ์บนพื้นในพริบตา สะกดลงไป
ส่วนไอพลังประหลาดที่นี่ก็ถูกเปลี่ยนแปลงจากต้นกำเนิดอย่างรวดเร็วเช่นกัน กลายเป็นหมอกสีแดง ประทับลงบนชุดคลุมสีทองขององค์ท่าน กลายเป็นอักขระแดงหลายสาย
“น่าสนใจ”
ชื่อหมู่บนฟากฟ้า เอ่ยเสียงแผ่วเบา
องค์ท่านรับย่อมรู้แผนการทั้งหมดของเผ่ามนุษย์ได้ในวินาทีที่ตื่นขึ้นแล้ว
สำหรับเทพเจ้า ไม่ต้องวิเคราะห์ ไม่ต้องคาดเดา เมื่อเห็นก็เข้าใจได้ทุกอย่าง
ข้อมูลทั้งหมดบันทึกอยู่ในร่างกาย อยู่ระหว่างฟ้าดิน เมื่อเทพเจ้ามองไป มนุษย์สามัญก็มิอาจปกปิดได้แม้แต่น้อย ราวกับโปร่งใสอย่างไร้ข้อกังขา
แต่กลยุทธ์ของจักรพรรดิมนุษย์ก็สัมฤทธิผลจริงๆ สำหรับชื่อหมู่ พริบตาที่ตื่นขึ้นมาแล้วเห็นเทพเจ้าของแดนต้องห้ามเซียน ก็เหมือนมีชิ้นเนื้อโอชะแขวนอยู่ที่ริมฝีปาก ทำให้องค์ท่านฝืนสัญชาตญาณที่อยากจะกลืนกินไม่อยู่
“กายพิเศษ ไม่เลว”
ชื่อหมู่ส่งเสียงที่ไม่ใช่ภาษามนุษย์ออกมา แต่ทุกเผ่าฟังเข้าใจ นั่นคือเสียงเทพ
เสียงสะท้อนก้อง แดนต้องห้ามเซียนปรากฏเค้าลางจะล่มสลายฉับพลัน แผ่นดินแตกระแหง รอยปริแตกบนท้องฟ้าก็กว้างขึ้น เผยให้เห็นโคลนสีดำด้านนอก และตอนนี้โคลนก็เปลี่ยนเป็นสีแดงอย่างรวดเร็วเช่นกัน
ราวกับว่าแดนต้องห้ามเซียน แบกรับเสียงขององค์ท่านไม่ได้
พื้นดินสั่นไหวอย่างรุนแรง ดวงตาในวังหลวงหลั่งเลือดสีทองออกมา หนามแหลมยี่สิบเจ็ดเล่มแผ่ระลอกคลื่นที่น่าครั่นคร้าม เสียงร้องคำรามดังก้องไปทั่วทิศ
“ท่านเทพชั้นสูงชื่อหมู่ จวนอวี้เจ้านายข้า ซือเทียนจือลี่และอู่ฉานจุดไฟเทพขึ้นที่ดินแดนกาฬกาลกินี เป็นเทพชั้นสูงด้วยเช่นกัน!”


ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผู้กล้าเหนือกาลเวลา